บทที่ 27 เซียนพนัน
หลินหยุนมองข้ามชิปกองนั้นไป จากนั้นก็โยนบัตรทองม่วงลงบนโต๊ะ แล้วพูด: “ฉันไม่ชินกับการได้มาโดยไม่ต้องทำอะไรเอง”
พนักงานมองจินหยวนเป่าที่ตะลึงอยู่เล็กน้อย ด้วยสีหน้าเชิงถาม
จินหยวนเป่าหัวเราะเสียงดัง พูด: “ได้ ตามนายพูด!”
พนักงานหยิบบัตรของหลินหยุนขึ้นมา รูดไปหนึ่งล้าน
หลี่เหยนและคนอื่นๆ เห็นภาพนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย: “ไอ้นี่มันรูดบัตรไปหนึ่งล้าน แต่สีหน้ามันไม่เปลี่ยนเลย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันเป็นไอ้ไร้ประโยชน์เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ?”
จ้าวกางพูดพลางยิ้มเยาะ: “มันแค่วางมาดตบตา อีกแป๊บเราชนะเงินมันมาได้จนหมด ดูสิว่ามันยังะทำหน้านิ่งอยู่ได้มั้ย!”
หวางเสี่ยวซีจับมือเซี่ยหยู่เวย แล้วพูดอย่างประหลาดใจ: “หยู่เวย เงินของหลินหยุนนั่นเธอเป็นคนให้ใช่มั้ย? หนึ่งล้านนะ เขาไปเอาเงินมาจากไหน?”
เซี่ยหยู่เวยทำสีหน้าเย็นชา แล้วพูดเสียงเข้ม: “น่าจะเป็นประธานจินที่ให้เขามา”
“ประธานจินคนนี้ทั้งให้บัตรทั้งให้เงิน สรุปแล้วหลินหยุนคนนี้มีดีตรงไหนเขาถึงทำแบบนี้?” หวางเสี่ยวซีทำสีหน้าไม่เข้าใจ.
นี่ก็เป็นคำถามที่เซี่ยหยู่เวยก็อยากรู้
“คุณชายจิน อยากเล่นอะไรดี พวกเราเล่นตาม!” จินหยวนเป่าทำหน้ายิ่งผยอง
“หลินหยุน นายล่ะ?” หลี่เหยนมองไปทางหลินหยุน
“แล้วแต่” หลินหยุนตอบอย่างนิ่งๆ
เซี่ยหยู่เวยขมวดคิ้ว ทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากเตือน: “หลินหยุน นายคิดดีๆ นะ ถึงแม้จะเป็นเงินที่ประธานจินให้ แต่ว่าเงินแค่นั้นมันก็ไม่ได้เพียงพอที่จะมาเดิมพันอะไรแบบนี้!”
จินหยวนเป่ายิ้มร้าย: “ความหมายของเธอคือเอาเงินพวกนี้กลับบ้าน แล้วให้เธอเก็บดูแลใช่มั้ย?”
มันก็จริงที่เซี่ยหยู่เวยคิดแบบนี้ หลินหยุนคือสามีในนามของเธอ เงินของหลินหยุนนี้ครึ่งนึงก็เป็นของเธอ
แต่มาถูกจินหยวนเป่าสะกิดโดนความคิดนี้ แน่นอนว่าเซี่ยหยู่เวยไม่มีทางยอมรับ: “ฉันแค่เตือนด้วยความหวังดี ถึงยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันในนาม ฉันไม่อยากให้เขาหมดตัว!”
หลินหยุนรู้สึกแค่ว่าคำพูดพวกนี้นั้นปลอมสุดๆ ทำให้เขาเริ่มรู้สึกรำคาญ: “เริ่มเถอะ!”
“ได้ แจกไพ่เถอะ!” หลี่เหยนพูดกับพนักงานที่อยู่ด้านข้าง
ป๊อกเด้งการเล่นแบบนี้มักจะพบได้บ่อยที่สุด เป็นวิธีการเล่นของผู้คนมากมาย กฎกติกาก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ถึงแม้จะเป็นหลินหยุนที่ไม่เคยเข้ากาสิโนมาก่อน ก็สามารถเข้าใจกติกาได้
ผู้ชายหลายคนนั่งล้อมโต๊ะพนัน ด้วยสีหน้าแตกต่างกันไป ก็เหมือนกับกำลังจะเปิดสงครามกัน บรรยากาศดูมาคุ
เซี่ยหยู่เวยและผู้หญิงคนอื่น ก็ยืนล้อมโต๊ะพนัน มองดูการเล่นไพ่
เมื่อแจกไพ่เสร็จ หลี่เหยนเริ่มพูดก่อน เขาหยิบชิปโยนลงไปที่กลางโต๊ะ: “หมื่นนึง!”
“ตาม!” จ้าวกางก็โยนชิปตามลงไปอีกหนึ่งหมื่น
เว่ยเทียนหมิงโยนชิปตามลงไป โดยไม่ได้พูดอะไร
หลินหยุนก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วโยนชิปตามลงไปหนึ่งหมื่น
เมื่อถึงตาจินหยวนเป่า เขาหัวเราะฮี่ๆ แล้วพูด: “มีของดีต้องเบิ้ล สองหมื่น!”
จากนั้นก็ลงตามกันไปหนึ่งรอบ จนจ้าวกางเริ่มเปิดไพ่ดู
“เชี่ย!” จ้าวกางสบถออกมา แล้วโยนไพ่ทิ้ง
หลี่เหยนก็เปิดไพ่ดู เห็นว่าตนมีคู่ห้า แต้มไม่มาก แต่ก็ไม่ได้น้อย
“หนึ่งแสน!” หลี่เหยนเพิ่มเงิน
เมื่อมีคนเปิดดูไพ่ เว่ยเทียนหมิงก็เปิดดูไพ่ เขาไม่ได้สนใจการพนันสักเท่าไหร่ เขาแค่เล่นตามสัญชาตญาณ
ดูไพ่เสร็จ ก็เห็นว่านเลขเก้านั้นใหญ่สุด เว่ยเทียนหมิงก็ทิ้งไพ่ลง
จินหยวนเป่าก็เปิดไพ่ดูเช่นกัน เป็นแปดใหญ่สุด เขาสบถคำหยาบออกมาคำนึง ก่อนจะทิ้งไพ่ลงเช่นกัน
เหลือแค่หลินหยุนกับหลี่เหยน
หลินหยุนยังคงไม่เปิดไพ่ดู เขาคว้าชิปมาห้าหมื่นแล้ววางลงไป กติกาของป๊อกเด้งคือถ้ามีคนดูไพ่ คนต่อไปต้องลงเงินสองเท่า
หลินหยุนลงห้าหมื่น นั่นก็เท่ากับว่าหลี่เหยนต้องลงหนึ่งแสน
จินหยวนเป่าชะโงกหัวเข้าไปดู ทันใดนั้นก็หลุดขำออกมาดังลั่น: “ฮ่าๆ หลี่เหยน นายเหนี่ยนะ ถ้าหากนายไม่เปิดไพ่ คนที่ชนะก็เป็นนาย!”
“หลินหยุน นายรู้ใช่มั้ยว่าไพ่ของเขาแต้มเท่ากับนาย? เพราะงั้นเลยไม่ยอมเปิดไพ่ดู??” จินหยวนเป่าถามอย่างสงสัย
หลินหยุนพยักหน้าตามความจริง: “ใช่”
หลี่เหยนหึออกมาหนึ่งที: “ฉันไม่เชื่อ เล่นต่อ!”
ต่อมา หลินหยุนไม่ได้แลกชิปเพิ่มสักเหรียญ เขาก็โยนชิปเข้าไป ถ้าไม่งั้นก็ไม่ยอมเปิดไพ่ แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็นเขาที่ชนะทุกครั้ง
ราวกับหลินหยุนมีดวงตาที่สามารถมองทะลุไพ่ได้ และสามารถมองทะลุไพ่ของทุกคนได้
“ไม่เล่นแล้ว!”
จ้าวกางแลกชิปไปรอบที่ห้าแล้ว ครั้งนึงแลกห้าแสน แลกห้าครั้งก็สองล้านห้าแล้ว เขาเล่นต่อไม่ไหวแล้ว
หลี่เหยนก็เจ็บปวดไม่หยุด เขาแลกชิปเงินไปสามลานเหรียญแล้ว นับรวมของเว่ยเทียนหมิงที่เขาก็ต้องออก นับรวมกันก็ห้าล้านแล้ว
ถึงแม้ว่าตระกูลเขาจะมีเงินเป็นร้อยล้าน แต่เงินจำนวนห้าล้านมันก็ไม่ใช่น้อยๆ
“โกง นี่มันต้องโกงกันแน่ๆ เปลี่ยนวิธีการเล่น!” หลี่เหยนไม่กล้าเล่นต่อ แต่ก็ทำใจยอมแพ้หลินหยุนแบบนี้ไม่ได้ จึงอยากจะเปลี่ยนวิธีการเล่น
จินหยวนเป่าหัวเราะเสียงดัง: “มีความสุข วันนี้มีความสุขจริงๆ !ฮ่าๆ ......”
“หลินหยุน พวกเขาอยากจะเปลี่ยนวิธีการเล่น นายว่ายังไง?” จินหยวนเป่าถามขึ้น ตอนนี้เขาถือว่าหลินหยุนเป็นผู้นำแล้ว หลินหยุนพูดว่าไง เขาก็ทำตามนั้น
หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ : “แล้วแต่”
ถึงแม้ว่าหลินหยุนจะมีพลังแค่ขั้นพื้นฐาน แต่ว่าถ้าอยากจะมองการพนันให้ออก แค่เวทมนตร์ง่ายๆ ก็สามารถมองออกแล้ว
ต่อมา พวกนั้นก็เล่นไพ่นกกระจอก เก้าเก แต่หลินหยุนก็ชนะตลอด ชนะเงินยิ่งกว่าป๊อกเด้งอีก
ถึงแม้ป๊อกเด้งจะสามารถมองทะลุไพ่ได้ แต่ก็ต้องใช้โชคช่วยให้ได้ไพ่แต้มสูงๆ ส่วนเรื่องวิธีเล่นตุกติก ถึงแม้หลินหยุนจะมี แต่ก็ไม่อยากทำ
ไม่งั้นหากพวกเพื่อนเก่าในโลกบำเพ็ญเซียนรู้เข้า ก็คงจะหัวเราะจนฟันหลุด
และวิธีการเล่นแบบอื่น อย่างเช่นพวกที่ใช้สี แค่ดูหลินหยุนก็รู้ว่ากี่แต้ม ไพ่นกกระจอกเล่นไม่เคยพลาดเลยสักใบ ไม่อยากชนะยังยากเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...