จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 158

หลังจากที่ทุกคนกลับมาถึงคฤหาสน์ดาราสวรรค์ จ้าวเทียนก็ให้พวกเขาได้พักผ่อนเป็นเวลาสองวัน เพราะสามารถทำภารกิจได้เร็วกว่ากำหนด ในช่วงเวลานี้ทะเลสาบมรกตเหมือนมีงานเลี้ยงใหญ่

ไม่ว่าจะเป็นอาหารเครื่องดื่ม โชว์การแสดงต่างๆถูกจัดเตรียมไว้ให้พวกเขาผ่อนคลายอย่างเต็มที่ สำหรับเรื่องนี้ จ้าวเทียนเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง เพราะความกดดันที่พวกเขาเผชิญมาหนักหนาสาหัสเป็นอย่างมาก

ในภารกิจครั้งนี้ ได้สังหารศัตรูไปประมาณหนึ่งแสนคน มีคนของเขาตายไปสิบสองคน เป็นพวกทหารใหม่สิบคน อีกสองคนเป็นหน่วยรบพิเศษ

ส่วนผลลัพธ์ในครั้งนี้ นอกจากจะเปลี่ยนทหารใหม่ให้กลายเป็นทหารแกร่งแล้ว ยังมีคนบรรลุขอบเขตปรมาจารย์ในการต่อสู้เพิ่มมาถึง 40 คน ทำให้ตอนนี้จากกองกำลังทั้ง 338 คน มีปรมาจารย์ถึง 60 คน ส่วนที่เหลือต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง

ที่สามารถทำได้ขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ เนื่องมาจากเคล็ดวิชากายาเทวะที่จ้าวเทียนสอนให้ มันเป็นเคล็ดวิชาที่ใช้ฝึกฝนทหารบนแดนสวรรค์ ย่อมเหนือกว่าวิชาอื่นบนโลกมากนัก

ในตอนนี้ ข้อมูลของจำนวนปรมาจารย์ในกองกำลังของจ้าวเทียนยังถูกเก็บไว้เป็นความลับ รอจนถึงวันชิงตำแหน่งผู้บัญชาการซิงหลงเมื่อไหร่ ค่อยให้คนพวกนั้นได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของกองกำลังของเขาด้วยตัวเอง

ทางด้านทีมลอบสังหารของโม่ซินหยาน ก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน แม้ว่าพวกเธอจะไม่ถูกนับรวมไปในการแย่งชิงสิบอันดับแรก แต่จ้าวเทียนก็ได้เตรียมเลือดมังกรห้าขวดไว้ให้เป็นรางวัลแล้ว

หลังจากที่ใช้พวกมันไปกับเฉินจิ้ง จ้าวเทียนก็ยังเหลือเลือดมังกรอีกยี่สิบขวด แต่วันนี้เขาจะมอบออกไปอีกห้าขวด เก็บไว้เพียงสิบห้าขวดเท่านั้น

ถึงแม้มันจะไม่ค่อยมีประโยชน์กับตัวเขาแล้ว แต่ยังสามารถใช้เป็นรางวัลให้กับลูกน้องที่ทำผลงานดีในอนาคตได้

สองวันต่อมา

บนเวทีขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ จ้าวเทียนได้เรียกสิบอันดับแรกขึ้นมารับธนูระดับกึ่งเทพทีละคน ซึ่งรายชื่อทั้งสิบคนไม่หลุดจากที่เขาคาดการณ์มากนัก

1 หลินเซียวหวู หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ

2 ถังซิ่วหนิง หัวหน้าทหารใหม่

3 หลินโฮ่ว รองหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ

4 หูเสี่ยวหมิง ผู้นำทีมทหารใหม่

5 กู่เฟยหลง ผู้คุมกฎทหารใหม่

….

ทั้งสิบคนประกอบไปด้วยหน่วยรบพิเศษ 7 คน และทหารใหม่ 3 คน ทุกคนล้วนแต่เป็นปรมาจารย์ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มภารกิจ เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในกองกำลังทั้งหมด

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีมอบรางวัล และแจกจ่ายอาวุธชั้นยอดให้กับกองกำลังทุกคน จ้าวเทียนก็ได้เรียกทั้งสิบคนนี้เข้าพบเป็นการส่วนตัว

“ พวกคุณทำผลงานได้ดีมาก…หลังจากนี้ฉันจะมอบเคล็ดวิชาระดับนภาให้พวกคุณ มันมีชื่อว่า ศรเงาสังหาร ”

“ อย่าดูถูกเพียงเพราะว่ามันเป็นเคล็ดวิชาธนู ฉันอยากบอกพวกคุณว่า ในการต่อสู้ของเซียนระดับสูง พวกอาวุธปืนนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์ ”

“ เพราะเราไม่สามารถเสริมพลังของเราไปในการโจมตีได้…แต่ถ้าเป็นธนู เราสามารถให้พลังของเราได้อย่างเต็มที่ พวกคุณลองนึกภาพการโจมตีระยะไกลที่สามารถสังหารเซียนได้ในพริบตาสิ ”

จ้าวเทียนอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด

“ บอสครับ…พวกเราสามารถใช้ปืนลำแสงแทนได้นี่ครับ มันก็จัดการเซียนได้เหมือนกัน ” หูเสี่ยวหมิงพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“ ปืนลำแสงพวกนั้น…หากเป็นการต่อสู้บนท้องฟ้า หรือสถานที่เปิดกว้าง มันแทบไม่มีผลกับเซียนเลย เพราะมันอ่านทางได้ง่ายมาก และยังมีระยะยิงที่ใกล้ ”

“ แตกต่างจากเคล็ดวิชาธนูที่ฉันมอบให้…พวกนายสามารถโจมตีในระยะเท่าที่สายตามองเห็นได้เลย ยิ่งเมื่อรวมกับธนูระดับกึ่งเทพ การสังหารเซียนในระยะหมื่นเมตรเป็นเรื่องง่ายมาก ” จ้าวเทียนยกตัวอย่างให้ฟัง

“ นี่มัน…จะเป็นไปได้จริงๆเหรอครับ ผู้บัญชาการ ” หลินเซียวหวูถามอย่างเหลือเชื่อ ระยะหมื่นเมตรนั่นมันเกินกว่าโครตปืนซุ่มยิงไปแล้ว

“ หลังจากนี้…พวกคุณจะรู้เอง ” จ้าวเทียนพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ จากนั้นก็ส่งเคล็ดวิชาไปให้พวกเขาศึกษากัน โดยมีเขาคอยตอบข้อสงสัยให้

ซึ่งก็ใช้เวลาไปเกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว…

“ เอาล่ะ…ทีนี้ก็มาถึงรางวัลชิ้นสุดท้าย ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำให้สายตาของทุกคนเป็นประกายขึ้นทันที

เพราะรางวัลสุดท้ายก็คือ การบรรลุขอบเขตเซียน

“ จากที่ฉันดู…นอกจากหลินเซียวหวูแล้ว พวกคุณที่เหลือยังไม่มีใครถึงขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงเลย ”

“ ดังนั้น…ฉันจะมอบเม็ดยาโอสถระดับสูงให้พวกคุณอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนกลายเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงภายในสามวัน หลังจากนั้นค่อยจัดการให้พวกคุณทะลวงขอบเขตพร้อมกัน ” จ้าวเทียนพูดเสียงจริงจัง

เหตุผลที่ต้องให้ทั้งสิบคนทะลวงขอบเขตพร้อมกัน ก็เพราะเขาต้องการสร้างเขตอาคมรวมจิตวิญญาณขนาดใหญ่ ในครั้งเดียวเพื่อประหยัดทรัพยากร

“ ส่วนคนที่ลงมือ…ทางเรากำลังตามตัวอยู่ แต่หน่วยข่าวกรองคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ”

“ เป็นความผิดของผมเองครับ…เพราะผมประมาทเกินไป เลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ”เจ้าหน้าที่คนทางขวารีบพูดขึ้นด้วยความสำนึกผิด

เขาชื่อซุนเฉิน เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่มีความสามารถในการทรมานเพื่อรีดข้อมูล จ้าวเทียนได้ดึงตัวเขามาเพื่อจัดการ จ้าวเหวยเฟิงโดยเฉพาะ

หลังจากจ้าวหยุนปิงหายตัวไป เบาะแสทั้งหมดก็ถูกตัดขาด จ้าวเทียนคิดว่าจ้าวเหวยเฟิงน่าจะมีข้อมูลแหล่งกบดานของลูกชายตัวเอง

“ เอาเถอะ…ในเมื่อตายแล้ว ก็ช่างมัน ” จ้าวเทียนพูดออกมาเบาๆ เมื่อมองไปยังศพที่นอนอยู่ตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่มากมาย บอกได้เลยว่าคงโดนมาหนักแน่นอน

‘ แบบนี้…ก็คงถือว่าเป็นกรรมตามสนองละมั้ง ’

“ ผู้บัญชาการครับ…นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้มา ” ซุนเฉินส่งเอกสารชุดหนึ่งให้ ซึ่งจ้าวเทียนก็หยิบมาเปิดอ่านดูทันที

ผ่านไปห้านาที

แววตาของจ้าวเทียนก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง มือที่จับเอกสารอยู่เกร็งแน่นเล็กน้อย แล้วถามออกมาเบาๆ

“ เรื่องทั้งหมดนี้…เป็นความจริงเหรอ ”

“ จากประสบการณ์ที่ผมทำงานมา…สิ่งที่เขาบอกมาน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะหลังจากถูกทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ยังตอบเหมือนเดิมตลอด ” ซุนเฉินพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ

เมื่อได้ยินแบบนั้นจ้าวเทียนก็ถอนหายใจออกมา สีหน้าเขาดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ข้อมูลในเอกสารหน้าสุดท้ายมันเหลือเชื่อจนเกินไป

‘ จ้าวเหวยเฟิง…บอกว่าจ้าวหยุนปิงไม่ใช่ลูกชายของเขา เพราะเขาเคยแอบตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว ’

‘ ส่วนคนที่เป็นพ่อที่แท้จริงของจ้าวหยุนปิงก็คือ จ้าวลั่วเฉินพ่อของเขาเอง ซึ่งเรื่องนี้มันบ้ามาก ’

‘ ดูเหมือน…ฉันต้องไปหาลุงใหญ่อีกครั้ง ฉันต้องการรู้เรื่องราวในอดีตทั้งหมด ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน