หลังจากผลกระทบของระเบิดอะตอมหมดลง ผู้คนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ต่างก็ค่อยๆลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปียกปอนจากน้ำในทะเลสาบ
ยกเว้นเพียงคนเดียว…
“ อาจิ้ง…นายเป็นไงบ้าง ” เจนนี่วิ่งมาหาเฉินจิ้งด้วยความเป็นห่วง เธอประคองเฉินจิ้งไว้ในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน
พวกสมาชิกทีมที่อยู่แถวนั้นก็วิ่งเข้ามาดูอาการของเฉิ้นจิ้งเช่นกัน เพราะสภาพของเขาในเวลานี้ดูแย่เป็นอย่างมาก
เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อทุกมัดสั่นกระตุกเป็นระยะอย่างน่ากลัว ผลข้างเคียงของเคล็ดวิชาแปดประตูเซียนมันเลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก
เพื่อแลกกับพลังอันมหาศาลเพียงครู่เดียว เขาถึงกับเผาผลาญพลังงานที่กักเก็บไว้ในตัวจนหมด เวลานี้แค่เขาจะกระดิกนิ้วมือยังยากลำบากมาก
เขาดูคล้ายคนกำลังจะตายไม่มีผิด…
“ อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง ” เกรียงไกรกับพวกบอดี้การ์ดที่รอดชีวิตอีกสิบคน เดินเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ครั้งนี้ถ้าไม่ได้เฉินจิ้งพวกเขาคงต้องตายกันหมด
‘ ขอให้เธออย่าเป็นอะไรเลยนะ…ฉันยังไม่ได้ตอบแทนที่ช่วยแก้แค้นไอ้ทรงนัสและช่วยชีวิตฉันเลย ’
“ อาจิ้ง…นายเป็นอะไรไป ตอบฉันสิ ” เจนนี่พูดขึ้นด้วยความกลัว น้ำตาไหลลงมาจากหางตา จากนั้นก็หยดลงบนใบหน้าของเฉินจิ้ง
“ ย…. ” เสียงอันแผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากเฉินจิ้ง
“ นายพูดว่าอะไรนะ…อาจิ้ง ฉันได้ยินไม่ชัด ” เจนนี่รีบเอียงหูไปใกล้ๆ เพื่อจะฟังอีกครั้ง
“ ยา…ใน..กระเป๋า ”
“ ยา…งั้นเหรอ ” เจนนี่รีบค้นกระเป๋าของเฉินจิ้งทันที ไม่นานเธอก็เจอขวดใบเล็กๆ ที่มีเม็ดยาสีน้ำตาลอยู่ด้านใน
“ ขวดนี้เหรอ ”
เฉินจิ้งไม่ได้ตอบ เพราะแรงของเขาไม่เหลือแล้ว เขาจึงกระพริบตาอย่างถี่รัวแทน
“ พวกนาย…ขอน้ำให้ฉันหน่อย ”
หลังจากได้น้ำมา เจนนี่ก็ใส่ยาเข้าไปในปากเฉินจิ้งอย่างเบามือ จากนั้นก็เทน้ำตามเข้าไปทีละน้อย
อ่อกก!
ทั้งน้ำและยาถูกเฉินจิ้งสำลักออกมาจนหมด เขาไม่มีแรงแม้แต่จะกลืนมันเข้าไป
“ ไม่นะ…อาจิ้ง นายกลืนมันลงไปสิ ” เจนนี่รีบทำซ้ำอีกครั้งแต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม
ตอนนี้ร่างของเฉินจิ้งเริ่มกระตุกเบาลงทุกที...ชีพจรก็เต้นอ่อนลง
เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว
‘ นี่…ฉันกำลังจะตายเหรอ ’
ก่อนที่เรี่ยวแรงจะหายไป เขาก็พยายามลืมตากว้างขึ้นอีกครั้ง เขาต้องการจะมองหน้าทุกคนให้ชัดๆ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีก
‘ ช่างเถอะ…อย่างน้อยฉันก็ช่วยทุกคนเอาไว้ได้ ’
ในตอนที่ตาของเขาค่อยๆปิดลง
จุ๊บ!
‘ หืม…ทำรู้สึกอุ่นๆที่ปาก ’
ดวงตาเขาเปิดกว้างด้วยความตกใจ ทำให้เห็นดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยน้ำตา จ้องมองมาด้วยความรัก
‘ เจนนี่จูบฉันเหรอ…หืม ลิ้นของเธอมัน นี่มันจูบแรกของฉันเลยนะ ’
ดวงตาของเฉินจิ้งหรี่ลงเล็กน้อย
‘ ยังไงฉันก็กำลังจะตายอยู่แล้ว…ให้เธอได้กำไรไปก็แล้วกัน ’
เมื่อรู้สึกว่าเจนนี่ถอนปากออกไปแล้ว เฉินจิ้งก็ค่อยๆหลับตาลง
แต่ทว่า…
จุ๊บ!
ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง
‘ นี่มัน…มีขอเบิ้ลด้วยเหรอ เอาเถอะฉันยอมแล้ว ทำตามสบายเลย ’
เฉินจิ้งคิดอย่างอ่อนใจ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาแล้ว
บางทีจุดจบแบบนี้ก็ไม่ได้แย่นัก…
จุ๊บ!
ครั้งที่3
จุ๊บ!
ครั้งที่4
‘ นี่…เธอคงไม่คิดจะข่มขืนศพฉันใช่ไหม ’
แต่ก็น่าแปลก อยู่ดีๆเฉินจิ้งก็รู้สึกถึงเรี่ยวแรงที่ฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย จนตอนนี้เขาสามารถขยับตัวได้แล้ว
ในขณะที่เจนนี่กำลังจะจูบอีกครั้ง เฉินจิ้งก็ดันตัวลุกขึ้นมาทันที
!!
“ นี่เธอ…ทำบ้าอะไรเนี่ย อย่างน้อยก็หาที่ลับตาหน่อยสิ ทุกคนมองอยู่นะ ” เฉินจิ้งหลุดปากพูดออกมาไม่รู้ตัว เขามองทุกคนรอบๆด้วยความเขินอาย
“ นี่มัน ” “ อาจิ้ง…นายฟื้นแล้ว ” “ นายรอดแล้ว ”
ทุกคนที่อยู่รอบๆตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
“ หืม…ฉัน ฉันฟื้นแล้ว ฉันไม่ตายแล้วเหรอ ” เฉินจิ้งพึมพำออกมาด้วยความตกใจ เขาลองตรวจสอบร่างกายของตัวเองดู
ก็พบว่ามันกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ
‘ เป็นไปได้ยังไงกัน…ทำไมร่างกายฉันถึงรักษาตัวเองได้ ’
ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นขวดยาที่ตกอยู่ เมื่อรวมกับการกระทำของเจนนี่เมื่อครู่นี้ ก็ทำให้พอคาดเดาบางอย่างได้
‘ เจนนี่ทำให้ยาละลายในปากเธอ…แล้วป้อนฉันทีละนิดเหรอ ’
“ นายไม่เป็นไรแล้วนะ…ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม ” เจนนี่กระซิบออกมาเบาๆ เธอกอดเฉินจิ้งเอาไว้แน่น
“ ฉัน…เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะเจนนี่ ” เฉินจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้มจริงใจ พร้อมทั้งเลื่อนมือขึ้นไปกอดเจนนี่เอาไว้เช่นกัน
“ เอ่อ…งั้นฉันขอตัวไปเก็บกวาดสนามรบก่อนนะ ” เกรียงไกรพูดออกมาด้วยสีหน้าขบขัน
“ พวกเราเอง…ก็ไปช่วยด้วยก็แล้วกัน ”
“ ทั้งสองคนก็ค่อยๆคุยกันไปนะ”
“ ทำไมฉันรู้สึกว่าที่ตรงนี้มันร้อนๆ ”
พวกเพื่อนๆทุกคนต่างหัวเราะล้อเลียน กันอย่างสนุกสนาน หลังผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นก็มีคนแอบส่งของบางอย่างให้เฉินจิ้ง เขาจึงถามออกไปอย่างสงสัย
“ นี่อะไรเหรอ อาเปา ”
“ กุญแจห้องนอนไง…คุณเกรียงไกรฝากไว้ให้ ”
!!
“ ไอ้พวกบ้า…ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะยะ ” เจนนี่ตะโกนออกมาด้วยความโมโหและอับอาย
ฮ่า ฮาฮ่า
มันได้เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ทันที เฉินจิ้งเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ตัวเขาก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าไม่ได้คิดกับเจนนี่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แววตาที่เขามองเธอมีความอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน
‘ ไว้กลับไปประเทศจีน…ฉันค่อยชวนเธอไปเดทก็แล้วกัน ’
“ คนบ้า…หยุดมองฉันด้วยรอยยิ้มแบบนั้นนะ ” เจนนี่ตะโกนใส่เฉินจิ้งด้วยความเขินอาย
เจนนี่ส่งมือให้เฉินด้วยรอยยิ้ม ด้านหลังเธอก็มีพวกเพื่อนๆกำลังโอบไหล่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทุกคนกำลังรอเฉินจิ้งอยู่
“ พวกเราไปกันเถอะ ”
หมับ!
เฉินจิ้งจับมือของเจนนี่เอาไว้แน่น และค่อยๆดึงตัวขึ้นช้าๆ
แต่ในขณะนั้น…เงาสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้ามาในพริบตา
!!
“ หลบเร็ว! ”
เขาตะโกนขึ้นสุดเสียง เพื่อบอกทุกคน
แต่มันก็ไม่ทันแล้ว…
ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมได้กลืนทุกสิ่งไปจนหมด
“ งับ ”
ปากนั้นอ้ากว้างแล้วปิดลงอย่างรวดเร็ว กินทุกคนไปต่อหน้าต่อตาเฉินจิ้ง
“ กร๊วบกรับ ”
“ จบแล้ว…ฉันแก้แค้นให้พวกนายได้แล้ว ”
เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนแรงด้วยน้ำตานองหน้า
แต่ทว่า…
ครืนนน
เศษชิ้นส่วนพวกนั้นมันกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพียงไม่กี่วินาที มันก็พื้นตัวอย่างสมบูรณ์
จนถึงตอนนี้เองเฉินจิ้งถึงได้เห็นร่างกายทั้งหมดของมันอย่างชัดเจน มันคือตะขาบขนาดยักษ์ที่มีสองหัว
โดยที่หัวแรกของมันห้อยลงข้างลำตัวเหมือนตายแล้ว นี่คือตัวแรกที่พวกเขาใช้ระเบิดสังหารไป
ส่วนหัวที่สองนั้น มีขนาดใหญ่กว่าตัวแรกมาก ออร่าที่ปล่อยออกมาก็แข็งแกร่งกว่าตัวแรกหลายสิบเท่า ที่กลางหน้าผากของมันมีใบหน้าคนปรากฏอยู่
!!
“ แก…ทรงยุทธ ” เกรียงไกรที่นอนบาดเจ็บอยู่พูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะตะกรุดที่พระเกจิอาวุโสมอบให้ เขาคงตายไปแล้ว
“ หืม…แกนี่ตายยากจริงๆ เกรียงไกร ” ทรงยุทธพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา ใบหน้าขนาดยักษ์ขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายช้าๆ
‘ โชคดีที่ฉันฝังร่างแยกเอาไว้ในตัวจางถง…มันจะถูกปลุกขึ้นมาก็ต่อเมื่อร่างที่สิงสู่กำลังจะตาย ’
‘ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกมันจะไล่ต้อนทาสของฉันจนเกือบตายได้ แถมยังฆ่าลูกศิษย์ของฉันอีก แต่ก็ช่างเถอะ ตราบใดที่กลืนกินชีวิตมากพอ ฉันค่อยปลุกชีพของพวกเขาขึ้นมาใหม่ ’
“ แก…ฉันจะฆ่าแก ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“ เอ๋…นี่แกยังขยับได้อีกเหรอ น่าสนใจจริงๆ ฉันเพิ่งเคยเจอคนที่บรรลุขอบเขตในการต่อสู้แบบแกเป็นคนแรกเลย ”
“ ฉันมีข้อเสนอให้แกนะ…เป็นทาสของฉันแล้วแกจะไม่ตาย ฉันจะมอบพลังมหาศาลให้แกด้วย ” ทรงยุทธยื่นข้อเสนอให้ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ ไป…ตายซะ ”
“ อืม…ในเมื่อแกเลือกทางนั้น ก็มาเป็นอาหารให้ฉันก็แล้วกัน ” ปากขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม อ้าออกกว้างอย่างช้าๆ
“ หยุด! ”
เสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าฝ่า ทำให้ทรงยุทธตัวสั่นสะท้าน
!!
ปากที่อ้ากว้างหุบลงอย่างรวดเร็ว หัวขนาดใหญ่หันไปมองด้านหนึ่งด้วยความตกใจ
นี่มัน…
ทะเลเพลิงสีทองท่วมขอบฟ้า ดวงแสงสายหนึ่งกำลังพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ครืนนน
คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดใส่ ลำตัวของทรงยุทธจนขาดกระจุย เหมือนกับว่ามันฝ่ามิติข้ามระยะทางมาในพริบตา
‘ นี่มันเปลวเพลิงหยางร้อนแรงระดับสูงสุด… ’
ทรงยุทธคิดขึ้นด้วยความหวาดกลัว ต่อหน้าเปลวเพลิงของอีกฝ่ายเขาไม่สามารถฟื้นตัวได้
‘ ต้องรีบหนี ’
เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือทันที
คว๊ากกกก
ร่างขนาดใหญ่กลายเป็นเปลือกแข็งที่ว่างเปล่า ตะขาบสองหัวตัวเล็กยาวหนึ่งเมตรพุ่งออกมา มันหันมาคำรามใส่เฉินจิ้ง
ก๊าซซซ
หลังจากพ่นควันพิษสีเขียวออกมา มันก็มุดดำดินหนีทันที
ตุบ!
ไม่ถึงสามวินาทีจ้าวเทียนก็ปรากฏตัวขึ้น เขาโบกมือเบาๆ เปลือกแข็งที่ทรงยุทธทิ้งไว้ก็กลายเป็นฝุ่น
“ อาจิ้ง…นายเป็นยังไงบ้าง ” เขารีบใช้พลังขับพิษให้เฉินจิ้งก่อน อีกฝ่ายเจ้าเล่ห์มาก เพราะกลัวเขาตามไปฆ่า จึงจงใจพ่นพิษใส่เฉินจิ้งเพื่อให้เขาต้องเป็นพะวง
“ บอสครับ…ทุกคนตายหมดแล้ว ”
“ ฉันรู้แล้ว…มันไม่ใช่ความผิดนาย อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยรีบรักษาตัวก่อน ” จ้าวเทียนพูดปลอบเบาๆ
ด้วยสัมผัสวิญญาณที่กว้างใหญ่ของเขา ทำให้รู้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เพราะตัวเองยังอยู่ห่างไกลมากหลายร้อยกิโลเมตร
แม้ใจต้องการอยากจะช่วย ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเมื่อถึงระยะที่โจมตีได้ มันก็เกือบจะไม่ทันแล้ว
!!
ใบหน้าของเฉินจิ้งคล้ำลงเรื่อยๆ พลังของเขาไม่ได้ผล
“ นี่หรือว่าเป็น…พิษมารอเวจี! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...