ภายในคลังสมบัติลับ พวกจ้าวเทียนได้ลงมาจนถึงห้องลับชั้นใต้ดิน มันมีขนาดเล็กมากเพียงยี่สิบตารางเมตรเท่านั้น ทั้งยังเป็นเพียงห้องโล่งๆ ที่ไม่มีของสิ่งใดอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“ ผู้ก่อตั้ง…สร้างทางลับไว้เพื่ออะไรกันนะ ” เหยียนซืออู่พูดออกมาด้วยความสงสัย เขาใช้เนตรคุนหลุนตรวจดูแล้ว ก็ไม่พบเบาะแสอะไรทั้งสิ้น
จ้าวเทียนเองก็ลองใช้เคล็ดวิชาตรวจดูแล้วเช่นกัน ผลก็เป็นเหมือนเดิม แต่ในขณะที่เขากำลังตรวจดูกำแพงรอบๆ ก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
!!
‘ ของที่อยู่ในแหวนมิติ…มีการตอบสนองต่อสถานที่นี้ ’
วูป
แผ่นหยกขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนฝ่ามือจ้าวเทียน มันเป็นกุญแจเข้าสู่คลังสมบัติแห่งนี้
วิ้งงง!
ทันใดนั้น ก็เกิดดวงแสงสีขาวสว่างขึ้นตรงกลางห้อง
มันค่อยๆเปลี่ยนรูปร่าง เป็นลักษณะของมนุษย์อย่างช้าๆ ผ่านไปประมาณ 5 นาที ตรงหน้าจ้าวเทียน ก็มีชายชรายืนอยู่หนึ่งคน เขาสวมชุดแบบโบราณสีดำตัดทองอันเป็นเครื่องแบบของสำนักคุนหลุน
“ หืม…นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว หลังจากที่ฉันออกมาครั้งก่อน ” ชายชราพูดขึ้นด้วยสีหน้าหวนรำลึก
“ คุณคือ…ผู้ก่อตั้งใช่ไหม ” เหยียนซืออู่ถามออกมาอย่างคาดหวัง
แม้ว่าในบันทึกของสำนักคุนหลุนจะไม่ได้มีภาพวาดของผู้ก่อตั้งเก็บเอาไว้ แต่เขาจำชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ได้ เพราะมันถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาสามพันปีที่ผ่านมา
“ ผู้ก่อตั้งหรือ…เธอหมายถึงเรื่องอะไร ” ชายชราถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ เอ่อ…คุณไม่ใช่ผู้ก่อตั้งสำนักคุณหลุนหรอกหรือ” เหยียนซืออู่พูดขึ้นด้วยท่าทีผิดหวัง
“ คุนหลุนงั้นรึ…เหมือนฉันจะรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่ ” ชายชราพูดออกมาเบาๆ
แว๊ป !
ดวงตาของชายชราเปล่งแสงสีทองออกมา มันคล้ายกับเคล็ดวิชาเนตรคุนหลุนมาก แต่ทรงพลังกว่าหลายขั้น
ตอนนี้เหยียนซืออู่รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายมองเห็นความลับทุกอย่างของเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีสิ่งใดเล็ดลอดสายตาของชายชราไปได้
“ อ๋อ…ที่แท้เธอเป็นทายาทของเหยียนซุยเฉินนี่เอง สำนักคุนหลุนของเธอก็คงเป็นเขาที่สร้างขึ้นใช่ไหม ” ชายชราพยักหน้าอย่างเข้าใจ
!!
“ ใช่แล้ว…เหยียนซุยเฉินคือบรรพชนของฉันเอง ผู้อาวุโสคุณเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมาอยู่ในคลังสมบัติลับของสำนักฉัน ” เหยี่ยนซืออู่ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
เรื่องนี้สำคัญกับตัวเขามาก ความลับของสถานที่แห่งนี้มันไม่ควรถูกเปิดเผยออกไป
“ ฉันชื่อ…หยวนตี้ สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในสามคลังสมบัติลับของนิกายจูเซียน ไม่ใช่คลังสมบัติลับของสำนักคุนหลุนอย่างที่เข้าใจกันหรอกนะ ” หยวนตี้ตอบอย่างชัดเจน
!!
“ นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน ” เหยียนซืออู่พึมพำออกมาด้วยความสับสน บันทึกทุกอย่างของสำนักล้วนบอกว่านี่คือคลังลับของสำนัก จะไปเป็นของนิกายจูเซียนได้อย่างไร
“ เมื่อสามพันปีก่อน…เหยียนซุยเฉินบรรพบุรุษของเธอได้ค้นพบมิติลับแห่งนี้ และได้ผ่านการทดสอบของสำนักจูเซียน จนได้สืบทอดคลังสมบัติลับของนิกายจูเซียน ”
“ ฉันคิดว่า…เขาคงต้องการปิดเรื่องของนิกายจูเซียนไว้เป็นความลับ ก็เลยบอกลูกหลานว่าเป็นคลังสมบัติของคุนหลุน ” หยวนตี้อธิบายแก้ข้อสงสัยให้แก่เหยียนซืออู่
ในขณะที่ทุกคนกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่หยวนตี้พูดออกมา ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าจ้าวเทียนมีท่าทีแปลกไป ตั้งแต่ได้ยินชื่อนิกายจูเซียน
แววตาของเขาสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว ภายในใจของเขาตอนนี้สามารถเชื่อมโยงปริศนาต่างๆทั้งหมดได้แล้ว
‘ ตอนที่ฉันขึ้นเป็นมหาเทพปกครองแดนสวรรค์…ทำให้สามารถอ่านบันทึกประวัติของมหาเทพรุ่นก่อนได้ ในนั้นมีข้อมูลของมหาเทพองค์หนึ่งที่ปกครองแดนสวรรค์ได้เพียงแค่ร้อยปีเท่านั้น ก่อนจะหาบสาบสูญไป ’
‘ นิกายของเขาเองก็ถูกทำลายอย่างสิ้นซาก ภายในเวลาไม่กี่วัน มันได้ทำให้แดนสวรรค์ทั้งหมดสั่นสะเทือน เพราะมันคือนิกายอันดับหนึ่งในแดนสวรรค์ยุคนั้น ’
‘ จูเซียน…คือชื่อของนิกายที่ถูกลบออกจากประวัติศาตร์อย่างแท้จริง ’
‘ แม้ว่าภายหลังจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเท่าไหร่ ก็ไม่พบเบาะแสอะไรเลยทั้งสาเหตุหรือผู้ที่ลงมือ สร้างความหวาดกลัวให้เหล่าขุมอำนาจอื่นๆเป็นอย่างมาก ’
จ้าวเทียนไม่คิดเลยว่าโลกที่เขาอยู่ จะเป็นต้นกำเนิดของนิกายที่แข็งแกร่งขนาดนั้นได้ เพราะในจักรวาลแห่งนี้มีโลกวัตถุนับหมื่นนับแสน โลกมนุษย์แห่งนี้เหมือนเป็นเพียงฝุ่นเม็ดเล็กๆเท่านั้น ถ้าเทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่
‘ ฉันพอคาดเดาออกแล้ว…เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ทางเชื่อมแดนสวรรค์ถูกทำลายเพราะสาเหตุใด และทำไมเต๋าสวรรค์จึงต้องผนึกเส้นทางฝึกตนของโลกใบนี้ไว้ ’
“ คิกคิก น้องชายสุดหล่อ…ไหนลองมาจับกุมตัวพี่สาวหน่อยซิ ถ้าพวกเราไม่ตกลงตามเงื่อนไขของเธอ จะต้องโดนคุมตัวไม่ใช่เหรอ ” สวมงามด้านซ้ายพูดขึ้นด้วยยิ้มล้อเลียน ด้านหลังเธอมีหางแมวงอกออกมาสามหาง ปัดป่ายอยู่บนตัวของเฉินจิ้ง
