จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 132

หลังจากผลกระทบของระเบิดอะตอมหมดลง ผู้คนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ต่างก็ค่อยๆลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปียกปอนจากน้ำในทะเลสาบ

ยกเว้นเพียงคนเดียว…

“ อาจิ้ง…นายเป็นไงบ้าง ” เจนนี่วิ่งมาหาเฉินจิ้งด้วยความเป็นห่วง เธอประคองเฉินจิ้งไว้ในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน

พวกสมาชิกทีมที่อยู่แถวนั้นก็วิ่งเข้ามาดูอาการของเฉิ้นจิ้งเช่นกัน เพราะสภาพของเขาในเวลานี้ดูแย่เป็นอย่างมาก

เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อทุกมัดสั่นกระตุกเป็นระยะอย่างน่ากลัว ผลข้างเคียงของเคล็ดวิชาแปดประตูเซียนมันเลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก

เพื่อแลกกับพลังอันมหาศาลเพียงครู่เดียว เขาถึงกับเผาผลาญพลังงานที่กักเก็บไว้ในตัวจนหมด เวลานี้แค่เขาจะกระดิกนิ้วมือยังยากลำบากมาก

เขาดูคล้ายคนกำลังจะตายไม่มีผิด…

“ อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง ” เกรียงไกรกับพวกบอดี้การ์ดที่รอดชีวิตอีกสิบคน เดินเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ครั้งนี้ถ้าไม่ได้เฉินจิ้งพวกเขาคงต้องตายกันหมด

‘ ขอให้เธออย่าเป็นอะไรเลยนะ…ฉันยังไม่ได้ตอบแทนที่ช่วยแก้แค้นไอ้ทรงนัสและช่วยชีวิตฉันเลย ’

“ อาจิ้ง…นายเป็นอะไรไป ตอบฉันสิ ” เจนนี่พูดขึ้นด้วยความกลัว น้ำตาไหลลงมาจากหางตา จากนั้นก็หยดลงบนใบหน้าของเฉินจิ้ง

“ ย…. ” เสียงอันแผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากเฉินจิ้ง

“ นายพูดว่าอะไรนะ…อาจิ้ง ฉันได้ยินไม่ชัด ” เจนนี่รีบเอียงหูไปใกล้ๆ เพื่อจะฟังอีกครั้ง

“ ยา…ใน..กระเป๋า ”

“ ยา…งั้นเหรอ ” เจนนี่รีบค้นกระเป๋าของเฉินจิ้งทันที ไม่นานเธอก็เจอขวดใบเล็กๆ ที่มีเม็ดยาสีน้ำตาลอยู่ด้านใน

“ ขวดนี้เหรอ ”

เฉินจิ้งไม่ได้ตอบ เพราะแรงของเขาไม่เหลือแล้ว เขาจึงกระพริบตาอย่างถี่รัวแทน

“ พวกนาย…ขอน้ำให้ฉันหน่อย ”

หลังจากได้น้ำมา เจนนี่ก็ใส่ยาเข้าไปในปากเฉินจิ้งอย่างเบามือ จากนั้นก็เทน้ำตามเข้าไปทีละน้อย

อ่อกก!

ทั้งน้ำและยาถูกเฉินจิ้งสำลักออกมาจนหมด เขาไม่มีแรงแม้แต่จะกลืนมันเข้าไป

“ ไม่นะ…อาจิ้ง นายกลืนมันลงไปสิ ” เจนนี่รีบทำซ้ำอีกครั้งแต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม

ตอนนี้ร่างของเฉินจิ้งเริ่มกระตุกเบาลงทุกที...ชีพจรก็เต้นอ่อนลง

เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว

‘ นี่…ฉันกำลังจะตายเหรอ ’

ก่อนที่เรี่ยวแรงจะหายไป เขาก็พยายามลืมตากว้างขึ้นอีกครั้ง เขาต้องการจะมองหน้าทุกคนให้ชัดๆ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก

‘ ช่างเถอะ…อย่างน้อยฉันก็ช่วยทุกคนเอาไว้ได้ ’

ในตอนที่ตาของเขาค่อยๆปิดลง

จุ๊บ!

‘ หืม…ทำรู้สึกอุ่นๆที่ปาก ’

ดวงตาเขาเปิดกว้างด้วยความตกใจ ทำให้เห็นดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยน้ำตา จ้องมองมาด้วยความรัก

‘ เจนนี่จูบฉันเหรอ…หืม ลิ้นของเธอมัน นี่มันจูบแรกของฉันเลยนะ ’

ดวงตาของเฉินจิ้งหรี่ลงเล็กน้อย

‘ ยังไงฉันก็กำลังจะตายอยู่แล้ว…ให้เธอได้กำไรไปก็แล้วกัน ’

เมื่อรู้สึกว่าเจนนี่ถอนปากออกไปแล้ว เฉินจิ้งก็ค่อยๆหลับตาลง

แต่ทว่า…

จุ๊บ!

ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง

‘ นี่มัน…มีขอเบิ้ลด้วยเหรอ เอาเถอะฉันยอมแล้ว ทำตามสบายเลย ’

เฉินจิ้งคิดอย่างอ่อนใจ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาแล้ว

บางทีจุดจบแบบนี้ก็ไม่ได้แย่นัก…

จุ๊บ!

ครั้งที่3

จุ๊บ!

ครั้งที่4

‘ นี่…เธอคงไม่คิดจะข่มขืนศพฉันใช่ไหม ’

แต่ก็น่าแปลก อยู่ดีๆเฉินจิ้งก็รู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่ฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย จนตอนนี้เขาสามารถขยับตัวได้แล้ว

ในขณะที่เจนนี่กำลังจะจูบอีกครั้ง เฉินจิ้งก็ดันตัวลุกขึ้นมาทันที

!!

“ นี่เธอ…ทำบ้าอะไรเนี่ย อย่างน้อยก็หาที่ลับตาหน่อยสิ ทุกคนมองอยู่นะ ” เฉินจิ้งหลุดปากพูดออกมาไม่รู้ตัว เขามองทุกคนรอบๆด้วยความเขินอาย

“ นี่มัน ” “ อาจิ้ง…นายฟื้นแล้ว ” “ นายรอดแล้ว ”

ทุกคนที่อยู่รอบๆตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

“ หืม…ฉัน ฉันฟื้นแล้ว ฉันไม่ตายแล้วเหรอ ” เฉินจิ้งพึมพำออกมาด้วยความตกใจ เขาลองตรวจสอบร่างกายของตัวเองดู

ก็พบว่ามันกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ

‘ เป็นไปได้ยังไงกัน…ทำไมร่างกายฉันถึงรักษาตัวเองได้ ’

ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นขวดยาที่ตกอยู่ เมื่อรวมกับการกระทำของเจนนี่เมื่อครู่นี้ ก็ทำให้พอคาดเดาบางอย่างได้

‘ เจนนี่ทำให้ยาละลายในปากเธอ…แล้วป้อนฉันทีละนิดเหรอ ’

“ นายไม่เป็นไรแล้วนะ…ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม ” เจนนี่กระซิบออกมาเบาๆ เธอกอดเฉินจิ้งเอาไว้แน่น

“ ฉัน…เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะเจนนี่ ” เฉินจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มจริงใจ พร้อมทั้งเลื่อนมือขึ้นไปกอดเจนนี่เอาไว้เช่นกัน

“ เอ่อ…งั้นฉันขอตัวไปเก็บกวาดสนามรบก่อนนะ ” เกรียงไกรพูดออกมาด้วยสีหน้าขบขัน

“ พวกเราเอง…ก็ไปช่วยด้วยก็แล้วกัน ”

“ ทั้งสองคนก็ค่อยๆคุยกันไปนะ”

“ ทำไมฉันรู้สึกว่าที่ตรงนี้มันร้อนๆ ”

พวกเพื่อนๆทุกคนต่างหัวเราะล้อเลียน กันอย่างสนุกสนาน หลังผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นก็มีคนแอบส่งของบางอย่างให้เฉินจิ้ง เขาจึงถามออกไปอย่างสงสัย

“ นี่อะไรเหรอ อาเปา ”

“ กุญแจห้องนอนไง…คุณเกรียงไกรฝากไว้ให้ ”

!!

“ ไอ้พวกบ้า…ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะยะ ” เจนนี่ตะโกนออกมาด้วยความโมโหและอับอาย

ฮ่า ฮาฮ่า

มันได้เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ทันที เฉินจิ้งเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ตัวเขาก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าไม่ได้คิดกับเจนนี่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แววตาที่เขามองเธอมีความอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน

‘ ไว้กลับไปประเทศจีน…ฉันค่อยชวนเธอไปเดทก็แล้วกัน ’

“ คนบ้า…หยุดมองฉันด้วยรอยยิ้มแบบนั้นนะ ” เจนนี่ตะโกนใส่เฉินจิ้งด้วยความเขินอาย

เจนนี่ส่งมือให้เฉินด้วยรอยยิ้ม ด้านหลังเธอก็มีพวกเพื่อนๆกำลังโอบไหล่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทุกคนกำลังรอเฉินจิ้งอยู่

“ พวกเราไปกันเถอะ ”

หมับ!

เฉินจิ้งจับมือของเจนนี่เอาไว้แน่น และค่อยๆดึงตัวขึ้นช้าๆ

แต่ในขณะนั้น…เงาสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้ามาในพริบตา

!!

“ หลบเร็ว! ”

เขาตะโกนขึ้นสุดเสียง เพื่อบอกทุกคน

แต่มันก็ไม่ทันแล้ว…

ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมได้กลืนทุกสิ่งไปจนหมด

“ งับ ”

ปากนั้นอ้ากว้างแล้วปิดลงอย่างรวดเร็ว กินทุกคนไปต่อหน้าต่อตาเฉินจิ้ง

“ กร๊วบกรับ ”

“ จบแล้ว…ฉันแก้แค้นให้พวกนายได้แล้ว ”

เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนแรงด้วยน้ำตานองหน้า

แต่ทว่า…

ครืนนน

เศษชิ้นส่วนพวกนั้นมันกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพียงไม่กี่วินาที มันก็พื้นตัวอย่างสมบูรณ์

จนถึงตอนนี้เองเฉินจิ้งถึงได้เห็นร่างกายทั้งหมดของมันอย่างชัดเจน มันคือตะขาบขนาดยักษ์ที่มีสองหัว

โดยที่หัวแรกของมันห้อยลงข้างลำตัวเหมือนตายแล้ว นี่คือตัวแรกที่พวกเขาใช้ระเบิดสังหารไป

ส่วนหัวที่สองนั้น มีขนาดใหญ่กว่าตัวแรกมาก ออร่าที่ปล่อยออกมาก็แข็งแกร่งกว่าตัวแรกหลายสิบเท่า ที่กลางหน้าผากของมันมีใบหน้าคนปรากฏอยู่

!!

“ แก…ทรงยุทธ ” เกรียงไกรที่นอนบาดเจ็บอยู่พูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะตะกรุดที่พระเกจิอาวุโสมอบให้ เขาคงตายไปแล้ว

“ หืม…แกนี่ตายยากจริงๆ เกรียงไกร ” ทรงยุทธพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา ใบหน้าขนาดยักษ์ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายช้าๆ

‘ โชคดีที่ฉันฝังร่างแยกเอาไว้ในตัวจางถง…มันจะถูกปลุกขึ้นมาก็ต่อเมื่อร่างที่สิงสู่กำลังจะตาย ’

