ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ได้ไปกระทบบาดแผลภายในส่วนลึกของจิตใจจ้าวเทียนเข้าอย่างจัง
หากย้อนกลับไปในอดีต เป็นเพราะแม่ได้จากไปตั้งแต่เขายังเด็ก มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ
จนสุดท้าย เขากลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง เป็นผู้ชายที่อ่อนแอจนถูกคู่หมั้นของตัวเองดูถูกและเลือกที่จะทอดทิ้งไป
สาเหตุที่เขาเลือกผนึกความทรงจำของตัวเองไว้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่บนแดนสวรรค์ นอกจากความทุกข์ทรมานจากการถูกทรยศและถูกทำร้ายจนตายแล้ว เรื่องที่ถูกแม่ของตัวเองทอดทิ้งไปก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
‘ ทั้งท่านตาและลุงซุยต่างก็บอกว่า แม่เลือกที่จะจากครอบครัวไปเพราะความรักและไม่ต้องการให้ทุกคนเดือดร้อน ’
‘ แต่สิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้คืออะไร…เด็กสองคนนี้คือใคร’
แม้ว่าจ้าวเทียนจะมีความทรงจำนับแสนปีบนแดนสวรรค์ แต่เขาก็ไม่เคยลืมภาพใบหน้าของครอบครัวตัวเอง
โดยเฉพาะภาพความทรงจำในวัยเด็กที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสี่คนพ่อแม่ลูก มันเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับจ้าวเทียนมาก
ไม่อย่างนั้น ตอนที่อยู่บนแดนสวรรค์เขาคงตัดสินใจลบความทรงจำทั้งหมดทิ้งไปแล้ว
'ในชีวิตก่อน…ตอนที่พ่อตาย ฉันกับน้องสาวต้องทนทุกข์ทรมาน จากการถูกกลั่นแกล้งสารพัด สุดท้ายก็ตายไปพร้อมกับความสิ้นหวัง แต่แม่กลับอยู่ในสำนักคุนหลุนอย่างมีความสุข ทั้งยังให้กำเนิดเด็กสองคนนี้มาด้วย ’
‘ เมื่อนึกถึงตลอดแปดปีที่ผ่านมา…พ่อยังคงรักแม่เพียงคนเดียว ไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่นแม้แต่ครั้งเดียว หากตอนนี้วิญญาณของพ่อได้มาพบเห็นภาพตรงหน้านี้ ในใจของเขาจะรู้สึกอย่างไร ’
เมื่อคิดแบบนี้ แววตาของจ้าวเทียนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเขาได้เห็นแม่ของตัวเองแสดงความรักให้กับเด็กสองคนนั้นเท่าไหร่
จิตใจของเขาก็ยิ่งถูกเพลิงโทสะเข้าเผาผลาญ…
‘ ในเมื่อตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว…ฉันก็จะลงโทษคุณแทนพ่อเอง ในเมื่อคุณรักเด็กสองคนนั้นมาก จนลืมครอบครัวของพวกเรา ’
‘ ฉันก็จะสังหารพวกเขาต่อหน้าคุณ…คุณจะได้รู้ถึงความเจ็บปวดที่ฉันต้องเผชิญมาในอดีต ’
ทันใดนั้น
วูป!
จิตสังหารอันเกรี้ยวกราดดุดันของจ้าวเทียน ได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงจนไม่อาจควบคุมได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกตัวได้ทันที
ซึ่งเด็กทั้งสองคนได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่น พวกเขามีใบหน้าซีดขาวและหมดสติล้มลงในอ้อมกอดของแม่จ้าวเทียน
!!
นี่มัน…
พวกผู้อาวุโสสำนักคุนหลุนขอบเขตเซียนทั้งหมด รีบก้าวออกมายืนบังพวกเด็กๆไว้ทันที สายตาที่พวกเขามองจ้าวเทียนมีแต่ความไม่เป็นมิตร
“ ผู้อาวุโส…เกิดอะไรขึ้น ” เจียงลี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เธอเริ่มขยับตัวถอยห่างจากจ้าวเทียนช้าๆ เพราะสัมผัสได้ว่าจิตสังหารของจ้าวเทียนพุ่งเป้าไปที่นายน้อยทั้งสองคน
‘ หรือว่า…เขาจะเป็นมือสังหารของฝ่ายศัตรู ’
“ ฉัน… ”
เสียงเรียกของเจียงลี่ ได้ทำให้จ้าวเทียนได้สติขึ้นมา ทำให้จิตสังหารของเขาหายไป ตอนนี้แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
‘ เมื่อครู่นี้…ฉันกำลังจะสังหารพวกเขาอย่างนั้นเหรอ เด็กสองคนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไร ฉันเกิดความคิดแบบนี้ได้อย่างไร ’
จ้าวเทียนคิดขึ้นด้วยความสับสน จากนั้นเพียงครู่เดียว เขาก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกมาได้
‘ นี่มัน…จิตมารงั้นเหรอ ’
ตอนนี้จ้าวเทียนได้ค้นพบต้นเหตุของความเปลี่ยนแปลงของตัวเองแล้ว
เรื่องนี้ก็ได้ทำให้เขาตกใจมาก เพราะจิตวิญญาณของเขานั้นเคยบรรลุขั้นจักรพรรดิเทพมาก่อน ย่อมผ่านการทำลายจิตมารจนหมดสิ้นแล้ว
จนกระทั่ง จ้าวเทียนได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เขาจึงพบว่าจิตมารนี้ได้แฝงตัวอยู่ในความทรงจำที่เขาผนึกไว้ในอดีต
ซึ่งหลังจากที่จ้าวเทียนได้ความทรงจำนี้กลับมา มันก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณเขามาตลอด โดยที่เขาเองไม่ได้รู้สึกตัวแม้แต่น้อย
แวบ!
