บทที่ 43 ความคิดที่กะทันหัน
ในห้อง หลินหยุนเริ่มกลั่นยา
พลังทิพย์ผ่านฝ่ามือ กลายเป็นเปลวไฟ สมุนไพรในกล่อง ได้ถูกกลั่นอยู่บนกลางอากาศ
ในห้อง อุณหภูมิไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ความร้อนจากเปลวไฟ ทั้งหมดถูกหลินหยุนควบห่างจากตัวครึ่งเมตร
สำหรับการควบคุมกฎของฟ้าดินของมหากษัตริย์ชางฉอง มันถึงขึ้นที่คนธรรมดาไม่อาจที่จะเข้าใจได้แล้ว
ยาปฐมภูมิเป็นยาที่พบเห็นได้บ่อยในแดนบำเพ็ญเซียนโลกเซียน โดยปกติแล้วแต่ละก๊กละสำนักจะให้ลูกศิษย์ที่เข้ามาใหม่กินแทนขนม
เพียงแต่ว่า ต่อให้จะเป็นยายาปฐมภูมิที่ด้อยประสิทธิภาพพันเท่า สำหรับคนธรรมดาเหล่านี้แล้ว มันไม่ต่างจากยาอายุวัฒนะในตำนานที่พวกเขาร่ำลือกัน
คนธรรมดากินเข้าไป กำจัดโรคเพิ่มอายุขัย นักบู๊กินแล้ว สามารถเพิ่มพลัง ฟื้นฟูภายใน
เพียงแต่ ยาปฐมภูมิต้องมีพลังปฐมภูมิขั้นสุดท้ายจึงจะสามารถกลั่นได้ แต่วันนี้พลังของหลินหยุนเป็นเพียงระยะปฐมภูมิตอนแรก ยังขาดอีกสองขั้น
แต่หลินหยุนใช้ความเข้าใจในกฎแห่งสวรรค์และโลก สามารถชดเชยพลังที่ไม่เพียงพอ พอที่กลั่นยาปฐมภูมิได้
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง หลินหยุนเดินออกมาจากห้อง
หยุนเยว่ที่อดรนทนไม่ไหว ได้เฝ้าอยู่ด้านนอกนานแล้ว เมื่อเห็นหลินหยุนออกมาเร็วขนาดนี้ อดไม่ได้ที่จะตกใจ: “ล้มเหลวแล้วเหรอ?”
หลินหยุนสีหน้าซีดเซียว ยื่นมือออกมา ยาเม็ดใส ๆหนึ่งเม็ดกลิ้งไปมาในกลางฝ่ามือของเขา
“สำเร็จแล้ว!” หยุนเยว่ดีใจมาก
“แค่เวลาครึ่งชั่วโมงก็สามารถที่จะกลั่นมันสำเร็จ คุณหลิน คุณเหมาะสมกับฉายาหมอเทพมากจริงๆ!”
หยุนเยว่เป็นนักบู๊ ก็เคยได้ยินเรื่องราวของนักกลั่นยาในโลกบู๊มาบ้าง เหมือนยาที่จะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในที่เป็นเวลาสิบปีของควีนจิน หากไม่ใช่สิบวันหรือครึ่งเดือน ไม่มีทางที่จะกลั่นสำเร็จอย่างแน่นอน
แต่ว่าหลินหยุนใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ก็กลั่นสำเร็จแล้ว!
“ตอนนี้สามารถที่จะไปรักษาเจ้านายของฉันได้หรือยัง?” หยุนเยว่ถามอย่างคาดหวัง
“เพราะอายุของสมุนไพรค่อนข้างที่จะสั้น ดังนั้นยาปฐมภูมิเม็ดนี้ยังไม่สามารถที่จะรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดของควีนจิน ต้องให้ผมฝังเข็มในการช่วยอีกแรง รอให้ผมพักผ่อนสักครู่”
หลินหยุนพูดจบ ก็จะลงไปบนพื้นทันที เริ่มฟื้นฟูพลังทิพย์ การฝังเข็มต้องใช้พลังเพื่อป้องกันเข็ม เขาใช้พลังไปมาก ตอนนี้ไม่สามารถที่จะฝังเข็มได้อีก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป หลินหยุนและหยุนเยว่ก็ได้ไปถึงห้องของควีนจินอีกครั้ง
หลินหยุนได้มอบยาปฐมภูมิให้กับหยุนเยว่ แล้วกล่าว:” ป้อนเธอสิ”
“ค่ะ!” หยุนเยว่รีบเดินเข้าไป แล้วป้อนยาควีนจิน
หลินหยุนก็ได้ใช้วิชาฝังเข็ม ช่วยควีนจินฝังเข็มไปครึ่งชั่วโมง
เพียงแต่ว่า จุดฝังเข็มสุดท้ายเป็นจุดที่ค่อนข้างจะเขินอาย อยู่บนตำแหน่งสองจุดของควีนจิน
หลินหยุนไม่ได้รู้สึกว่าไม่เหมาะสมอะไร เพราะในใจเขาไม่ได้คิดอะไร: “ถอดเสื้อผ้าออกด้วย”
แต่ว่าควีนจินและหยุนเยว่ กลับลำบากใจมาก
หลินหยุนเห็นความอึดอัดของเขาทั้งสอง ก็พูดอย่างเปิดเผย: “ในสายตาของหมอ มีแต่คนไข้ ไม่มีชายหญิง”
ควีนจินก้มหน้ากล่าว: “เป็นฉันที่อวดดีเกินไป หมอเทพโปรดอภัย!”
พูดจบ ก็ถอดเสื้อผ้าออกเอง เผยเรือนร่างที่งดงาม
หลินหยุนไม่ว่อกแว่ก ใช้เข็มเร็วและแม่นยำ หลังจากฝังเข็มเข้าไป ควีนจินก็รู้สึกทันทีว่าเส้นลมปราณในร่างกายของเธอถูกปิดกั้นมานานหลายปี ก็ไหลลื่นทันที
หลังจากการฝังเข็มที่เป็นเลิศ หลินหยุนก็มาเอาเข็มออก
“เอาละ”
“เส้นลมปราณของคุณไหลลื่นแล้ว แต่ยังคงต้องพักผ่อนครึ่งเดือน ไม่สามารถที่จะฝึกวิชาที่เคยฝึกฝนอีก”
ควีนจินลงจากเตียง สีหน้าแดงเล็กน้อย โค้งคำนับไปทางหลินหยุน: “ขอบคุณหมอเทพหลินที่ช่วยให้ฉันพ้นจากความทุกข์ทรมาน หมอเทพหลินต้องการให้ตอบแทนยังไง ขอให้พูดมาเต็มที่!”
“ขอเพียงเป็นสิ่งที่ฉันสามารถทำได้ ฉันจะไม่ปฏิเสธเลย!”
ขอเพียงมีวิชาแค่หนึ่งฉบับ ก็สามารถที่จะเปิดสำนักได้เลย
ผลจากการคิดทบทวน ทันใดนั้นหลินหยุนก็มีความคิดขึ้นมาหนึ่งความคิด กลับทำให้ควีนจินตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
หลินหยุนไม่เข้าใจพวกนี้ ในสายตาที่เขามอง วิชานี้ฉบับนี้เป็นเพียงขยะเล่มหนึ่ง หากอยู่ในแดนบำเพ็ญเพียรโลกเซียนเกรงว่าคงจะถูกหัวเราะเยาะจนฟันร่วง
“ช่วยคุณแก้ไขวิชา เป็นเพียงความคิดที่เกิดขึ้นมากะทันหัน ดังนั้นวิชาฉบับนี้ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร คุณก็อย่าตื้นตันมากนะเลย”
ควีนจินจู่ๆก็มีความรู้สึกที่อยากจะตาย เป็นอย่างที่เขาว่าแข่งกับคนเทียบกับคนก็จะทำให้เราเครียดตาย สิ่งของเทียบกับสิ่งของก็ทำให้เราอยากคืนของ
วิชาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นเพียงความคิดที่เกิดขึ้นกะทันหันที่อยากจะแก้ไขของหลินหยุน อีกอย่างในสายตาของหลินหยุนเป็นเพียงขยะเล่มหนึ่ง
ต่อให้เป็นควีนจินที่มีอำนาจสะท้านไปทั้งเมืองหลิงหนาน เวลานี้นอกจากหัวเราะเจื่อนๆ ก็ไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้าอะไรดี
“ในเมื่อคุณหลินมอบให้ งั้นฉันก็จะรับมันเอาไว้”
ควีนจินเกือบจะเข้าใจแล้ว ตัวเองกับหลินหยุนนั้นไม่ใช่คนในโลกใบเดียวกัน ดังนั้นก็อย่าไปใช้มุมมองของโลกตัวเองไปวัดกับหลินหยุน ไม่อย่างนั้นก็จะตายด้วยความอับอาย
เดิมที ควีนจินนึกว่าหลินหยุนบางทีอาจจะเป็นผู้เก่งกล้าที่มีพรสวรรค์มากคนหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นปรมาจารย์บู๊แต่ตอนนี้ ควีนจินรู้สึกว่าต่อให้เป็นปรมาจารย์บู๊ก็ไม่คงไม่สามารถสู้กับพลังของหลินหยุนได้ หลินหยุนอาจจะเป็นลูกศิษย์ที่สัตว์ประหลาดรับเอาไว้ มาบำเพ็ญเพียรในโลกมนุษย์
ด้วยเหตุนี้ ท่าทีที่ควีนจินแสดงต่อหลินหยุนยิ่งสุภาพกว่าเดิมแล้ว
“เอาละ คุณพักรักษาตัวให้ดีๆเถอะ ผมกลับก่อนแล้ว” หลินหยุนกล่าว
“ฉันไปส่งคุณ!”
ควีนจินส่งหลินหยุนขึ้นรถด้วยตัวเอง แล้วมองเจี่ยงสงอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง
เจี่ยงสงสะดุ้งจนสั่น สามารถมีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องพูดเลย แค่สายตา เจี่ยงสงก็เข้าในความหมายของควีนจินแล้ว
เจี่ยงสงอดไม่ได้ที่จะแอบดีใจ โชคดีที่ตอนนั้นเขาไม่ได้ไล่ไกร ไม่อย่างนั้นคนที่ตายต้องเป็นตัวเองอย่างแน่นอน
มองจนรถที่ส่งหลินหยุนลับตา ควีนจินถามด้วยใบหน้าที่สงสัย: “หยุนเยว่ เรื่องที่ฉันให้เธอไปตรวจสอบ เธอตรวจสอบชัดเจนหรือยัง?”
“เจ้านาย ตรวจบสอบแล้วค่ะ คุณหลินคุณนี้เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลเชี่ย เมื่อก่อนไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร โดนรังแกมาโดยตลอด ก็ช่วงสองสามวันมานี้ จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นคนละคน” หยุนเยว่กล่าวอย่างสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...