‘ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกมันจะไล่ต้อนทาสของฉันจนเกือบตายได้ แถมยังฆ่าลูกศิษย์ของฉันอีก แต่ก็ช่างเถอะ ตราบใดที่กลืนกินชีวิตมากพอ ฉันค่อยปลุกชีพของพวกเขาขึ้นมาใหม่ ’

“ แก…ฉันจะฆ่าแก ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ เอ๋…นี่แกยังขยับได้อีกเหรอ น่าสนใจจริงๆ ฉันเพิ่งเคยเจอคนที่บรรลุขอบเขตในการต่อสู้แบบแกเป็นคนแรกเลย ”

“ ฉันมีข้อเสนอให้แกนะ…เป็นทาสของฉันแล้วแกจะไม่ตาย ฉันจะมอบพลังมหาศาลให้แกด้วย ” ทรงยุทธยื่นข้อเสนอให้ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

“ ไป…ตายซะ ”

“ อืม…ในเมื่อแกเลือกทางนั้น ก็มาเป็นอาหารให้ฉันก็แล้วกัน ” ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม อ้าออกกว้างอย่างช้าๆ

“ หยุด! ”

เสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าฝ่า ทำให้ทรงยุทธตัวสั่นสะท้าน

!!

ปากที่อ้ากว้างหุบลงอย่างรวดเร็ว หัวขนาดใหญ่หันไปมองด้านหนึ่งด้วยความตกใจ

นี่มัน…

ทะเลเพลิงสีทองท่วมขอบฟ้า ดวงแสงสายหนึ่งกำลังพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

ครืนนน

คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดใส่ ลำตัวของทรงยุทธจนขาดกระจุย เหมือนกับว่ามันฝ่ามิติข้ามระยะทางมาในพริบตา

‘ นี่มันเปลวเพลิงหยางร้อนแรงระดับสูงสุด… ’

ทรงยุทธคิดขึ้นด้วยความหวาดกลัว ต่อหน้าเปลวเพลิงของอีกฝ่ายเขาไม่สามารถฟื้นตัวได้

‘ ต้องรีบหนี ’

เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือทันที

คว๊ากกกก

ร่างขนาดใหญ่กลายเป็นเปลือกแข็งที่ว่างเปล่า ตะขาบสองหัวตัวเล็กยาวหนึ่งเมตรพุ่งออกมา มันหันมาคำรามใส่เฉินจิ้ง

ก๊าซซซ

หลังจากพ่นควันพิษสีเขียวออกมา มันก็มุดดำดินหนีทันที

ตุบ!

ไม่ถึงสามวินาทีจ้าวเทียนก็ปรากฏตัวขึ้น เขาโบกมือเบาๆ เปลือกแข็งที่ทรงยุทธทิ้งไว้ก็กลายเป็นฝุ่น

“ อาจิ้ง…นายเป็นยังไงบ้าง ” เขารีบใช้พลังขับพิษให้เฉินจิ้งก่อน อีกฝ่ายเจ้าเล่ห์มาก เพราะกลัวเขาตามไปฆ่า จึงจงใจพ่นพิษใส่เฉินจิ้งเพื่อให้เขาต้องเป็นพะวง

“ บอสครับ…ทุกคนตายหมดแล้ว ”

“ ฉันรู้แล้ว…มันไม่ใช่ความผิดนาย อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยรีบรักษาตัวก่อน ” จ้าวเทียนพูดปลอบเบาๆ

ด้วยสัมผัสวิญญาณที่กว้างใหญ่ของเขา ทำให้รู้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เพราะตัวเองยังอยู่ห่างไกลมากหลายร้อยกิโลเมตร

แม้ใจต้องการอยากจะช่วย ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเมื่อถึงระยะที่โจมตีได้ มันก็เกือบจะไม่ทันแล้ว

!!

ใบหน้าของเฉินจิ้งคล้ำลงเรื่อยๆ พลังของเขาไม่ได้ผล

“ นี่หรือว่าเป็น…พิษมารอเวจี! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน