เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลผู้เป็นตำนานอย่างเทพกระบี่ ภายในใจของเซียนขั้นสูงสุดและเซียนขั้นสูงทั้งสามสิบคนเริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมา
พวกเขาแตกต่างจากผู้นำสมาพันธ์ทั้งสามที่มีขั้นฝึกตนสูงส่ง ย่อมต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี ในอดีตเทพกระบี่เคยใช้ขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดเอาชนะเจ้าสำนักง้อไบ๊และช้วนจินก่ารุ่นก่อนได้
แล้วในตอนนี้ ที่เทพกระบี่บรรลุครึ่งก้าวเซียนนภาล่ะ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มสูงถึงขนาดไหน ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตตัวเองเป็นหนูทดลองให้คนอื่นหรอกนะ
“ หน่วยล่าสังหาร…ใช้ค่ายกลประสานตรึงเทพกระบี่เอาไว้ ส่วนผู้อาวุโสคุมกฎทั้งสิบคน ร่วมมือกับฉันสังหารจ้าวเทียน ” นักพรตฮวยเหล็งออกคำสั่งผ่านช่องทางพิเศษให้มีแต่ฝ่ายเขาที่ได้ยิน
!!
“ รับคำสั่ง! ”
แววตาของเซียนขั้นสูงสามสิบคนเปลี่ยนเป็นดุดัน พวกเขาไม่สามารถขัดคำสั่งได้ ไม่อย่างนั้นคงมีจุดจบเลวร้ายยิ่งกว่าตายแน่นอน
ทางฝ่ายจ้าวเทียนและเทพกระบี่ เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมจะลงมือแล้ว
“ สหายน้อย…ฉันได้ยินมาว่านายฝึกวิชาเก้ากระบี่เดียวดายสำเร็จแล้วใช่ไหม ช่วยแสดงมันให้ฉันดูหน่อยสิ ” เทพกระบี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เรียกกระบี่เหล็กดำออกมาถือไว้ในมือ
“ ไม่มีปัญหา…ฉันเองก็กำลังอยากได้รับคำชี้แนะจากคุณอยู่พอดี ” จ้าวเทียนตอบรับทันที เขาดูออกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดจะแยกพวกเขาออกจากกัน แล้วค่อยร่วมมือกันจัดการไปทีละคน
‘ ถ้าเดาไม่ผิด…เป้าหมายแรกคเป็นตัวฉันเอง แต่น่าเสียดายที่พวกแกคงไม่มีทางทำได้สำเร็จ ’
ทันใดนั้น
“ ลงมือ! ”
สิ้นเสียงอาณาเขตไท่จี๋ก็ได้ปกคลุมท้องฟ้า สัญลักษณ์หยินหยางขนาดใหญ่ซ้อนทับตรงจุดที่จ้าวเทียนอยู่
ด้วยการประสานของกฎหยินหยางต้นกำเนิดแห่งจักรวาล มันได้แบ่งแยกจ้าวเทียนและเทพกระบี่ออกจากกัน เหมือนอยู่คนละมิติ
แวบ!
หน่วยล่าสังหารทั้งยี่สิบคนที่คอยท่าอยู่แล้ว ได้สลายร่างกลายเป็นหมอกดำปิดล้อมเทพกระบี่ไว้ด้วยค่ายกลประสาน
ความรวดเร็วของพวกเขานั้น เหนือกว่าเซียนขั้นสูงสุดทั้งสิบคนมาก เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดตั้งแต่จำความได้
ก่อนที่ผู้อาวุโสคุมกฎซึ่งเป็นเซียนขั้นสูงสุดทั้งสิบคนจะได้ โจมตีเข้าใส่จ้าวเทียน หน่วยล่าสังหารก็ได้ประชิดตัวเทพกระบี่แล้ว
“ เงาทมิฬสังหาร! ”
หมอกดำได้เปลี่ยนเป็นเคียวมัจจุราช ฟาดฟันเข้าใส่ตำแหน่งที่เทพกระบี่อยู่ทั่วทิศทาง จนแทบจะไม่มีช่องว่างให้หลบหนี
ชั่วขณะนั้น เหมือนกับเวลาได้หยุดลง
ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆๆ
ร่างของเทพกระบี่ถูกฟันเข้าใส่อย่างถี่รัวจนสลายไป เพราะมันเป็นเพียงภาพติดตาเท่านั้น…
!!
ทั้งเทพกระบี่และจ้าวเทียนไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว พวกเขาเคลื่อนไหวก่อนศัตรูเสียอีก เสี้ยววินาทีที่นักพรตฮวยเหล็งตะโกนออกมา
ร่างของเทพกระบี่และจ้าวเทียน ก็ได้ไปปรากฏขึ้นตรงหน้าสามผู้นำแห่งสมาพันธ์บู๊ลิ้มแล้ว ทั้งคู่คิดตรงกันโดยไม่จำเป็นต้องนัดหมาย
จับโจรต้องจับหัวหน้า…หากแม่ทัพตาย พวกทหารก็พ่ายแพ้ไปเอง
“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดทำลายกระบี่! ”
“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดทำลายกระบี่! ”
ทั้งจ้าวเทียนและเทพกระบี่โจมตีออกไปพร้อมกัน ด้วยสำนึกกระบี่ของเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย และเจตน์แห่งกระบี่ ทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า
เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เงากระบี่ดุจอัสนีบาตรเกรี้ยวกราดดุดันนับร้อย ทะลวงไปยังสามผู้นำสมาพันธ์อย่างรุนแรง มันแยกการโจมตีเข้าใส่ทุกทิศทางในแง่มุมที่พิศดาร
ครืนนนน! เพล้งง!
อานุภาพของมัน ทำให้มิติฉีกขาดพังทลายเป็นทางยาว เกิดเป็นรอยแยกสีดำดูดกลืนทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ
“ บัดซบ! ช่วยกันป้องกันเร็ว ” นักพรตฮวยเหล็งตะโกนขึ้นอย่างร้อนใจ เหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งจะผ่านไปวินาทีเดียวเท่านั้น
ในตอนที่ภาพติดตาของเทพกระบี่และจ้าวเทียนสลายไป การโจมตีของทั้งสองคนก็มาถึงพวกเขาแล้ว
“ เคล็ดกระบี่ไท่เก๊ก! ”
“ เจ็ดดาวพิฆาต! ”
“ เคล็ดกระบี่อิงฟ้า! ”
ชั่วพริบตารังสีกระบี่สีทอง ได้แปรเปลี่ยนพญาหงส์เข้าสกัดเงากระบี่สังหาร นี่คือเคล็ดวิชากระบี่อิงฟ้าของเจ้าสำนักง้อไบ๊
แม้จะใช้ออกไปทีหลัง แต่กลับสำแดงอานุภาพออกมาก่อน…
แต่ทว่า
มันยังไม่เพียงพอ
เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆ บูมมมมม!
หลังจากพญาหงส์สลายไป สัญลักษณ์หยินหยางขนาดใหญ่และแผนภูมิเจ็ดดาวก็ปรากฏขึ้นทับซ้อนกัน จนสามารถต้านทานเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
แม้จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่แรก แต่ความแข็งแกร่งของสามผู้นำก็เป็นของจริง ตำแหน่งห้ายอดฝีมือแห่งยุค ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย
เขาอาศัยร่างของอีกฝ่ายเป็นโล่ เพื่อให้ศัตรูคนอื่นๆเกิดความลังเล จนไม่สามารถใช้การลอบโจมตีระยะไกลได้ ไม่อย่างนั้นนักพรตฮวยเหล็งอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย
‘ น่าสนใจ…งั้นฉันจะเล่นด้วยก็แล้วกัน ’
มุมปากของเทพกระบี่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย เขาเองก็พุ่งเข้าประชิดตัวของนักพรตฮวยเหล็งเช่นกัน แม้ว่าเจ้าสำนักง้อไบ๊และเจ้าสำนักช้วนจินก่าจะพยายามเข้าช่วยเหลือ
แต่พวกเขาก็ถูกจ้าวเทียนและเทพกระบี่เมินใส่อย่างไม่ใยดี ทั้งคู่รุกไล่นักพรตฮวยเหล็งจนถอนร่นไปไม่เป็นท่า
“ รีบช่วยฉัน ”
นักพรตฮวยเหล็งตะโกนออกมาอย่างร้อนรน จากนั้นก็กระตุ้นโลกภายในที่ไม่สมบูรณ์ของตนเอง ระเบิดพลังใช้ไม้ตายช่วยชีวิตออกมา
“ ไท่จี๋สองลักษณ์ วัฏจักรแปรเปลี่ยน! ”
สัญลักษณ์หยินหยางปรากฏขึ้นตรงจุดที่นักพรตฮวยเหล็งอยู่ ทั้งยังหมุนวนอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นแรงดึงดูดมหาศาล สลายการโจมตีของพวกจ้าวเทียน
แต่มันก็ถ่วงเวลาได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น แม้ว่าเคล็ดวิชากระบี่ไท่เก๊กของนักพรตฮวยเหล็งจะโดดเด่นในด้านการป้องกันขนาดไหน
แต่เมื่อเจอกับเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย ซึ่งเน้นไปที่การการโจมตีจุดอ่อนอย่างดุดันแล้ว ทำให้ตัวเขารู้สึกอับจนหนทางขึ้นมา
‘ บัดซบ…มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งนัก ไม่ว่าฉันจะใช้เคล็ดวิชาอะไรออกไป พวกมันกลับสามารถทำลายได้ในพริบตา ’
ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เพราะถูกพวกจ้าวเทียนกดดันจนมือไม้ปั่นป่วน
เห็นชัดๆว่าเจ้าสำนักอีกสองคนพยามเข้าช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ก็ถูกเทพกระบี่กับจ้าวเทียนสลับกันป้องกันไว้ได้ตลอด
ทำให้จิตใจของนักพรตฮวยเหล็งเริ่มสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังขึ้นมา
หากให้พูดกันตามตรง ความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนและเทพกระบี่เหนือกว่าสามเจ้าสำนักใหญ่แน่นอน เพื่อที่จะต้องรับมือกับจ้าวเทียนเพียงคนเดียว พวกเขาอาจจะต้องใช้คนถึงสองคนด้วยซ้ำ
ดังนั้น นักพรตฮวยเหล็ง ที่ต้องเผชิญหน้ากับจ้าวเทียนและเทพกระบี่เพียงลำพัง ผลลัพธ์คงเป็นที่คาดเดาได้
เปรี้ยงง!
กระบี่ไท่จี๋ของนักพรตฮวยเหล็งกระเด็นหลุดมือไป จากนั้นเลือดสีแดงสาดกระจายออกมา เกิดเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ลากยาวจากข้อมือไปถึงแขน
หลังการต่อสู้ผ่านไปได้สิบนาที…หนึ่งในผู้นำสมาพันธ์บู๊ลิ้มได้พ่ายแพ้แล้ว
แต่ในขณะ ที่จ้าวเทียนและเทพกระบี่กำลังจะจัดการปิดฉากอีกฝ่าย แสงธรรมสีทองก็สาดส่องลงมา
วูปป!
เขตอาคมปิดผนึกได้สลายไปทันที พลังงานสีทองลึกลับได้ตรึงทุกคนเอาไว้ ทำให้การต่อสู้ต้องหยุดลงชั่วขณะหนึ่ง
“ อามิตตาพุทธ ”
หลวงจีนชราคิ้วขาวและขอทานเฒ่าสกปรกมอมแมมได้ปรากฏตัวขึ้น ขวางหน้าจ้าวเทียนและเทพกระบี่เอาไว้
ณ ตอนนี้…ห้ายอดฝีมือแห่งยุคได้มารวมตัวกันครบทุกคนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...