จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 197

หลังจากเปิดศึกได้สิบนาที การต่อสู้ของเหล่าปรมาจารย์ก็ทวีความดุเดือดขึ้นทุกครั้ง สนามรบของพวกเขาจำเป็นต้องแยกออกจากคนอื่น เพื่อป้องกันความเสียที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น

เปรี้ยง ตูมมมม!

เงาร่างสองสายได้ปะทะและแยกออกอย่างรวดเร็ว ดาบใหญ่สองคมของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงฟันเข้าใส่จ้าวเทียนอย่างถี่รัว กระแสปราณอันน่าหวาดกลัวระเบิดออกไปรอบด้าน

เปรี้ยงๆๆๆ บูมมม!

กระบี่ในมือของจ้าวเทียนวาดเป็นวงโคจรอย่างสวยงาม ปัดป้องการโจมตีทุกอย่างในคราวเดียว ความตระหนักรู้ในศาสตร์กระบี่ของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บนพื้นดินด้านล่าง มีซากศพปรมาจารย์ขั้นต่ำของกองกำลังเงาปีศาจสองคนกองอยู่ พวกเขาถูกฟันขาดเป็นชิ้นๆเพราะประเมินตัวเองสูงเกินไป

คิดหลบเร้นเข้าหาจ้าวเทียนจากด้านหลัง สุดท้ายจึงถูกสังหารในพริบตา จนทำให้พวกที่เหลือไม่กล้าทดลองอีก

สำหรับจ้าวเทียนในตอนนี้ การสังหารปรมาจารย์ขั้นต่ำลำบากเพียงยกมือเท่านั้น แม้แต่ปรมาจารย์ขั้นกลางอย่างแม่ทัพฉินโฮว่หมิง หากไม่ใช่เพราะมีผู้อาวุโสฉินซู่โหวคอยช่วยประสาน ก็คงถูกจ้าวเทียนสังหารทิ้งไปแล้ว

ตอนนี้ปรมาจารย์ขั้นต่ำที่เหลืออีกสี่คน จึงทำได้แค่ใช้กระบวนท่าโจมตีจากระยะไกล เข้าก่อกวนจ้าวเทียนเท่านั้น

“ บัดซบ…ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราจะฆ่าแกคนเดียวไม่ได้ ” ฉินโฮว่หมิงตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล

“ เคล็ดอสูรสงคราม!! ”

ครืนนน!

ปราณสีแดงอันดุดันและจิตสังหารอันเกรี้ยวกราด ระเบิดออกมาจากร่างของเขา กล้ามเนื้อขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

อ้ากก!

เมื่อดวงตาของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ร่างจำแลงอสูรหมาป่าสวมเกราะก็ปรากฏขึ้นด้านหลัง

นี่คือเคล็ดวิชาเดียวกับที่แม่ทัพตาเดียวเคยใช้ มันถูกถ่ายทอดให้กับแม่ทัพระดับสูงในแคว้นต้าฉินทุกคน

เคล็ดวิชานี้เป็นเสมือนไม้ตายสุดท้าย ที่จะถูกใช้ในยามวินาทีเป็นตายเท่านั้น เนื่องจากเป็นการเผาผลาญปราณโลหิตของตนเอง ทำให้อายุขัยสั้นลง

โฮกกก

“ เจ็ดดาบตระกูลฉิน! ”

เมื่อดาบใหญ่ของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงฟันออกมา ปราณดาบสีแดงเจ็ดสายระเบิดเข้าใส่จ้าวเทียนพร้อมกัน

ตอนนี้แหละ!

ปรมาจารย์ทั้งสี่คนที่รออยู่ ก็ได้เลือกจังหวะนี้ลงมือพร้อมกันทันที พวกเขาทะยานร่างเข้าใส่จ้าวเทียนจากสี่ทิศทาง

“ ฆ่ามัน! ”

“ อ่อนหัด! ” จ้าวเทียนพูดเสียงเบา เขาถีบตัวพุ่งไปด้านหน้า พร้อมกับกระบี่ในมือที่ถูกวาดออกไป

“ วงจรกระบี่! ”

เปรี้ยงงงๆๆๆ ตูมมมม

การโจมตีทุกอย่างเหมือนจมหายไปในม่านพลังไร้รูป ที่เกิดจากวิถีกระบี่ของจ้าวเทียน พวกมันไม่อาจฝ่าเข้ามาถึงตัวเขาได้แม้แต่น้อย

ทันใดนั้น

ผู้อาวุโสฉินซู่โหว ก็ทะยานร่างเข้าใส่จ้าวเทียนจากมุมอับสายตา แววตาของเขาทอประกายเจิดจ้า จิตสังหารระเบิดออกมาในพริบตาเดียว

“ เงามัจจุราชล่าโลหิต! ”

บูมมมม!

กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย หมอกสีแดงปกคลุมรัศมีสิบเมตรรอบด้าน จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นเคียวขนาดยักษ์ตวัดเข้าใส่ลำคอของจ้าวเทียนอย่างรวดเร็ว

!!

‘ มาได้ดี…แต่ถ้าจะฆ่าฉัน มันยังไม่พอ ’

ช่วงเสี้ยววินาทีนั้น นัยน์ตาของจ้าวเทียนก็หดเล็กลง หมัดซ้ายของเขากำแน่น แล้วเหวี่ยงออกไปด้านหลังโดยไม่หันไปมอง

เปรี้ยง!

ชั่วขณะหนึ่ง ภาพในสายตาทุกคนที่จับตามองอยู่เหมือนช้าลง สามารถมองเห็นหมัดของจ้าวเทียนประทะเข้ากับเคียวยักษ์สีแดงอย่างช้าๆ

ครืนนน!

คลื่นพลังจากการปะทะที่ระเบิดออกมา ได้ทำลายทั้งเคียวยักษ์และหมอกสีแดงสลายไปพร้อมกัน โดยที่หมัดของจ้าวเทียนเกิดบาดแผลตื้นเพียงแค่รอยเล็กๆเท่านั้น

ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาตอนนี้ ต่อให้ไม่มีพลังเซียนก็สามารถใช้มือเปล่าปะทะกับอาวุธกึ่งเทพได้โดยไม่ตกเป็นรอง

แต่ทว่า

นี่กลับเป็นเพียงแผนการที่ผู้อาวุโสฉินซู่โหววางไว้แต่แรก เขาได้เตรียมกระบวนท่าสังหารที่แท้จริงเอาไว้แล้ว

ในตอนที่หมัดของจ้าวเทียนปะทะกับเคียวยักษ์สีแดง เขาก็ซัดตะปูสีดำฉาบพิษร้ายสามอันออกไปในพริบตา ขอแค่มันสัมผัสถูกผิวหนังก็จะสามารถคร่าชีวิตปรมาจารย์ได้ทันที

“ ตะปูพิษศพทมิฬ! ”

เฟี้ยวๆๆๆ

ฉึก!ๆๆ

ตะปูทั้งสามเล่มพุ่งเข้าใส่ไหล่ซ้ายของจ้าวเทียน และจมลึกลงไปเพียงเล็กน้อย ก่อนจะดีดกลับออกมา และตกลงบนพื้นด้านล่าง

“ ฮ่า ฮา…ในที่สุดฉันก็ฆ่าแกได้ นี่คืออาวุธลับสังหารที่ฉันซื้อมาจากสำนักเซียน ด้วยหินวิญญาณระดับกลางถึงห้าร้อยก้อน ”

“ ตอนแรก…ฉันคิดว่าจะเก็บไว้ใช้ กับไอ้แก่ไม่ยอมตายของตระกูลฉิน แต่ใช้กับแกตอนนี้มันก็ดีกว่าแน่นอน เพราะแกมันเป็นตัวอันตรายเกินไป สมควรตายยิ่งกว่าไอ้แก่นั่นเสียอีก ”

เคล็ดวิชามากมายพุ่งเข้าใส่จ้าวเทียนจากหลายทิศทาง แต่เขาก็ใช้วงจรกระบี่ป้องกันเอาไว้ แล้วอาศัยวิชาตัวเบาฝืนทะลวงออกไปได้สำเร็จ

โฮกกก!

