การตายของเจ้าสำนักไท่ซาน ทำให้เจ้าสำนักอีกสามคนที่เหลือสัมผัสได้ถึงวาระสุดท้ายของตนเองที่กำลังใกล้เข้ามา พวกเขารู้ดีว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงถูกจ้าวเทียนไล่สังหารไปทีละคนอย่างแน่นอน
วูป!
จ้าวเทียนได้กลับขึ้นมาบนสมรภูมิท้องฟ้าอีกครั้ง กระบี่ราชันสวรรค์ในมือเขาชี้ตรงไปที่ศัตรูอย่างท้าทาย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียนขั้นสูงสุดหลายคน เขาคงไม่สามารถใช้อาวุธธรรมดาได้อีก มีแต่กระบี่คู่กายเล่มนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้ตัวเองปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมาได้
“ ถ้าพวกแกยังไม่ยอมเอาจริงอีก…ฉันก็ขอรับเอาชีวิตของพวกแกไปละนะ ”
จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขาดูออกว่าศัตรูแต่ละคนยังออมแรงเอาไว้ ไม่ยอมใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมา
ซึ่งนั่นก็ไม่แปลก ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าของสำนักทั้งสี่จะรวมตัวกันเป็นพันธมิตร แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็แอบแข่งขันกันเองอย่างลับๆ
หากไม่ถึงช่วงเวลาความเป็นความตายจริงๆ คงไม่มีใครเปิดเผยไพ่ตายของตัวเองออกมาให้คนอื่นเห็น
‘ การต่อสู้ครั้งนี้ อาจจะทำให้ฉันขัดเกลาเคล็ดวิชาของตัวเองให้สมบูรณ์ได้ ’
เปลวไฟแห่งการต่อสู้ลุกโชนอยู่ในดวงตาของจ้าวเทียน ยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเขาก็ยิ่งถูกขุดขึ้นมามากเท่านั้น
“ เคล็ดกระบี่บูรพาสังหาร! ”
วูป!
ในสายตาของจ้าวเทียน ท้องฟ้าสีครามได้ถูกแทนที่ด้วยทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่
กลุ่มดาวทั้งหมดในอาณาเขตทิศตะวันออกก็เปล่งประกายเจิดจ้า โดยที่จุดแสงซึ่งแทนตำแหน่งของดวงดาวแต่ละดวง
บูมมม!
เปลวไฟสีทองได้ระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียนอีกครั้ง มันกลืนกินท้องฟ้าทั้งหมดในรัศมีสิบกิโลเมตร
นี่เป็นเคล็ดวิชาประสาน ที่เขาเคยใช้จัดการกับเจ้าสำนักไท่ซานก่อนหน้านี้
“ โถ่เว้ย…อาณาเขตเปลวไฟบัดซบนี่ มันทำให้ฉันรวบรวมพลังได้ลำบาก ” เจ้าสำนักเฮ่งซานพูดขึ้นด้วยความโมโห
ตอนนี้ตัวเขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในเตาอบที่มีอุณหภูมิหลายร้อยองศา ทำให้ต้องแบ่งพลังส่วนหนึ่งมาปกคลุมตัวเองไว้ ไม่ให้อวัยวะภายในถูกเผาไหม้
“ อาณาเขตกระบี่หมื่นบุปผา!”
แวบบ!
รังสีกระบี่แปรเปลี่ยนเป็นกลีบดอกไม้ ระเบิดออกมาจากร่างของเจ้าสำนักหานซาน เธอได้ใช้เคล็ดวิชาของตัวเอง เพื่อต่อต้านอาณาเขตเปลวเพลิงของจ้าวเทียน
แต่ทว่า
ฟู่วววว!
เมื่ออยู่ต่อหน้าเปลวเพลิงสีทองของจ้าวเทียนแล้ว กลีบดอกไม้พวกนั้นก็ถูกเผาไหม้เป็นจุลในพริบตา ทำให้สีหน้าของเจ้าสำนักหานซานเปลี่ยนไปทันที
“ ระวัง! ”
เจ้าสำนักซงซานตะโกนออกมาเสียงดัง
!!
เปรี้ยงง!
รังสีกระบี่ที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟสีทองระเบิดออกมา ทำให้กระแสอากาศรอบๆสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
คลื่นพลังที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างเจ้าสำนักหานซานกับจ้าวเทียน ทำให้เกิดเป็นพายุเปลวไฟกระจายออกไปรอบด้าน
เมื่อครู่นี้หากไม่ได้ยินเสียงเตือน เจ้าสำนักหานซานคงพลาดท่าไปแล้ว
ด้วยเคล็ดวิชากระบี่บูรพาสังหาร ทำให้จ้าวเทียนเข้าประชิดตัวศัตรูได้ในพริบตา แทบจะไม่แตกต่างจากการผ่ามิติ
เปรี้ยง!ๆๆๆๆ
กระบี่ในมือพวกเขาทั้งสองคน ฟันเข้าใส่กันอย่างรวดเร็ว ด้วยเคล็ดวิชากระบี่หานซานที่เน้นความรวดเร็วเป็นหลัก ทำให้เธอสามารถต้านทานจ้าวเทียนเอาไว้ได้
“ บัดซบ…วิชานี้อีกแล้ว ” เจ้าสำนักเฮ่งซานพูดขึ้นด้วยความเดือดดาล
ร่างของอีกฝ่ายเหมือนกับภูตผี ไม่สามารคาดเดาการเคลื่อนไหวล่วงหน้าได้ ทั้งยังตามติดเจ้าสำนักหานซานเหมือนเงาตามตัว
นี่จึงเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่อาจลงมือช่วยเหลือได้ เพราะเกรงว่าจะไปทำร้ายพวกเดียวกันเอง
เปรี้ยง!
ร่างของเจ้าสำนักหานซานกระเด็นถอยไปด้านหลังเกือบร้อยเมตร แต่เธอก็ยังถูกจ้าวเทียนฟาดฟันกระบี่เข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จนเริ่มปรากฏบาดแผลขึ้นตามร่างกายของเธอ
‘ ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว…หากต้องมาตายแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาคงเสียเปล่า ’
คมกระบี่แสงได้แทงทะลุฝ่ามือของเจ้าสำนักหานซานไปอย่างไร้ปราณี ทำลายเคล็ดวิชาไม้ตายของเธออย่างสิ้นซาก
อ้ากกก!
เจ้าสำนักหานซานส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เจตจำนงกระบี่ของจ้าวเทียน ทำลายแขนซ้ายของเธอจนถึงไหล่ สภาวะห้วงเวลาหยุดนิ่งกำลังจะพังทลายลง
แต่ทันใดนั้น
“ เคล็ดกระบี่สามเซียนคร่าชีวิต! ”
ฉัวะ!!ๆๆ
รังสีกระบี่สังหารระเบิดออกมาสามครั้ง พร้อมกับแสงสว่างอันเจิดจ้า ทำให้สายตาพร่ามัว อานุภาพของคลื่นพลังทั้งสามรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
นี่เป็นการโจมตีสุดแรงที่หวังผลได้ในครั้งเดียว จ้อเซียงหยุนใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด แม้มันจะทำให้เขาอ่อนแอลงชั่วครู่ก็ไม่ใส่ใจ
ตอนนี้ในใจของเขาคิดเพียงสังหารศัตรู…ต่อให้ต้องสังหารพรรคพวกของตัวเองไปด้วยก็ตาม
และยังไม่จบแค่นั้น
“ กระบี่เซียนเมฆา! ”
รังสีกระบี่นับแสนถักทอกันเป็นกระบี่ขนาดยักษ์ที่สามารถปิดกั้นแผ่นฟ้า ฟาดฟันลงมายังจุดที่จ้าวเทียนกับเจ้าสำนักหานซานอยู่อย่างรุนแรง
นี่คือเคล็ดวิชาไม้ตายของเจ้าสำนักเฮ่งซาน เขาทุ่มพลังออกมาเกินสิบส่วนเพื่อหวังสังหารศัตรูให้ได้ในครั้งเดียว
“ นี่…พวกแก ”
อ้ากกก
เจ้าสำนักหานซานพูดออกมาได้เพียงเท่านี้ ร่างกายของเธอก็ถูกบดขยี้กลายเป็นหมอกเลือด เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้อยู่ ทำให้ไม่เหลือพลังพอจะต้านทานได้
จึงต้องจบชีวิตลงด้วยความเคียดแค้นที่ถูกสหายทรยศหักหลัง
“ บัดซบ…ไอ้พวกชั่ว ”
จ้าวเทียนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีที่ชั่วร้ายขนาดนี้ กระบี่ในมือของจ้าวเทียนรีบใช้ออกมาด้วยเคล็ดวิชาวงจรกระบี่
เปรี้ยงง! ตูมมม!
แต่ทว่า เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ม่านกระบี่ของเขาก็พังทลายลง ไม่สามารถต้านเคล็ดวิชาไม้ตายของเจ้าสำนักทั้งสองได้เลย
เมื่อเห็นว่าเคล็ดวิชาวงจรกระบี่ไม่สามารถต้านทาน จ้าวเทียนก็สัมผัสได้ถึงช่วงเวลาวิกฤตของตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าสู่โลกใบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...