จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 180

คำถามของจ้าวเทียน ทำให้หยวนตี้พูดไม่ออก เพราะตลอดสองพันปีที่ผ่านมาเขาก็เพิ่งพบกับพวกจ้าวเทียนเป็นกลุ่มแรก

ดังนั้นถ้าให้พูดจริงๆ บนโลกมนุษย์ก็มีเพียงแค่พวกจ้าวเทียนเท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับนิกาย ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกเขาตามตรงแล้วว่าเป็นศิษย์ของนิกายดาราสวรรค์

“ ผู้อาวุโส…ถ้าคุณตอบตกลง ผมจะให้กองกำลังของผมสามร้อยห้าสิบคน เข้าเป็นศิษย์ของนิกายจูเซียน ผมขอบอกไว้ก่อนนะว่าคนพวกนั้นไม่เคยเข้านิกายมาก่อน ” จ้าวเทียนเพิ่มข้อเสนอเข้าไป

ด้วยทรัพยากรที่นิกายจูเซียนทิ้งเอาไว้ มันสามารถบ่มเพาะกองทัพเซียนให้เขาได้สบาย เงื่อนไขนี้ถือว่าได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

“ เธอพูดจริงหรือ…เธอจะให้กองกำลังของเธอเข้าเป็นศิษย์ของนิกายจูเซียนจริงๆหรือ” หยวนตี้ถามขึ้นด้วยความหวัง

“ เรื่องนี้แน่นอน…ผมต้องการเพียงกองกำลังที่แข็งแกร่งและจงรักภักดีเท่านั้น ส่วนพวกเขาจะเป็นคนของนิกายไหน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ” จ้าวเทียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง

“ งั้น…ฉันตกลง ” หยวนตี้ตอบรับทันที เพราะนี่เป็นเป็นความหวังเดียวของนิกายจูเซียนที่อยู่บนโลกแล้ว

‘ ถ้าฉันไม่ตกลง…ยังไงซะนิกายก็คงถูกทำลายในอีกห้าปีให้หลังอยู่ดี ’

“ ผมรับรอง…คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน ” จ้าวเทียนพูดจบ เขาก็ส่งแผ่นหยกที่ได้รับมาจากหลินซินเยว่ ให้หยวนตี้นำไปหลอมรวมกับคลังสมบัติแห่งนี้

ครืนนน!

ใช้เวลาไปเพียงครู่หนึ่ง กระแสมิติเวลาของสถานที่แห่งนี้ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง

วูป!

แสงสว่างอันเจิดจ้าระเบิดออกมา จากนั้นสภาพแวดล้อมรอบๆก็เปลี่ยนไป ผนังกำแพงทุกด้านกลายเป็นโปร่งใส

มองเห็นทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่ไพศาล ห้องที่พวกเขาอยู่เหมือนลอยเคว้งคว้างอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่

“ นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น ” หยวนตี้ถามด้วยสีหน้ากังวล

“ ที่นี่คือ…อาณาเขตของสำนักดาราสวรรค์ ซึ่งอยู่สุดขอบจักรวาล อาจารย์ของผมต้องการจะซ่อนคลังลับแห่งนี้เอาไว้ ให้อยู่ไกลจากสายตาของศัตรู ”

“ การที่จะตามหาตำแหน่งของพวกเราภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่นั้น…ไม่มีทางเป็นไปได้ ” จ้าวเทียนอธิบาย

“ แต่…สถานที่แบบนี้จะรับศิษย์เข้ามาได้อย่างไร ” หยวนตี้ถามอีกครั้ง เขารู้ว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดภัยจริง

เพราะการที่ฝ่ายตรงข้ามจะตามหาพวกเขา จะต้องสุ่มตรวจดูมิติแต่ละแห่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ซึ่งต่อให้ทำไปอีกเป็นล้านปีก็ไม่สำเร็จ ยกเว้นว่าจะรู้ตำแหน่งที่แน่นอน

“ เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง…รออาจารย์ของผมซักครู่ ” จ้าวเทียนพูดด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

ทันใดนั้นเอง

ครืนนนนน!

ทะเลดวงดาวที่อยู่อีกฟากหนึ่งกะพริบแสงสว่างไสว จากนั้นแสงจากดวงดาวนับร้อยได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

วูปป!

ดวงแสงขนาดมหึมา ได้เปลี่ยนรูปร่างเป็นหญิงสาวชุดขาวนางหนึ่ง แค่เพียงกลิ่นอายของพลังที่เธอปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว ก็ทำให้หยวนตี้ถึงกับสั่นสะท้านด้วยความกลัว

หญิงสาวคนนั้น มีร่างกายใหญ่โตกว่าดวงอาทิตย์สิบเท่า เพียงแค่เธอดีดนิ้วเบาๆ ก็สามารถทำลายดาวเคราะห์ที่ไร้สิ่งมีชีวิตขนาดเท่ากับโลกได้สบาย

“ นี่มัน…ร่างทิพย์สิบตะวัน เธอเป็นเทพโลกาขั้นเก้างั้นเหรอ ” หยวนตี้พูดเสียงอ่อนแรง ความกดดันจากหญิงสาวคนนั้นมันมหาศาลมาก

ตัวเขาเองนั้นถือกำเนิดและเติบโตขึ้นบนโลกมนุษย์ ไม่เคยขึ้นไปบนแดนสวรรค์มาก่อน ด้วยขอบเขตของเขาก่อนที่จะกลายเป็นวิญญาณประดิษฐ์ อยู่เพียงแดนเทพเท่านั้น

สำหรับตัวตนอย่างเทพโลกาที่เป็นบุคคลชั้นสูงบนแดนสวรรค์ เขาเองก็ไม่เคยได้พบมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นร่างทิพย์ของเทพโลกา ทั้งยังเป็นเทพโลกาขั้นเก้าอีกด้วย

“ ผู้อาวุโส…เธอเป็นอาจารย์ของผมเอง ” จ้าวเทียนพูดให้หยวนตี้ผ่อนคลายขึ้น

เขาเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายดี แม้แต่บนแดนสวรรค์ ตัวตนของขอบเขตเทพโลกาขั้นเก้ายังพบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าสำนักระดับสูงสิบอันดับแรก

ส่วนพวกจักรพรรดิของโลกทิพย์ เก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดิน จะมีพลังอยู่ที่ประมาณเทพโลกาขั้นหกถึงแปดเท่านั้น

วูป!

เพียงพริบตาเดียว ร่างทิพย์ของหลินซินเยว่ก็หายไป จากนั้นตัวเธอในขนาดเท่ากับมนุษย์ปกติ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าจ้าวเทียน

แวบ!

หลินซินเยว่ได้เก็บออร่าทั้งหมดเข้าไป ทำให้ตอนนี้ตัวเธอไม่ต่างจากหญิงสาวธรรมดา

“ คงสร้างความตื่นตระหนกให้คุณแล้ว…ฉันต้องหลบซ่อนการตรวจสอบจากเต๋าสวรรค์ จึงต้องสร้างร่างทิพย์ขึ้นในสถานที่ใกล้เคียงแทน ” หลินซินเยว่อธิบาย

“ สำนักงานขนส่งสืออี้ มณฑลเหอเป่ย

ทางเรายังพบอีกว่า สถานที่นี้เป็นสาขาของสำนักง้อไบ๊ในโลกภายนอก ”

“ ขอบคุณมาก…หลังจากนี้ ผมคงต้องรบกวนพวกคุณช่วยเหลืออีกมากเลย ” การที่จ้าวเทียนพูดแบบนี้ ถือเป็นการยอมรับอีกฝ่ายเข้ามาเป็นพวกเดียวกันอย่างแท้จริง ทำให้เจียงฮุ่ยรับคำด้วยความยินดี

เพราะกลุ่มของจ้าวเทียนจะถือเป็นขุมอำนาจอันดับหนึ่งในอนาคต…

“ ศิษย์น้อง…นายจะไปไหนเหรอ ” คังหลินที่อยู่แถวนั้นพอดีถามขึ้น

“ ผมจะไปจัดการศัตรู ที่เป็นตัวการวางระเบิดในวันนั้น ” จ้าวเทียนตอบตามตรง สำหรับศิษย์พี่รองเขาไม่มีเรื่องให้ปิดบังอยู่แล้ว

“ น่าสนใจ…งั้นฉันไปด้วยก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันว่างมากจนไม่มีอะไรทำแล้ว ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ตกลง…งั้นพวกเราไปกันเถอะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นแล้วบินนำออกไปทันที

มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน

บริเวณปากถ้ำแห่งหนึ่ง ห่างออกไปจากสำนักงานขนส่งสืออี้ประมาณสิบกิโลเมตร คนกลุ่มหนึ่งประมาณยี่สิบคนกำลังขนย้ายของบางอย่างเข้าไปในถ้ำ

“ เตรียมตัวพร้อมแล้วใช่ไหม…หลังจากนี้ฉันจะเปิดใช้อาคมเคลื่อนย้ายเธอกับพวกทรัพยากรที่เราหามาได้ เข้าไปในสำนักง้อไบ๊ ” แม่ชีชุดเทาถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ไม่ต้องห่วงครับ…ผมพร้อมแล้ว ” จ้าวหยุนปิงพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

“ อย่าลืมรายงานเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เจ้าสำนักฟัง เราจะปล่อยให้จ้าวเทียนมีชีวิตอยู่ไม่ได้เด็ดขาด ” แม่ชีชุดเทาพูดย้ำขึ้น

“ ผมทราบแล้ว…ว่าแต่การที่เราออกมาแบบนี้จะไม่ถูกอีกฝ่ายพบตัวเหรอ ” จ้าวหยุนปิงถามด้วยความกังวล กว่าอาคมเคลื่อนย้ายจะใช้งานได้ ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมง

ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้อำนาจของจ้าวเทียนแทบจะครอบคลุมทั้งประเทศแล้ว หากไม่มีเขตอาคมปกปิดการตรวจสอบจากสัมผัสวิญญาณ พวกเขาต้องโดนเจอตัวแน่

ด้วยพลังของจ้าวเทียน เขาสามารถมาถึงที่นี่ได้ภายในเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง

“ หึหึ…ฉันเตรียมการเอาไว้แล้ว ตอนนี้เซียนจากสำนักอื่นที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเรา มาอยู่ที่นี่หมดแล้ว ถ้าหากจ้าวเทียนตามมาจริงๆ ”

“ ฉัน…จะให้มันทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่ ”