จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 151

ณ สถาบันวิจัยลับของประเทศจีน

สถานที่แห่งนี้ถูกป้องกันอย่างแน่นหนา ด้วยหน่วยรบพิเศษระดับผู้เชี่ยวชาญเกือบสองร้อยนาย ทุกคนได้รับการจัดสรรอาวุธปืนลำแสงและชุดรบคุณภาพสูง มีความสามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนได้อย่างง่ายดาย

ผ่านไปหนึ่งวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย จ้าวเทียนก็ได้มาเยือนสถาบันวิจัยแห่งนี้พร้อมกับยานบินล่องหนที่เขายึดมาได้

“ ยานบินลำนี้…พวกคุณสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้น

“ ผมยังไม่แน่ใจนะ…แต่วัสดุแบบนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันอาจจะมีความยุ่งยากอยู่บ้าง คุณพอจะมีรายละเอียดข้อมูลของมันไหม ” โทนี่ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง

เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่จ้าวเทียนช่วยเหลือมาจากบริษัท HTI ซึ่งภายหลังเขาได้ตกลงทำงานให้กับจ้าวเทียนในการสร้างประตูมิติเชี่ยมต่อกับโลกทิพย์อื่นๆ

“ ยานลำนี้เป็นของอารยะธรรมนอกโลก มันได้ถูกเก็บกู้โดยอเมริกาและดัดแปลงให้มนุษย์สามารถใช้ได้ นี่เป็นเพียงสิ่งที่ฉันรู้ ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น โทนี่ก็มีสีหน้าลำบากใจทันที เมื่อเขาเดินเข้าไปตรวจสอบห้องควบคุมที่อยู่ด้านใน ก็พบว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่เขาไม่รู้จักมาก่อน

โชคยังดีที่พวกอเมริกาดัดแปลงมันไว้แล้ว ถ้าลองเลียนแบบตามแนวทางนี้ดู ก็น่าจะพอทำได้ เพียงแต่มันคงใช้งบประมาณมหาศาลเลยทีเดียว

จ้าวเทียนที่เห็นสีหน้าอีกฝ่าย ก็พอเดาความคิดออก

“ ถ้าผมต้องการแค่เทคโนโลยีล่องหนของมัน…คุณต้องใช้เวลานานแค่ไหน ” จ้าวเทียนลองลดความยากลงมาดู

ที่จริงปัญหาเรื่องยานบินลำนี้มันยุ่งยากกว่าที่คิด ทางอเมริกาไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมเสียมันไป หลังจากท่านผู้นำตกลงเงื่อนไขกับประธานาธิบดีสหรัฐ ฝ่ายนั้นให้เขายืมได้เป็นเวลาหนึ่งปีเท่านั้น

พอครบกำหนดต้องส่งคืนทันที ไม่อย่างนั้นอาจเกิดสงครามได้

ส่วนพวกเจ้าหน้าที่ซีลด์ที่จ้าวเทียนจับตัวไว้ ทางอเมริกาต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินเกือบพันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ถูกโอนเข้าบัญชีของจ้าวเทียนเรียบร้อย

ทางประเทศจีนเองก็ได้ผลตอบแทนมหาศาลเช่นกัน เพราะการกระทำของชีลด์ในครั้งนี้ มีทั้งพยานและหลักฐาน ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้

“ ถ้าต้องการแค่เทคโนโลยีล่องหน…แค่สามเดือนก็พอครับ ” โทนี่พูดขึ้นด้วยความมั่นใจ สถาบันวิจัยแห่งนี้มีพร้อมทั้งบุคลากรและเงินทุน ถ้าแค่ต้องการระบบล่องหนมันย่อมไม่ใช้เรื่องเท่าไหร่

“ ตกลง…ผมฝากคุณด้วยนะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ได้เลยครับ…ส่วนเรื่องประตูมิติ ตอนนี้ผมพอจะหาพลังงานอย่างอื่น มาแทนพลังชีวิตของมนุษย์ได้แล้ว ”

“ อีกประมาณครึ่งเดือน…ก็คงสร้างจนเสร็จ ” โทนี่รับปากอย่างจริงจัง เพราะเขามีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้นถ้าให้สร้างประตูมิติขึ้นมาอีกครั้ง เขาเองก็มีความมั่นใจ

“ ดีมาก…หลังจบเรื่องนี้ ฉันมีรางวัลให้พวกคุณแน่นอน ”

ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง จ้าวเทียนก็กลับมาถึงคฤหาสน์ราดาสวรรค์ จากนั้นเขาก็เรียกแกนนำของหน่วยรบพิเศษทั้งยี่สิบคนเข้ามาพบที่ห้องประชุม

โดยที่คนพวกนี้ เป็นสมาชิกใหม่ของขุมกำลังจ้าวเทียน เป็นยอดฝีมือสองร้อยคน ที่ต้วนมู่เฉียนจัดสรรให้กับจ้าวเทียน ตอนมอบตำแหน่งพลเอก

แท้จริงแล้วหน่วยรบพิเศษทั้งสองร้อยคนนี้ จะต้องคัดเลือกจากกองกำลังลับทั้งสี่ ฝ่ายละห้าสิบคน เพื่อสร้างความสมดุลในอำนาจบังคับบัญชา และจับตาดูการกระทำของจ้าวเทียนเอาไว้

แต่ทว่า…หลินซูซินไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย เธอเอาคนของตระกูลหลินที่เธอฝึกฝนมาด้วยตัวเองตลอดเวลาสิบปี เข้าไปในหน่วยรบพิเศษของจ้าวเทียนถึงหนึ่งร้อยคน

ทำให้ตอนนี้ คนของตระกูลหลินที่อยู่ในหน่วยรบพิเศษ กุมอำนาจใหญ่และกลายเป็นแกนนำสำคัญ ซึ่งจ้าวเทียนเองก็ไว้ใจและสนับสนุนพวกเขาเต็มที่ เพราะศิษย์พี่หญิงได้ตรวจสอบทุกคนอย่างละเอียดแล้ว ว่าไม่ใช่สายลับและมีความจงรักภักดีจริง

สมาชิกของหน่วยรบพิเศษ จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30-45 ปี ล้วนเป็นทหารที่เคยผ่านสงครามมาแล้วทุกคน มีระดับพลังอยู่ที่ผู้เชี่ยวชาญ 195 คน และปรมาจารย์ 5 คน แน่นอนว่าทั้ง 5 คนนี้เป็นคนของตระกูลหลิน

ส่วนสมาชิกหนุ่มสาวที่จ้าวเทียนรับเข้ามาในตอนแรก มีอายุอยู่ที่ 17-20 ปีทุกคน บางส่วนเป็นเด็กที่เติบโตอยู่ในค่ายทหาร บางส่วนเป็นคนที่ตระกูลลี่กับตระกูลกงส่งมา และยังมีนักฆ่าสาวลูกศิษย์ของโม่ซินหยานอีก

ดังนั้นพวกสมาชิกกองกำลังชุดแรกจึงถือเป็นทหารใหม่ ที่ไม่เคยผ่านสงครามมาก่อน ในบรรดาพวกเขาทั้ง 150 มีคนบรรลุปรมาจารย์ถึง 20 คน แต่ถึงแม้พลังของพวกเขาจะมากกว่ากองกำลังชุดใหม่ที่เพิ่งเข้ามา

หากจัดให้ทั้งสองฝ่ายสู้กันแบบร้อยต่อร้อย ใครชนะหรือแพ้ยังพูดยาก แต่ถ้าเรื่องการวางแผนประสานงาน การตัดสินใจ ความอดทน ทหารเก่าเหนือกว่าแน่นอน

ทุกวันนี้หน่วยรบพิเศษได้เข้าฝึกฝนร่วมกับกองกำลังหนุ่มสาว ทำให้พวกเขาได้รู้ถึงความสุดยอดของทะเลสาบมรกต ที่เพิ่มความเร็วการบ่มเพาะถึง 100 เท่า

ทั้งยังได้เรียนเคล็ดวิชาที่เหนือกว่าระดับตำนานอีกถึงสองวิชา และเม็ดยาโอสถระดับสูงก็ยังมีให้อย่างเหลือเฟือ

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือขุมกำลังที่แท้จริงของจ้าวเทียน มีขอบเขตเซียนในตำนานอยู่ด้วยหลายคน และเมื่อได้เห็นถึงความแข็งแกร่งผิดมนุษย์ของจ้าวเทียน ก็ยิ่งทำให้พวกเขาเกิดความเคารพและเกรงกลัวมากขึ้น

สุดท้าย…ด้วยเงื่อนไขต่างๆที่ล่อตาล่อใจก็ดี หรือจะเป็นหวาดกลัวในความแข็งแกร่งก็ดี ทำให้พวกเขายอมก้มหัวให้จ้าวเทียนอย่างแท้จริง และกลายเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังจ้าวเทียน

วันนี้จ้าวเทียนต้องการฟังรายงานความคืบหน้า ของภารกิจที่ได้รับมอบหมายไป

“ เรื่องการตรวจสอบและลงทะเบียนปีศาจในประเทศ…เป็นอย่างไรบ้าง ” จ้าวเทียนถามขึ้นอย่างจริงจัง

“ ตอนนี้เสร็จไปเกือบ 90% แล้วครับ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมปีศาจสาวแห่งประเทศจีน ทำให้พวกที่ต่อต้านในตอนแรกเปลี่ยนมาเห็นด้วยในทันที ”

“ ผมคิดว่าอีกสามถึงสี่วัน ก็จะสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ตามรายชื่อที่ได้รับมา ” หลินเซียวหวูรายงานออกมาด้วยความมั่นใจ

“ ดีมาก…แต่ถ้ายังมีพวกไหน ที่ยังไม่ยอมให้ความร่วมมืออีก ก็จัดการใช้ไม้แข็งได้เลย พวกเราไม่ได้มีเวลามากนัก เพราะศาสนจักรแห่งแสงได้ทยอยส่งคนเข้ามาแล้ว ” จ้าวเทียนอนุญาตให้ใช้กำลังได้

เพราะเขารู้ว่าปีศาจเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์ ย่อมมีพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเช่นกัน การลงทะเบียนปีศาจจะทำให้พวกที่อยู่ในธุรกิจสีเทา ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ พวกนั้นย่อมไม่มีทางยอมง่ายๆ

“ รับทราบ! ”

“ หลังจากนี้…ให้พวกนายกลับไปแจ้งทุกคนว่าวันพรุ่งนี้พวกเราจะออกปฏิบัติการกวาดล้างผู้ก่อการร้าย คืนนี้ให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ”

“ ในวันนั้น…ฉันเคยบอกเอาไว้แล้ว ว่าจะให้พวกคุณทุกคนได้แก้แค้น ซึ่งตอนนี้มันก็ถึงเวลานั้นแล้ว เป้าหมายในวันนี้ คือผู้ก่อการร้ายทั้งหมดในสามเหลี่ยมทองคำ ”

“ ฉันต้องขอเตือนไว้ก่อน…นี่ไม่ใช่การซ้อมรบ หากตัดสินใจผิดพลาดชีวิตของพวกคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที แม้ว่าจะฝึกฝนเคล็ดวิชากายาเทวะ ก็ห้ามประมาทเด็ดขาด ”

วูปปป!

จ้าวเทียนสะบัดมือเบาๆ อาวุธชั้นยอดที่ได้รับมาจากคลังลับนิกายจูเซียนก็ปรากฏขึ้น

ครืนนนน

ภาพอาวุธนับพันชิ้น ลอยอยู่บนฟ้าเปล่งประกายเจิดจ้า มันช่างน่าตกตะลึง พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน

“ นี่…มันอาวุธชั้นยอดทั้งหมด ในชีวิตฉันเคยเห็นเพียงแค่สี่ถึงห้าชิ้นเท่านั้น จากพวกระดับสูงในกองทัพ ไม่นึกเลยว่าบอสจะมีพวกมันเป็นพันชิ้น ”

“ นายดู…ธนูสิบอัน ที่ลอยอยู่ตรงกลางนั่นซะก่อน แค่พลังที่มันปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ฉันขนลุกแล้ว หรือจะเป็นอาวุธเทพในตำนาน ”

เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขา จ้าวเทียนก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อยตรงมุมปาก ที่จริงเขายังมีของดีมากกว่านี้อีก แต่แสดงให้ดูแค่นี้ก็คงพอแล้ว

“ สิบคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด…จะได้รับธนูระดับกึ่งเทพ และเลือกอาวุธชั้นยอดหนึ่งชิ้น ส่วนคนที่เหลือจะได้รับแค่อาวุธชั้นยอดคนละชิ้นเท่านั้น ”

“ สำหรับคนที่ได้รับธนูระดับกึ่งเทพ ฉันจะสอนเคล็ดวิชาระดับที่เหนือกว่าตำนานให้อีกหนึ่งวิชา และฉันรับปากว่าจะทำให้พวกเขาบรรลุขอบเขตเซียนแน่นอน ดังนั้นฉันหวังว่าพวกคุณจะตั้งใจให้ดี ”

ทุกคนที่ได้ยินต่างก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ขอบเขตเซียนงั้นเหรอ นี่มันเป็นความฝันของพวกเขาทุกคนเลยนะ เกิดความวุ่นวายขึ้นมาชั่วขณะ เพราะของรางวัลอันล้ำค่า

จนกระทั่งเมื่อเห็นเสียงคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มเงียบลงแล้ว จ้าวเทียนจึงเริ่มพูดต่อ

“ ระยะเวลาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้มีเวลา 7 วัน พวกคุณจะต้องแทรกซึมเข้าไปกวาดล้างศัตรูทั้งหมด จำไว้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีประมาณหนึ่งแสนคน อย่าให้ความโลภบังตา ให้เน้นที่ความปลอดภัยเอาไว้ก่อน ”

“ เอาล่ะ…ฉันได้ให้ทางกองทัพส่งเครื่องบินขนส่งมารับแล้ว ขอให้พวกคุณเริ่มออกเดินทางได้ ทหารเก่าทุกคนอย่าลืมดูแลสมาชิกในกลุ่มให้ดีล่ะ”

เนื่องจากครั้งนี้ตัวจ้าวเทียนไม่ได้ไปด้วย จึงเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะคนพวกนี้เป็นกองกำลังส่วนตัวของเขา ในอนาคตข้างหน้าไม่แน่ว่า อาจจะกลายเป็นกองทัพเซียน 350 คนเลยก็ได้

‘ ฉันส่งโม่ซินหยานกับพวกลูกศิษย์ทั้งหมดของเธอ ไปที่สามเหลี่ยมทองคำก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อลอบสังหารคนที่คิดว่าจะเป็นอันตรายไปก่อน ’

‘ ส่วนเฉินจิ้งกับเจนนี่ ฉันให้คอยดึงดูดความสนใจ ของกองกำลังส่วนใหญ่ของพวกมันเอาไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนของพวกเราสามารถแฝงตัวเข้าไปได้ ’

‘ สิบคนแรกที่ทำผลงานได้ดีที่สุด…ฉันจะใช้ทรัพยากรที่ได้มาจากนิกายจูเซียนทำให้พวกเขาเข้าสู่ขอบเขตเซียนให้ไวที่สุด ’

‘ หลังจากนั้น…ด้วยธนูระดับกึ่งเทพและเคล็ดวิชาศรเงาสังหาร พวกเขาทั้งสิบคนจะกลายเป็นอาวุธลับที่แข็งแกร่งของฉัน ’

ด้วยทรัพยากรของเขาในตอนนี้ เพียงพอจะส่งเสริมให้บรรลุเซียนได้เพียงสิบคนเท่านั้น จึงต้องคัดเลือกให้ดี ส่วนพวกคนที่ใกล้ชิดนั้น จ้าวเทียนได้จัดเตรียมทุกอย่างให้หมดแล้ว