“ ใช่แล้ว…เมื่อกี้พี่ชายสุดหล่อยังดูห้าวหาญอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงนิ่งไปแล้วล่ะ ไม่สนใจจะมาเล่นสนุกกับพวกเราหน่อยเหรอ เมี๊ยว ” เด็กสาวหูแมวที่พาพวกเฉินจิ้งมา พูดขึ้นอย่างร่าเริง เธอยืนแอบดูอยู่ที่ประตูห้อง ไม่ได้เข้ามานั่งอยู่ด้านใน
“ ปล่อยพวกเราเดี๋ยวนี้…พวกคุณต้องการจะเป็นศัตรูกับประเทศงั้นเหรอ ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยความโกรธ
ตอนนี้ตามตัวของเขากับหวังซินหยาง ถูกใยแมงมุมที่โปร่งแสงมัดเอาไว้อยู่ ทำให้ขยับตัวไม่ได้
‘ จบสิ้นแล้ว…ฉันไม่น่าตามขึ้นมาเลย ด้วยพลังของตัวฉันกับซินหยางไม่สามารถต่อต้านพวกเธอได้เลย ’
‘ ไหนข้อมูลบอกว่า…เจ้าของร้านมีพลังแค่ผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางไง แต่ที่อยู่ตรงหน้าฉันนี่มันเซียนปีศาจชัดๆ ’
“ พี่สาวใหญ่…เราจะทำยังไงกับพวกเขาดี ” สาวงามที่อยู่ด้านขวาถามขึ้น บนหัวของเธอนั้นมีหูยาวสีขาวงอกออกมาหนึ่งคู่ เมื่อรวมกับหางฟูที่สะโพก ทำให้สามารถรู้ได้เลยว่าเธอเป็นปีศาจกระต่าย
“ พี่สาวซือซือ…ขอฉันเล่นกับพวกเขาก่อนได้ไหม ฉันได้กลิ่นพลังหยางที่เข้มข้นโชยออกมา พวกเขาทั้งคู่ยังซิงอยู่แน่นอน ” นางแมวสาวพูดขึ้นด้วยดวงตาเปล่งประกาย ลิ้นเล็กๆของเธอเลียริมฝีปากอย่างหิวกระหาย
ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกลาง เธอกำลังนั่งอ่านเอกสารทั้งหมดที่เฉินจิ้งนำมาด้วยสีหน้าครุ่นคิด
หญิงสาวคนนี้คือปีศาจแมงมุมโจวซือซือ เป็นหัวหน้าใหญ่ที่แท้จริงของคลับแห่งนี้ เธอมีพลังอยู่ในขอบเซียนปีศาจระดับกลาง พวกเฉินจิ้งที่เดินทะเล่อทะล่าเข้ามาก็เหมือนตกอยู่ในรังแมงมุมไม่มีทางหนีรอด
แท้จริงแล้วผู้หญิงคนแรกที่ออกไปต้อนรับเฉินจิ้งนั้น เป็นเจ้าของร้านเพียงในนามเท่านั้น ส่วนพวกเธอสามพี่น้องคือผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่เบื้องหลัง
“ เธอยังทำอะไรพวกเขาไม่ได้นะ ลั่วลั่ว…เรายังต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาอยู่ ” โจวซือซือพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ ในเมื่อพี่สาวพูดแบบนั้น…งั้นฉันจะรอก่อนก็แล้วกัน หลังจากพวกเขาจัดการธุระให้พวกเราเสร็จ ฉันจะเอ็นดูอย่างดีเลย ” ลั่วลั่วยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย
วูป
เพียงแค่โจวซือซือโบกมือเบาๆใยแมงมุมที่มัดตัวพวกเฉินจิ้งไว้ก็สลายไป
“ เอาล่ะ…โทรเรียกคนระดับสูงของหน่วยงานพวกคุณมา ฉันต้องบอกก่อนนะ ว่าผู้ที่มาจะต้องมีอำนาจตัดสินใจได้ ”
“ ไม่อย่างนั้น…พวกคุณก็เตรียมตัวสนุกกับสาวๆทั้งหมดในคลับของฉันได้เลย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...