เพียงความคิดเดียว เจตจำนงแห่งกระบี่ของจ้าวเทียนก็ได้ทำลายจิตมารจนสิ้นซากไม่มีเหลือ
‘ โชคดีที่ค้นพบมันก่อน…ไม่อย่างนั้นหากเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญตอนที่ฉันกำลังจะทลายขอบเขต ผลสุดท้ายคงเลวร้ายมาก ’
ในขณะที่จ้าวเทียนแก้ปัญหาเรื่องจิตมารนั้น พวกสำนักคุนหลุนก็ได้ชักอาวุธออกมายืนล้อมเขาไว้หมดแล้ว
“ พวกคุณคิดจะทำอะไร…จะต้อสู้กับฉันงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยแววตาเฉียบคม
ต่อให้เรื่องเมื่อครู่จะเป็นเพราะจิตมาร แต่ความโกรธของเขานั้นเป็นของจริง และตอนนี้มันก็ยังไม่หายไปอีกด้วย หากอีกฝ่ายกล้าโจมตีเข้ามา
จ้าวเทียนเองก็จะตอบโต้แบบไม่ยั้งมือเช่นกัน…
“ หุบปากไปเลย…แกเป็นมือสังหารใช่ไหม การที่แกยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกนายน้อยก็เพื่อจุดประสงค์จะแฝงตัวเข้ามาสังหารรองเจ้าสำนัก ” ชายชราเครายาวพูดออกมาเสียงดัง เขาเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลเหยียน มีพลังอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นกลาง
ในบรรดาเซียนทั้งสิบสองคนของตระกูลเหยียน มีแปดคนเป็นเซียนขั้นต่ำและอีกสามคนเป็นเซียนขั้นกลาง ส่วนแม่ของจ้าวเทียนนั้นเป็นเซียนขั้นสูงเพียงคนเดียว
“ วงจรกระบี่! ”
เปรี้ยงงงๆๆๆ ตูมมมม
การโจมตีทุกอย่างเหมือนจมหายไปในม่านพลังไร้รูป ที่เกิดจากวิถีกระบี่ของจ้าวเทียน พวกมันไม่อาจฝ่าเข้ามาถึงตัวเขาได้แม้แต่น้อย
ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังแสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมา กระบี่ในมือของจ้าวเทียนก็เปล่งแสงสีขาวที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากผสานเจตน์แห่งกระบี่เข้าไป
จากนั้น…
“ เพลิงสุริยัน! ”
เปรี้ยง!
รังสีกระบี่อันเกรี้ยวกราด ที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงสีทอง เฉือนใส่ตำแหน่งที่อยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายจนพื้นดินแยกออกเป็นทางยาว
บูมมม!
แรงระเบิดของเปลวเพลิงอันร้อนแรง ทำให้เซียนขั้นต่ำได้รับบาดเจ็บจนกระเด็นถอยไป ส่วนเซียนขั้นกลางทั้งสามคนแม้จะฝืนต้านเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องเซถอยหลังไปสามก้าว อีกทั้งมีใบหน้าซีดขาวด้วยความหวาดกลัว
แค่พริบตาเดียวการต่อสู้ก็รู้ผลแล้ว…
หากกระบี่ของจ้าวเทียนไม่ได้ฟันใส่พื้นดิน แต่เปลี่ยนเป็นฟันใส่พวกเขาแทน คาดว่าคงต้องมีหลายคนถูกสังหารไปแล้ว
“ นี่มัน…เป็นไปได้ยังไง เขาเป็นแค่เซียนขั้นต่ำไม่ใช่เหรอ ”
“ ถ้าเขาต้องการสังหารพวกเราจริงๆ…คงไม่มีใครต่อต้านได้ ”
“ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว พวกเราจะไปสู้ได้ยังไง ”
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา แม้แต่ตัวชายชราที่เป็นคนออกคำสั่งให้โจมตีก็ยังก้มหน้าลงด้วยความหมดหนทาง เขาดูออกว่าฝ่ายตรงข้ามยังออมมือเอาไว้อยู่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงถูกสังหารไปแล้ว
‘ หรือว่าพวกเราจะเข้าใจผิด…อีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรูจริงๆ ’
บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยความเงียบ ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าจ้าวเทียนไม่ใช่ศัตรูแน่นอน ทั้งหมดเป็นเพราะความเข้าใจผิดของพวกเขาเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง
“ ตอนนี้…มีใครจะขวางทางฉันอีกไหม ” จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ ผู้อาวุโส…เรื่องนี้ ” เจียงลี่พยายามจะพูดบางอย่างออกมา แต่เมื่อเจอเข้ากับสายตาดุดันของจ้าวเทียน เธอก็ก้มหน้าลงด้วยความอับอาย
‘ นี่พวกเราทำอะไรลงไป…หากมียอดฝีมือระดับนี้ให้ความช่วยเหลือละก็ คงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องศัตรูอีกต่อไป’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...