“ เจ็ดดาบตระกูลฉิน! ”

แม่ทัพฉินโฮว่หมิงที่อยู่ในสภาพบ้าคลั่ง พุ่งทะยานเข้ามาขวาง แล้วฟันดาบเข้าใส่จ้าวเทียนอย่างรุนแรง

แต่ทว่า

การกระทำของเขานั้นถือเป็นสิ่งที่โง่เขลามาก

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา สาเหตุที่เขาเผชิญหน้ากับจ้าวเทียนได้ ก็ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสฉินซู่โหวและปรมาจารย์คนอื่น

การเผชิญหน้ากับจ้าวเทียนเพียงคนเดียวในเวลานี้ ทั้งยังอยู่ในระยะประชิด ผลของมันคงไม่จำเป็นต้องคาดเดาแล้ว

“ กระบี่สรรพสิ่ง! ”

กระบี่ในมือจ้าวเทียนพร่าเลือน และหายไปจากสายตาของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงในชั่วเสี้ยววินาที

ฉัวะ!

ก่อนที่ดาบเล่มใหญ่จะฟันลงมา แขนของแม่ทัพฉินโฮว่หมิงก็ถูกฟันจนขาด จากนั้นกระบี่บิดหมุนพลิกแพลงอย่างงดงาม ฟันใส่ลำคอของศัตรูในพริบตา

ฉัวะ!

ศีรษะหัวหนึ่งขาดกระเด็นออกไป แม่ทัพฉินโฮว่หมิงแห่งเมืองเหล็กดำได้ถูกสังหารในเสี้ยววินาที

“ บัดซบ ” จ้าวเทียนแค่นเสียงด้วยความเดือดดาล เพราะการเข้ามาขวางของแม่ทัพฉินโฮว่หมิง ทำให้เขาถูกดึงให้ช้าไปหนึ่งจังหวะ เปิดโอกาสให้คนที่เหลือตามทัน

‘ ศิษย์พี่ทนไม่ไหวแล้ว ’

ตอนนี้คังหลินพลาดท่า ถูกศัตรูคนหนึ่งยอมพลีชีพ เข้ามากอดขาของเขาไว้ทำให้ขยับไม่ได้ พวกศัตรูที่เหลืออยู่ก็รีบรุมเข้าไปทันที

แคร้ง!

กระบี่มือของเขาถูกฟันหักเป็นสองท่อน แผ่นหลังก็ถูกหมัดชกใส่อย่างจัง หากไม่ใช่เพราะศัตรูต้องการจับเป็น เขาคงถูกสังหารไปแล้ว

แต่ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะเข้ามาควบคุมตัวของเขาไว้ ผืนแผ่นดินก็เหมือนสั่นไหว เสียงกีบเท้าม้าจำนวนมากมุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

“ ใครกล้าทำร้ายหลานชายของฉัน…มันต้องตาย ”

ชายชราเครายาว ในชุดแม่ทัพเกราะทองทะยานร่างเข้ามาในพริบตา เพียงเขาฟันดาบออกไป คลื่นปราณดาบก็ระเบิดออกมา เฉือนพวกศัตรูที่ล้อมคังหลินอยู่เป็นชิ้นๆ

พ่อและพี่สาวของคังหลิน ควบม้าพุ่งตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว ที่ด้านหลังยังมีกองกำลังองครักษ์ของตระกูลฉินอีกห้าร้อยนาย พร้อมด้วยผู้อาวุโสระดับสูงในตระกูลที่ขนกันมาหมดทั้งจวน

ตอนนี้ขุมกำลังทั้งหมดของตระกูลฉินได้มาถึงแล้ว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน