บทที่ 41 ผู้รับใช้ทั้งสิบสอง
หลินหยุนรู้ว่าข้างในนั้นเป็นเพียงปืนพกอัตโนมัติกระบอกหนึ่ง
แม้ว่าสภาพร่างกายตอนนี้ของหลินหยุนจะไม่สามารถต้านกระสุนได้ แต่เรื่องหลบกระสุนนั้นไม่ใช่ปัญหา
“นายสามารถหยิบปืนกระบอกนั้นออกมาทดลองดูก็ได้”
“นายนึกว่าฉันโตมาได้เพราะความตกใจเหรอ!” เจี่ยงสงหัวเราะเย็นชา ล้วนปืนออกมาอย่างรวดเร็ว
“ห๊า! เขามีปืนด้วย! หวางเสี่ยวซีตกใจจนอุทานออกมา อยู่ในจีนปืนถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
“หลินหยุน นายรีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเรา!” อีหลิงตะโกนด้วยความเป็นห่วง
“หลินหยุนหันไปพูดกับอีหลิงด้วยความอ่อนโยน: “วางใจเถอะ เขาทำร้ายฉันไม่ได้หรอก”
มองไปปากกระบอกปืนที่มืดมิด สีหน้าของหลินหยุนยังคงเรียบเฉย เพียงแต่สายตาที่มองเจี่ยงสงนั้นเย็นชายเล็กน้อย
“ลั่นไกรเลย!”
“หลินหยุน นายเป็นบ้าแล้วเหรอ?” เซี่ยหยู่เวยตะโกนด้วยความโกรธ: “เพื่อความกล้าหาญ นายไม่เอาแม้แต่ชีวิตเลยเหรอ?”
หลินหยุนไม่ได้ตอบเธอ จ้องมองเจี่ยงสงด้วยสายตาที่เรียบเฉย
ก็เป็นเพราะสายตาที่เรียบเฉยนี้ กลับทำให้เจี่ยงสงรู้สึกกดดันอย่างมาก
“น่าแปลกจริงๆ ทำไมฉันอยู่ต่อหน้าไอ้หมอนี่แล้วฉันกลับมีความรู้สึกกลัว!”
เจี่ยงสงไม่กล้ายิง เขามีความรู้สึกว่า หากเขายิง คนแรกที่ตายก็จะเป็นตัวเขาเอง
แต่ว่าเรื่องก็มาถึงตอนนี้ เจี่ยงสงจะวางปืนไม่ได้ หากวางปืนก็เท่ากับว่ายอมรับความขี้ขลาดต่อหน้าหลินหยุน
ท่านเจี่ยงผู้มีอิทธิพลอำนาจแสดงความขี้ขลาดต่อหน้าคนต๊อกต๋อย หากถูกแพร่งพรายออกไปก็จะกลายเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเจี่ยงสง
เวลาสั้นๆ หน้าผากของเจี่ยงสงกลับมีเหงื่อไหลออกมา
ในขณะที่เจี่ยงสงสองจิตสองใจนั้น บนเก้าอี้ในห้องพักผ่อน โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของหลินหยุนดังขึ้น
หลินหยุนเดินไปเหมือนไม่มีคน ทำเหมือนมองไม่เห็นปากกระบอกปืนของเจี่ยงสงที่เล็งตรงมาที่เขา
เบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย หลินหยุนรับสาย เสียงที่สุภาพของหยุนเยว่ก็ถูกส่งเข้ามา
“สวัสดีค่ะ ใช่คุณหมอเทพหลินหรือเปล่าคะ?”
“ใช่ครับ” หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย
“คืออย่างนี้ค่ะ ฉันได้หาสมุนไพรที่คุณต้องการครบแล้วนะคะ ตอนนี้คุณมีเวลาว่างหรือเปล่า จะรบกวนคุณมาหน่อย ตอนนี้อาการของเจ้านายฉันกำเริบแล้วค่ะ” น้ำเสียงของหยุนเยว่ ในความสุภาพก็มีความร้อนใจแฝงอยู่
หลินหยุนรู้สึกทึ่งในอำนาจบารมีของควีนจิน แค่เวลาหนึ่งวัน ก็สามารถหาสมุนไพรจนครบ ดูแล้วอำนาจบารมีในโลกนี้มีประโยชน์ไม่น้อยเลย
“ตอนนี้ผมเจอเรื่องยุ่งๆนิดหน่อย ยังไปตอนนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้ละกัน!” หลินหยุนมองเจี่ยงสงไปแวบหนึ่ง น้ำเสียงค่อนข้างจะเย็นชา
หยุนเยว่ที่เป็นคนใกล้ชิดของควีนจิน ความสามารถในการสังเกตคำพูดและสีหน้าของคนอื่นนั้นไม่มีใครเทียบได้ จากน้ำเสียงประโยคสุดท้ายของหลินหยุน เขาฟังออกว่าหลินหยุนเหมือนกำลังเผชิญกับความยุ่งยากอยู่
แม้ว่าจากน้ำเสียงที่ไม่ค่อยแยแสของหลินหยุน รู้ว่าหลินหยุนนั้นสามารถจัดการเองได้ แต่หากสามารถซื้อใจหลินหยุน อีกทั้งยังสามารถมารักษาอาการป่วยของควีนจินได้เร็วขึ้น ไม่เท่ากับดีต่อทั้งสองฝ่ายเหรอ?
“หมอเทพหลิน ขอเสียมารยาทถามหน่อยนะคะ คุณประสบกับปัญหาอะไรคะ? บางทีฉันอาจจะช่วยคุณได้ หวังเพียงว่าคุณจะสามารถมาช่วยรักษาอาการของเจ้านายฉันโดยเร็ว” หยุนเย่วพูดอย่างระมัดระวัง
คิดถึงอำนาจบารมีของควีนจินในมณฑลหลิงหนาน บางทีอาจจะสามารถเอาเจี่ยงสงอยู่ แบบนี้หลินหยุนก็ไม่ต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมา เพื่อไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น
“คนที่ผมกำลังเผชิญอยู่ เกรงว่าจะมีความยุ่งยากเล็กน้อย เขาเป็นผู้มีอิทธิพลอำนาจของเมืองหลินโจว เจี่ยงสง”
“เจี่ยงสง!” น้ำเสียงของหยุนเยว่ค่อนข้างที่จะเย็นชา: “หมอเทพหลิน รบกวนคุณเอาโทรศัพท์ให้เจี่ยงสง ให้เขารับโทรศัพท์!”
“ได้เลย!” หลินหยุนรู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องสนุกๆให้ดูแล้ว
หลินหยุนกล่าวอย่างเรียบเฉย: “งั้นก็ต้องดูว่าผู้มีอิทธิพลจากจะทำยังไง”
หยุนเยว่กล่าว: “วางใจเถอะ ถ้าหากเขาไม่สามารถทำให้คุณพอใจ ให้คุณลงโทษตามใจชอบได้เลย!”
เมื่อเห็นหลินหยุนวางสาย เจี่ยงสงรีบโค้งตัวแล้วกล่าว: “คุณหลิน ผมมีตาแต่ไร้แวว ไม่รู้ว่าคุณนั้นเป็นแขกของคุณจิน ใคร่ขอให้คุณอภัยกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของผมเมื่อกี้ด้วย!”
ด้านหลังของหลินหยุน จ้าวกางและพวกอึ้งทึ่งไปทันที
“นี่มันอะไรกัน ผู้มีอิทธิพลอำนาจอย่างเจี่ยงสงกล่าวขอโทษหลินหยุน!” สีหน้าท่าทางของจ้าวกาง ต่อให้ใช้อิโมจิทั้งหมดก็ยังไม่สามารถมาแสดงความรู้สึกที่มีได้
“เขาเป็นถึงเจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลอำนาจนะ! แม้กระทั่งเว่ยเทียนหมิงยังกลัวจนหนี แม้แต่หน้าของรองผู้ว่าเว่ยยังไม่ไว้เลย ตอนนี้กลับมาทำหน้าตาละห้อยเพื่อขอโทษหลินหยุน!”
ในใจของจ้าวกางเต็มไปด้วยความคำเหี้ย ราวกับว่ามีขีปนาวุธข้ามทวีปเกือบหนึ่งหมื่นลูกยิงเข้ามา
ใบหน้าของอีหลิงก็ตกใจเช่นกัน เธอรู้สึกว่าบนตัวของหลินหยุนมีความลับซ่อนอยู่มากมาย แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ หลินหยุนกลับมีบารมีที่ใหญ่ขนาดนี้ คนใหญ่คนโตอย่างเจี่ยงสงอยู่ต่อหน้าเขายังต้องก้มหัวที่สูงส่งลง
ความรู้สึกตอนนี้ของเซี่ยหยู่เวย เมื่อเทียบกับคนอื่นๆนั้นยิ่งสับสนมากกว่า เพราะว่าหลินหยุนนั้นเป็นสามีในนามของเธอ!
“มันเป็นไปได้ยังไง เขาทำได้ยังไงกัน? สองสามวันมานี้ในร่างกายของเขา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ในหัวสมองของเซี่ยหยู่เวยเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม และความจริงที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนเครื่องหมายตกใจ
ตอนแรกเพื่อคนที่ชื่อจินซื่อหรง เซี่ยหยู่เวยและเซี่ยเจี้ยนโก๋เกือบจะผิดใจกับหลินหยุนแล้ว
ตอนนี้เห็นเจี่ยงสงถึงกลับก้มหัวยอมรับผิดต่อหน้าหลินหยุน ความตกใจนี้ราวกับน้ำเชี่ยวที่ไหลแรงกระทบเข้ามาที่หัวใจของเชี่ยหยู่เวย
ความรู้สึกตอนนี้ในใจของเชี่ยหยู่เวยไม่รู้จะใช้คำอะไรมาเปรียบเปรยดี!
ช่างตลกสิ้นดี เมื่อกี้ฉันยังหัวเราะเขาไม่รู้จะที่เป็นที่ตาย สุดท้ายกลับโดนเขาตบหน้าด้วยภาพนี้จริงๆ
“หลินหยุน นายยังมีเรื่องอีกมากมายเท่าไหร่ที่ยังปิดบังฉันอยู่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...