หลังจากเหตุการณ์ที่กระบี่เทพยี่สิบเล่มยอมสิโรราบให้จ้าวเทียน เวลาก็ได้ผ่านมาเรื่อยๆจนถึงเช้าวันใหม่
ตอนนี้เจตจำนงกระบี่ที่จ้าวเทียน ปลดปล่อยออกมาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนอาณาเขตรอบตัวของจ้าวเทียน ขยายออกไปจากสิบเมตรกลายเป็นร้อยเมตรแล้ว แทบจะปกคลุมทั่วทั้งชั้น
ถือเป็นโชคดีที่พวกคัมภีร์ต่างๆไม่ได้รับผลกระทบ ไม่อย่างนั้นตระกูลฉินคงต้องสูญเสียอย่างแสนสาหัสแน่นอน
ค่ายกลปิดกั้นที่คังหลินวางเอาไว้ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีเช่นกัน เพราะมีม่านพลังป้องกันชั้นนี้เอาไว้ ทำให้พวกองค์รักษ์ตระกูลฉินที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก ไม่โดนเจตจำนงกระบี่หั่นเป็นชิ้นๆ
ครืนนน
เพียงพริบตาเดียว เจตจำนงกระบี่ทั้งหมดก็ถูกดูดกลับเข้ามาในร่างของจ้าวเทียน มันประสานเข้าไปในจิตวิญญาณของเขา
วูปป!
จิตแห่งกระบี่ได้ก่อเกิดขึ้นในเมล็ดพันธุ์เซียนของจ้าวเทียน มันพยายามกระตุ้นให้เมล็ดพันธุ์เซียนตื่นขึ้นจากการจำศีล
ครืนนน!
แต่ทว่ามันกลับไร้ผล พลังที่ถูกสูบฉีดเข้าไปในเมล็ดพันธุ์เซียน เหมือนกับหยดน้ำจมลงในมหาสมุทร ไม่มีการตอบสนองแม้แต่น้อย
วิ้งงง!
จิตกระบี่เหมือนกับมีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อเห็นว่าวิธีปกติใช้ไม่ได้ผล มันเลยตัดสินใจอย่างบ้าบิ่น นำตัวเองออกมาจากเมล็ดพันธุ์เซียน แล้วเริ่มทำบางอย่างทันที
วูปป
กระบี่เทพทั้งยี่สิบเล่มที่ปักอยู่บนพื้นรอบตัวจ้าวเทียน สั่นไหวอย่างรุนแรง จิตวิญญาณของกระบี่ที่อยู่ด้านในถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว
พวกมันไม่สามารถต้านทานได้ เพราะได้ยอมจำนนต่อจ้าวเทียนไปแล้ว
แกร่ก!ๆ
รอยร้าวมากมายได้เกิดขึ้น กระบี่พวกนั้นเริ่มสูญเสียประกายไปทีละน้อย จนสุดท้ายเมื่อจิตวิญาณกระบี่ถูกดึงออกไปจนหมด
เคร้ง!
กระบี่ระดับเทพทั้งยี่สิบเล่มหักลงพร้อมกัน และสูญเสียพลังทั้งหมด กลายเป็นเศษเหล็กกองอยู่บนพื้น
ครืนนน
จิตวิญญาณกระบี่ทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในร่างของจ้าวเทียน ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของจิตกระบี่ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมา
มองเห็นกระบี่แสงเล่มเล็กๆยี่สิบเล่ม จมหายเข้าไปในจิตกระบี่จนหมด
แวบบบ!
เจตจำนงกระบี่อันแข็งแกร่งระเบิดออกมา ด้วยพลังจากกระบี่ระดับเทพยี่สิบเล่ม ทำให้จิตกระบี่เริ่มวิวัฒนาการตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาเมล็ดพันธุ์เซียน
วูปป!
ภาพชายคนหนึ่งในชุดจักรพรรดิสีทอง กำลังใช้เคล็ดวิชากระบี่อันหลากหลายปรากฏขึ้นซ้ำๆในจิตกระบี่ ตอนนี้มันกำลังพยายามหลอมรวมเคล็ดวิชากระบี่ และประสบการณ์ทั้งสองชีวิตของจ้าวเทียนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
หากคังหลินยังอยู่ เวลานี้เขาคงตกใจจนแทบจะบ้าคลั่ง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับจ้าวเทียนคือขั้นตอนการบรรลุแก่นแท้แห่งกระบี่ ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นในเวลานี้
ทันใดนั้น
วิ้งงง!
กระบี่ราชันสวรรค์ที่ลอยสงบนิ่งมาตลอด ก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นทันที มันปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา เพื่อหยุดกระบวนการหลอมแก่แท้ของจิตกระบี่เอาไว้
ในตอนที่จ้าวเทียนหลอมสร้างกระบี่ราชันสวรรค์นั้น เศษเสี้ยวของมรรคคาจักรพรรดิในตอนที่เขายังเป็นมหาเทพตี้เทียน ได้ถูกหลอมรวมเข้าไปในกระบี่เล่มนี้ด้วย
นี่เป็นสาเหตุที่จิตวิญญาณกระบี่ได้ถูกปลุกขึ้น มันเป็นจิตวิญญาณดวงเดียวกับกระบี่ราชาชันสวรรค์ของมหาเทพตี้เทียน ที่ได้แฝงตัวมากับมรรคาจักรพรรดิและย้อนเวลามาพร้อมจ้าวเทียน
สามารถสรุปได้ว่า กระบี่เล่มนี้ของจ้าวเทียน ก็คือเล่มเดียวกับที่มหาเทพตี้เทียนเคยใช้ ถึงแม้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม และมันพร้อมจะเติบโตไปด้วยกันกับจ้าวเทียนอีกครั้ง
ส่วนสาเหตุที่กระบี่ราชันสวรรค์ หยุดกระบวนการหลอมรวมแก่นแท้ของจ้าวเทียนเอาไว้ นั่นก็เพราะมันดูออกว่า นี่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้านาย
ตอนนี้สติของจ้าวเทียน อยู่ในสภาวะเคลิบเคลิ้มจากการรู้แจ้ง ทำให้เขาเผลอสร้างจิตกระบี่เพื่อหลอมรวมแก่นแท้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งโอกาสสำเร็จมันแทบจะเต็มสิบส่วน เพราะเขาเคยผ่านขั้นตอนแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
แต่ถ้าเป็นแบบนั้น สุดท้ายจ้าวเทียนก็จะติดอยู่ที่แก่นแท้ขั้นเจ็ดเหมือนเดิม ไม่สามารถบรรลุขั้นแปดได้
เพราะหากพวกเขาไม่มา ภายในเมืองเหล็กดำแห่งนี้ ก็จะไม่มีที่ให้พวกเขาอยู่อีกต่อไป นี่คือข้อความจากตระกูลฉินถึงผู้มีอำนาจทุกคน
ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าขัดขืนตระกูลฉินในเวลานี้ ความพ่ายแพ้ของแม่ทัพรักษาเมืองกับผู้อาวุโสฉินซู่โหวยังคงติดตาพวกเขาอยู่ไม่มีวันลืม
“ ฉันต้องขอบคุณ…ที่พวกคุณมากันในวันนี้ ส่วนคนไหนที่ไม่มานั้น ตระกูลฉินของฉันได้เตรียมบทลงโทษเอาไว้แล้ว ” ฉินป๋ออวิ๋นพูดขึ้นเสียงดัง
สภาพของเขาในตอนนี้ ดูทรุดโทรมกว่าเมื่อวานมาก ร่างกายของเขาเหลือเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก อายุขัยของเขาใกล้จะหมดลงทุกที
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น สีหน้าของเขากลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดอันแข็งกร้าวกับแววตาเย็นชา ล้วนแล้วแต่แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึง สภาวะของแม่ทัพอันห้าวหาญเต็มไปด้วยบารมี
“ คารวะท่านอดีตผู้นำ…ไม่ทราบว่า ที่เชิญพวกเรามาวันนี้ มีสาเหตุมาจากเรื่องอะไร ” หนึ่งในตัวแทนสภาอาวุโสถามขึ้นเสียงดัง ทำให้คนที่เหลือตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เพราะนี่ก็เป็นสิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอด
“ พวกคุณคงรู้เรื่องอายุขัยของฉันแล้วใช่ไหม…ที่ฉันเรียกพวกคุณทุกคนออกมา ก็เพราะของสิ่งนี้ ” พูดจบฉินป๋ออวิ๋นก็โบกมือเบาๆ
ฉินเซียวเย่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็นำม้วนหนังแกะออกมา จากนั้นเธอก็กางมันออกบนโต๊ะตัวใหญ่ เพื่อให้ทุกคนได้เดินเข้ามาดู
!!
“ รายชื่อพวกนี้มัน… ”
“ ทำไม…มีชื่อของฉันอยู่ด้วย ”
ฝ่ายองค์หญิงที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้เห็นม้วนหนังแกะอันนั้น
‘ นี่มัน…ม้วนพันธสัญญาทาส ตระกูลฉินต้องการบีบให้คนพวกนี้เลือกข้างอย่างชัดเจน เมื่อไหร่ที่พวกเขายอมหยดเลือดลงไป แล้วกล่าวคำปฏิญาณ ก็จะไม่มีวันทรยศตระกูลฉินได้อีก ’
ม้วนหนังแกะอันนี้ สามารถใช้ได้กับคนที่ถือกำเนิดบนโลกหมิงหลงเท่านั้น มันจะผูกมัดไปตราบจนสิ้นอายุขัยหรือจนกว่าจะสามารถทำลายม้วนหนังแกะนี้ได้
“ พวกคุณคงรู้ความหมายของมันใช่ไหม…ไม่ต้องกลัว ตระกูลฉินจะปฏิบัติต่อพวกคุณด้วยดี ที่ฉันต้องทำแบบนี้ก็เพราะไม่ต้องการเห็นใครบางคนวางแผนทำเรื่องโง่เง่า ในตอนที่ฉันไม่อยู่แล้ว ”
สิ่งที่ฉินป๋ออวิ๋นพูดออกมานั้นชัดเจนมาก ทางเลือกของพวกเขามีแค่สองทางเท่านั้น จะเป็นศัตรูแล้วถูกทำลาย หรือจะเป็นมิตรแล้วได้รับผลประโยชน์
“ ฉันขอถามหน่อย…พันธสัญญาทาสนี่จำกัดเวลาเอาไว้ทั้งหมดกี่ปี ”
“ ฉันขอเวลาพวกคุณเพียงสามปี หลังจากนั้นม้วนหนังแกะนี้จะสลายหายไปเอง แล้วพวกคุณก็จะเป็นอิสระ” ฉินป๋ออวิ๋นพูดออกมาอย่างจริงจัง
เขาเชื่อว่าคังหลินจะต้องบรรลุขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสูงได้ในสามปีแน่นอน หลังจากนั้น ต่อให้คนพวกนี้คิดก่อกบฏ ก็ไม่ส่งผลคุกคามต่อตระกูลฉินอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...