จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 148

จากที่เฉินจิ้งลองประเมินจางถงในการต่อสู้ครั้งก่อน อีกฝ่ายมีพลังในขอบเขตเซียนขั้นต่ำเท่านั้น นับว่าไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวเขาในตอนนี้สามารถรับมือกับขอบเขตเซียนสูงสุดได้ อย่าว่าแต่เซียนระดับต่ำเลย

ส่วนเจนนี่นั้น พลังของเธอเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ถ้าวัดจากการโจมตีเมื่อครู่น่าจะอยู่ระดับขอบเขตเซียนขั้นกลางได้

‘ จัดการ ไอ้ชั่วนั่นก่อนก็แล้วกัน ’

ฝ่ายจางถงเมื่อเห็นเฉินจิ้งเงียบไปก็คิดว่าตัวเองเป็นต่อขึ้นมา เขาจึงสั่งให้เจนนี่โจมตีต่อทันที ส่วนตัวเองจะคอยหาจังหวะลอบสังหารอยู่ด้านหลัง

ครืนนน

เจนนี่คว้ามือไปด้านหน้า ดวงตาที่สามบนหน้าผากของเธอเปล่งแสงสีแดงอีกครั้ง คลื่นสั่นสะเทือนพุ่งตรงไปทางเฉินจิ้งในพริบตา

กึกๆ

ตัวเฉินจิ้งเหมือนถูกฝ่ามือยักษ์ที่มองไม่เห็นคว้าจับเอาไว้

แต่ทว่า…

บึมมม!

เพียงแค่เขายกแขนทั้งสองขึ้นมา พลังเหล่านั้นก็ถูกฉีกกระชากออกไปทันที หลังจากนั้นร่างของเฉินจิ้งก็หายไป

ฟุบ!

เขาบินขึ้นไปบนฟ้าเหนือตำแหน่งของจางถงแล้วชี้มือลงไป

“ แม่น้ำเหลืองแห่งอเวจี ! ”

เฉินจิ้งเรียกแม่น้ำยมโลกมาปกคลุมทุกอย่างไว้ ทำให้ผู้ที่อยู่ด้านในไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาต่างๆได้

เพราะขอบเขตที่ไม่สูงนัก ทำให้มันมีอาณาเขตเพียงร้อยตารางเมตรเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอที่จะปกคลุมจางถงกับเจนนี่เอาไว้

ที่จริงเคล็ดวิชานี้ หากศัตรูมีพลังเท่ากันหรือเหนือกว่า มันจะไม่ค่อยส่งผลเท่าไหร่นัก แต่สำหรับผู้ที่มีพลังต่ำกว่า มันจะส่งผลยาวนานตั้งแต่สามสิบวินาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของพลัง

“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ” จางถงมีสีหน้าตกใจ เพราะเขาควบคุมวิชาแขนตะขาบของตัวเองไม่ได้ ทำให้มันเปลี่ยนกลับมาเป็นแขนมนุษย์เหมือนเดิม

เฟี้ยวว!

ปีกมังกรด้านหลังเฉินจิ้งโบกสะบัดอย่างแรง แล้วพุ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็ว

เปรี้ยงง!

ครืนนน!

ม่านพลังสีดำปรากฏขึ้นป้องกันกรงเล็บมังกรของเฉินจิ้งเอาไว้ ซึ่งทำให้เฉินจิ้งมีแววตาตกใจ และเมื่อเขาสังเกตดูก็พบว่ามันเป็นการลงมือของเจนนี่

‘ ทำไมเธอถึงใช้พลังได้…หรือว่า การโจมตีที่ผ่านมาเธอไม่ได้ใช้เคล็ดวิชา ’

ต้องบอกเลยว่า สิ่งที่เฉินจิ้งคิดนั้นถูกต้อง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจนนี่ไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใดๆเลย นี่เป็นเพียงพลังจิตวิญญาณของเธอเอง

เจนนี่ได้ถือกำเนิดใหม่เป็นราชินีแห่งมวลมาร ที่มีต้นกำเนิดมาจากการกลืนกินดวงวิญญาณอื่นทั้ง 999 ดวง ทำให้เธอมีพลังจิตวิญญาณเหนือขีดจำกัดไปไกลมาก

โดยปกติคนที่ถูกผลของเคล็ดวิชาแม่น้ำยมโลก จะใช้ได้เพียงความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น เลยต้องใช้การโจมตีธรรมดาในการต่อสู้ จนกว่าผลของเคล็ดวิชาจะหมด

แต่สำหรับเจนนี่ ที่ใช้พลังจิตวิญญาณเหมือนเป็นแขนขา การโจมตีที่เธอใช้มาตลอดก็เหมือนเป็นการออกหมัดโจมตีธรรมดาเท่านั้น เธอไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใดๆเลย ทำให้แม่น้ำยมโลกไม่มีผลกับเธอ

หากคุณคิดว่า ราชินีแห่งมวลมารไม่ได้เก่งอะไรเลย ความสามารถของเธอมีเพียงการโจมตีทางจิตวิญญาณนั้น

ต้องขอบอกเลยว่า… พวกคุณคิดผิดแล้ว

ความสามารถที่แท้จริงของราชินีแห่งมวลมาร คือพลังในการสร้างและควบคุมเผ่ามารที่มีระดับต่ำกว่าทั้งหมด

เธอสามารถสั่งให้พวกมันยอมสู้จนตัวตายได้ และยิ่งเธอเติบโตขึ้นเท่าไหร่ ก็สามารถควบคุมได้จำนวนมากขึ้นเท่านั้น

หากให้เวลา เจนนี่ได้สร้างกองทัพของเธอเอง 2-3 ปี คงจะมีกองทัพมารหลายหมื่นอยู่ภายใต้คำสั่งของเธอ

นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ทรงยุทธทนลำบากมาหลายปีเพื่อสร้างเธอขึ้นมา…

“ เพลิงนรกอเวจี! ”

คลื่นเปลวเพลงทมิฬของเฉินจิ้งระเบิดม่านพลังอย่างแรง ด้วยระยะประชิดแบบนี่ทำให้มันทรงอานุภาพสูงสุด

ตูมม!

ม่านพลังสีดำระเบิดออก และสลายไปในพริบตา

สีหน้าเจนนี่เปลี่ยนเป็นขาวซีด เหมือนกับได้รับบาดเจ็บภายใน ทำให้ร่างของเธอร่วงลงไปบนพื้น ที่มุมปากมีเลือดสีดำไหลซึมออกมา

อาการบาดเจ็บของเจนนี่ทำให้เธอไม่สามารถต่อสู้ได้ซักพัก…

“ แกตายซะ ” จางถงที่รอโอกาสอยู่ตะโกนออกมาเสียงดัง ปากของเขาอ้าออกกว้างตะขาบยักษ์สีแดงยาวหลายสิบเมตรพุ่งออกมา

พรวดด!

มันพุ่งเข้าใส่เฉินจิ้ง แล้วพ่นควันพิษสีเขียวออกมา…พิษมารอเวจี

ก๊าซซซ!

หลังเห็นว่าอีกฝ่ายโดนควันพิษไปเต็มๆ แววตาของจางถงก็เปล่งประกายสดใส แล้วพูดขึ้นอย่างยินดี

“ ครั้งนี้แกเสร็จแน่…คราวก่อนเพราะมีคนมาขวาง แกถึงรอดไปได้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครมาช่วยแกได้แล้ว สุดท้ายคนชนะก็คือฉัน ”

ฮา ฮ่า

แต่ในขณะที่เขากำลังหัวเราะอย่างดีใจ

เปรี้ยงง!

กรงเล็บมังกรสีดำก็ฟาดเข้าใส่อย่างแรง ทำให้หมอกสีเขียวที่ปกคลุมอยู่สลายหายไปในอากาศ

ตูมม!

จางถงในร่างตะขาบสีแดง กระแทกลงบนพื้นเสียงดัง จนเกิดเป็นหลุมลึก จากนั้นเฉินจิ้งในสภาพสมบูรณ์ก็ปรากฏตัวขึ้น

ตรึม!

จางถงถูกกระทืบอัดกับพื้น จนเลือดสีดำสาดกระจาย เขานอนบิดกายด้วยความเจ็บปวด ลำตัวของเขาตอนนี้ขาดเป็นสองท่อน แล้วยังถูกเฉินจิ้งเหยียบเอาไว้

หากไม่ใช่เพราะพลังฟื้นฟูอันมหาศาล จางถงคงจะตายไปแล้ว…

“ ทำไม…แกไม่เป็นอะไร แกถูกพิษของฉันไปแล้วนี่ ”

เฉินจิ้งที่ได้ยินก็มองศัตรูที่ถูกเขาเหยียบเอาไว้ แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“ เพราะแกมันกากไง…จางถง ”

!!

“ แก…ไอ้บัดซบ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเจ้านายฉันตามฆ่าแกแน่ ครอบครัวแก คนรู้จักแกทุกคนก็ต้องตายไปด้วย ” จางถงตะโกนออกมาอย่างเสียสติ

ตูมม!

“ หุบปาก! ” เฉินจิ้งกระทืบไปที่ส่วนหัวของจางถงจนพื้นสะเทือน

อ้ากก!

“ แก…ปล่อยฉันไปเถอะ แกไม่ห่วงจ้าวเทียนรึไง เจ้านายฉันน่าจะจับตัวเขาเอาไว้แล้ว ถ้าแกปล่อยฉันไป ฉันจะขอเจ้านายให้ไว้ชีวิตจ้าวเทียน ” จางถงพูดออกมาอย่างอ่อนแรง

ครืนน!

กลุ่มก้อนหมอกสีดำที่มีใบหน้าคน ลอยออกมาจากร่างของเจนนี่อย่างช้าๆ ทำให้ร่างของเธอสั่นกระตุกไม่หยุดแล้วเริ่มอ่อนแรงลง

เหมือนกับว่ามันกำลังดึงเอาพลังชีวิตของเธอไป…

“ สลายไปซะ! ”

สิ้นเสียงเฉินจิ้ง เปลวเพลิงทมิฬก็เผาทำลายหมอกสีดำทั้งหมดไปทันที เขาได้ยินเสียงสาปแช่งอย่างเคียดแค้นก่อนที่มันจะสลายไป

‘ สิ่งนี้คงเป็นพลังที่ครอบงำเจนนี่อยู่…ฉันคิดว่าบอสคงกำจัดอีกฝ่ายไปแล้ว ’

เมื่อคิดได้แบบนั้น เฉินจิ้งก็ลองปล่อยตัวเจนนี่ดู ทำให้ร่างของเธอร่วงลงไปบนพื้นทันที ทำให้เฉินจิ้งรีบดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง ดวงตาของเจนนี่ตอนนี้ดูเลื่อนลอยและสับสน

“ เจนนี่…เธอจำฉันได้ไหม ” เฉินจิ้งถามขึ้นอย่างมีความหวัง

“ …. ”

เจนนี่มองมาที่เขาอย่างเงียบๆ ท่าทางของเธอไร้การตอบสนองอย่างสิ้นเชิง

“ มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ…ไอ้ชั่วนั่นก็ตายไปแล้ว ทำไมเจนนี่ถึงยังเป็นแบบนี้ ” เฉินจิ้งพึมพำออกมาด้วยแววตาเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เหมือนนึกอะไรได้

“ เจนนี่…เธอจำสร้อยเส้นนี้ได้ไหม ” เฉินจิ้งหยิบสร้อยเส้นหนึ่งออกมา มันคือของขวัญที่เขามอบให้เธอในวันนั้น ซึ่งเขาได้พกติดตัวเอาไว้เสมอ

หลังจากที่เห็นสร้อยในมือเฉินจิ้ง สายตาของเจนนี่ก็ถูกมันดึงดูดไว้ทันที เธอจ้องมองอยู่นานมาก เหมือนกับว่าจะคิดอะไรออก ทำให้เฉินจิ้งรู้สึกมีความหวังขึ้นมา

แต่ทว่า…

เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยังคงเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ความรู้สึก

แปะ!

น้ำตาหยดหนึ่งไหลหยดลงบนใบหน้าของเจนนี่

“ สุดท้ายแล้ว…มันก็เหมือนเดิม ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ” เฉินจิ้งหลับตาอย่างอ่อนแรง น้ำตาแห่งความเสียใจของเขาไหลซึมออกมาเป็นสาย

ทันใดนั้น

มือข้างหนึ่ง ได้ลูบไปที่ใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน

“ อาจิ้ง…อย่าร้อง ”

!!

เฉินจิ้งตัวสั่นสะท้าน เขาก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมแขนทันที ซึ่งก็พบว่าเธอกำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“ เจนนี่… ”

ในเวลาเดียวกัน

จ้าวเทียนกำลังเร่งความเร็ว เพื่อตามไปสมทบกับไป๋ซู่เจินที่ฐานบัญชาการ ซึ่งหลังจากที่เขาบินไปได้ครึ่งทาง ก็ได้ใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบสถานการณ์ทางด้านนั้นดู

วูป!

“ นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น ”

ภาพที่เขาเห็นคือทะเลเลือดที่สาดกระจาย และซากศพนับร้อยของคนชุดดำ ร่างของพวกเขาถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆอย่างน่ากลัว

ท่ามกลางกองเศษชิ้นส่วนร่างกายของคนตาย มีหญิงสาวชุดเขียวกำลังยืนเผชิญหน้ากับไป๋ซู่เจินอยู่

โดยที่มือขวาของเธอ กำลงบดขยี้ตะขาบตัวใหญ่ที่มีใบหน้าของมนุษย์

‘ ถ้าฉันคิดไม่ผิด…ตะขาบตัวนั้นคือทรงวิทย์ใช่ไหม ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน