อู๋ผิงผิงขับรถด้วยความเร็ว ขณะขับรถก็พูดว่ารถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของตนเองดียังไง และคุยโม้โอ้อวดมาตลอดทาง
ในที่สุดรถก็ขับเข้าไปในรีสอร์ตรีที่มีน้ำพุร้อนที่เชิงเขาในเขตชานเมือง อู๋ผิงผิงจอดรถ ชี้ไปที่รีสอร์ตแล้วพูดว่า “รีสอร์ตที่นี่ถูกจางเจียต้องเหมาแล้ว วันนี้สถานที่แห่งนี้เป็นของพวกเรา พวกเราสามารถสนุกได้อย่างเต็มที่”
“ก็ไม่เห็นมีอะไร”
หลี่โม่กล่าวอย่างราบเรียบ
อู๋ผิงผิงหัวเราะ แล้วเหลือบมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม “คุณเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีแม้แต่งาน ยังมาคุยโม้โอ้อวดอีก คุณรู้หรือเปล่าว่าการเหมารีสอร์ตสำหรับวันหยุดหนึ่งคืนมีค่าใช้จ่ายเท่าไร? มันเท่ากับเงินเดือนสามหรือห้าปีของคุณเลยน่ะ”
“ฮ่า ๆ”
หลี่โม่ยักไหล่ด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้โต้เถียงกับอู๋ผิงผิง การโต้เถียงกับเธอดันแต่จะทำให้คุณค่าในตนเองลดลงเท่านั้น
เมื่อทั้งสามลงจากรถ อู๋ผิงผิงเดินนำอยู่ข้างหน้า ทุกครั้งที่เดินผ่านพนักงานบริการต่างโค้งคำนับให้พวกเขา สิ่งนี้ทำให้อู๋ผิงผิงรู้สึกพึงพอใจ
เมื่อถึงบ้านพักตากอากาศที่อยู่ตรงการของพื้นที่ในรีสอร์ต มีผู้ชายสี่คนนั่งอยู่ด้วยกัน ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางดูหยิ่งผยอง ขณะที่อีกสามคนแสดงท่าทางที่ประจบ
เมื่อเห็นอู๋ผิงผิง หลี่โม่และกู้หยุนหลันทั้งสามคนมาถึง จางเจียต้องซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองมาที่กู้หยุนหลัน
“หยุนหลัน”
จางเจียต้องตื่นเต้นจนพูดไม่ออก คนที่ตนเองถวิลหาทุกเช้าค่ำปรากฏตัวต่อหน้า ทำให้จางเจียต้องรู้สึกราวกับเหมือนอยู่ในความฝัน
อู๋ผิงผิง เดินไปที่ด้านข้างของจางเจียต้องอย่างรวดเร็ว แล้วผลักจางเจียต้องเบา ๆ “ยืนซื่ออยู่ทำไม? มารยาทของต่างประเทศทักทายด้วยการกอดและหอมแก้มไม่ใช่หรือ รีบไปทักทายหยุนหลันสิ”
จางเจียต้องจึงได้สติขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปหากู้หยุนหลันด้วยรอยยิ้ม ขณะอ้าแขนเพื่อจะโอบกอดกู้หยุนหลัน หลี่โม่ก็มายืนอยู่ข้างหน้ากู้หยุนหลัน
“ไม่ต้องมาทักทายอะไร คุณกับภรรยาของผมเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย เธอลืมไปแล้วแม้กระทั่งชื่อของคุณ พวกคุณไม่จำเป็นต้องจับมือทักทายกันด้วยซ้ำ”
หลี่โม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จางเจียต้องขมวดคิ้วเป็นปม มองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “แก! หลบไปซะ เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่เกาะผู้หญิงกิน แกไม่คู่ควรที่จะอยู่กับหยุนหลันเลย! ผมมาคราวนี้เพื่อช่วยให้หยุนหลันหลุดพ้นจากความทุกข์ให้เธอมีชีวิตสดใสในอนาคต!”
หลี่โม่ส่ายศีรษะ กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “แกไม่คู่ควร”
“ไอ้เศษสวะแกบ้าไปแล้วหรือ กล้าพูดว่าเจียต้องไม่คู่ควร! ถ้าเจียต้องไม่คู่ควรกับหยุนหลัน แกยิ่งไม่คู่ควรกว่า”
“ไอ้ยาจกอย่างแกทำให้หยุนหลันมีชีวิตที่ทุกข์มาหลายปี ตอนนี้เจียต้องจะทำให้หยุนหลันมีชีวิตที่ดี แกไม่มีสิทธิ์มาขัดขวาง”
เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนช่วยจางเจียต้อง พวกเขารู้สึกว่ากู้หยุนหลันจะต้องทิ้งหลี่โม่ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในต่างประเทศกับจางเจียต้อง
จางเจียต้องหรี่ตา มีแสงแปลก ๆ ส่องผ่านรูม่านตา หากมองใกล้ ๆ จะพบเป็นจุดสีแดงเล็ก ๆ ตรงกลางรูม่านตาของจางเจียต้อง
“หลบไป นี่คือโอกาสสุดท้ายของแก มิเช่นนั้นวันนี้จะเป็นวันตายของแก!”
จางเจียต้องพูดอย่างโหดเหี้ยม
“จางเจียต้อง คุณอย่าสร้างปัญหาเลย ฉันกับหลี่โม่มีความสุขมาก ฉันจะไม่แยกจากหลี่โม่เป็นอันขาด”
คำพูดของกู้หยุนหลันเหมือนมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของจางเจียต้อง ทำให้หัวใจของจางเจียต้องแตกสลายในพริบตาเดียว
จางเจียต้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
จอห์นมองไปที่หลี่โม่ และกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “ผอมแห้งเหมือนคนป่วยเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องลงมือพร้อมกันทั้งสองคน ให้คาร์ลจัดการคนเดียวก็พอแล้ว เขาเป็นปรมาจารย์มวยใต้ดินแชมป์สิบสมัยติดต่อกัน ราชามวยไทยก็ถูกเขาชกจนน่วม”
อู๋ผิงผิงและคนอื่นๆ ฟังด้วยความตื่นเต้น ในสายตาพวกเขาราชามวยไทยเป็นคนเก่งสุดยอดแล้ว ยังถูกคาร์ลชกตีจนน่วม ถ้าจะจัดการหลี่โม่มันก็เป็นเรื่องง่ายดาย
“จัดการไอ้เศษสวะไม่จำเป็นต้องใช้ยอดฝีมือ เจียตงให้พวกเราสั่งสอนคนไร้ประโยชน์ก็ได้แล้ว”
“เฮ้ ๆ คนไร้ประโยชน์นอนกับนางในดวงใจของเจียต้องมาหลายปีแล้ว คิดว่าเจียต้องคงอยากจะฆ่าเขามานานแล้ว ถึงแม้ว่าคนไร้ประโยชน์อย่างมันจะถูกฆ่าตายก็ถือว่าเกิดมาคุ้มแล้ว เพราะได้นอนกับกู้หยุนหลันมาหลายปี แม่งอิจฉาจริงๆ”
จางเจียต้องจ้องหลี่โม่ด้วยดวงตาที่อาฆาตแค้น เป็นดั่งที่เพื่อนร่วมรุ่นเหล่านั้นกล่าวจริงๆ จางเจียต้องรู้สึกเกลียดหลี่โม่มาก และอยากจะฆ่าหลี่โม่ให้ตาย
นอกจากนี้จางเจียต้องยังมีความลับที่ยิ่งใหญ่ เพื่อที่จะตั้งหลักในต่างประเทศได้ จางเจียต้องได้เข้าร่วมการทดลองทางพันธุกรรมแบบลับๆ และเขากลายเป็นคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุกรรม
ความสำเร็จของการดัดแปลงพันธุกรรมทำให้ร่างกายของจางเจียต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และเมื่ออยู่ในภาวะอารมณ์โกรธ ร่างกายจางเจียต้องจะเข้าสู่วงจรการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น หลังจากนั้นจางเจียต้องจะยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก
ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้จางเจียต้องมีสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีคาร์ลและจอห์นติดตามอยู่ข้างกาย ซึ่งสองคนนี้ถูกองค์กรพิเศษส่งมาเพื่อปกป้องคุ้มครองจางเจียต้อง
ทั้งจอห์นและคาร์ลไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งคู่ผ่านการฝึกพิเศษมาแล้ว และสมรรถภาพทางกายของพวกเขาเหนือกว่านักสู้ระดับหัวกะทิทั่วไปมาก พวกเขาสามารถกวาดล้างทีมปฏิบัติการพิเศษที่มีความแข็งแกร่งได้ เรียกได้ว่าเป็นนักฆ่าที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์
จอห์นก้าวถอยหลังเพื่อเชียร์คาร์ล คาร์ลโบกสะบัดมีดล่าสัตว์ในมือ มีรอยยิ้มเหี้ยมปรากฏอยู่ที่มุมปาก “คุกเข่าลง แล้วฉันจะให้แกตายอวัยวะครบสามสิบสอง มิฉะนั้นฉันจะตัดหัวของแกแล้วเตะมันเล่นแทนลูกบอล”
หลี่โม่ยื่นมือออกมาปกป้องกู้หยุนหลันที่อยู่ด้านหลัง หรี่ตามองไปที่คาร์ล “คนที่จะตายก็มีแต่ขยะอย่างแก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...