จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 272

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้โทสะขององค์ชายใหญ่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง หัวใจของเขาเหมือนถูกเผาผลาญด้วยเปลวเพลิงแห่งความริษยา

การที่หญิงสาวที่เขาหมายปองมาตลอดเจ็ดปี โผเข้าสู่อ้อมกอดของชายอื่นก็เจ็บปวดพออยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ เพราะเขากับเธอเป็นพี่น้องต่างมารดาย่อมไม่สามารถครอบครองเธออย่างเปิดเผยได้

แต่กับจูม่านฉีนั้นแตกต่างกัน นอกจากเธอจะมีรูปโฉมที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องสาวของเขาแล้ว ศักดิ์ฐานะของเธอยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ

เธอเป็นถึงองค์หญิงอันดับหนึ่งของแคว้นต้าหมิง ที่ฮ่องเต้ต้าหมิงทรงโปรดปรานที่สุด หากได้ครอบครองเธอก็หมายถึงการได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาลจากแคว้นต้าหมิง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดิน

และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ฮ่องเต้ทั้งสองแคว้นได้ทำข้อตกลงกันเป็นการลับว่าจะเชื่อมสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานของราชวงศ์ ทำให้สถานะของจูม่านฉีในตอนนี้เหมือนเป็นคู่หมั้นขององค์ชายใหญ่ไปแล้ว

การที่ต้องทนดูคู่หมั้นของตนเองโผเข้าหาชายคนอื่น ทั้งยังเป็นคนเดียวกันกับคนที่ช่วงชิงหัวใจของน้องสาวเขาไปอีก

เรื่องแบบนี้ จะให้องค์ชายใหญ่ทนได้อย่างไร…

“ ม่านฉี…ถอยออกมาจากไอ้สวะนั่นซะ ” องค์ชายใหญ่กัดฟันพูดขึ้นด้วยแววตาดุดัน จิตสังหารของเขาระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

ฟุ่บ!

ห้าผู้คุ้มกันขององค์หญิงจูม่านฉีปรากฏตัวขึ้นขวางหน้าองค์ชายใหญ่ไว้ทันที หน้าที่ของพวกเขาคือการปกป้ององค์หญิง สำหรับเรื่องใครผิดใครถูกนั้นพวกเขาไม่สนใจ

“ องค์ชายใหญ่…คุณคิดจะทำอะไรงั้นเหรอ ” หัวหน้าผู้คุ้มกันพูดเสียงเย็นชา เขาเองก็เป็นปรมาจารย์ขั้นสูงเช่นกัน ต่อให้สู้ตัวต่อตัวกับอีกฝ่ายไม่ได้

แต่พวกเขามีกันถึงห้าคน อย่างไรก็ไม่แพ้แน่นอน

“ พวกขี้ข้าหลบไปซะ…เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกแก ” องค์ชายใหญ่ตวาดออกมาเสียงดัง สนามพลังปรมาจารย์ของเขาระเบิดออกมา

โฮกกก!

ร่างจำแลงมังกรอสูรสีดำ ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา แล้วขู่คำรามออกไปเสียงดัง

“ คุ้มกันองค์ชาย! ”

ทหารองครักษ์นับร้อยได้เคลื่อนไหวทันที พวกเขาเข้าล้อมทุกคนเอาไว้เป็นชั้นๆ อาวุธจำนวนนับไม่ถ้วนชี้ตรงไปที่พวกคังหลินอย่างประสงค์ร้าย

ขอเพียงเจ้านายของพวกเขาสั่งมาคำเดียว ก็พร้อมลงมือทันที

ตอนนี้ถึงแม้ว่าชายชุดเขียวและผู้บัญชาการองครักษ์จะพยายามห้ามปรามก็ไม่มีผลแม้แต่น้อย เพลิงโทสะขององค์ชายใหญ่ได้กลืนกินเหตุผลทุกอย่าง

“ องค์ชาย…คุณอย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวง ” คังหลินพูดขึ้นด้วยร้อยยิ้ม

พรึบ!

เพียงเขายกมือขึ้น กองกำลังเงาปีศาจนับร้อยที่แฝงตัวอยู่ ก็เข้าล้อมองครักษ์ของฝ่ายศัตรูทันที

การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย ทำให้บรรยากาศในสุสานบรรพชนทวีความตึงเครียดขึ้น นอกจากนี้ยังมีทหารยามส่วนหนึ่งรีบวิ่งออกไปรายงานเพื่อขอกำลังเสริมแล้ว

ซึ่งการกระทำของพวกเขาตกอยู่ในสายตาขององค์ชายใหญ่ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะหากเขาลงมือ จะถือเป็นการเปิดฉากสงครามทันที

“ ฉินหนาน ส่งตัวม่านฉีมาให้ฉันซะ แล้วฉันจะถือว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นนายคงรู้นะ ว่าการหันอาวุธเข้าหาองค์ชายอย่างฉันมีโทษสถานใด ”

“ หืม…ให้ฉันส่งเธอออกไปงั้นเหรอ ” คังหลินพูดออกมาอย่างเฉยชา เขาหันไปกระซิบบางอย่างที่ข้างหูจูม่านฉี ทำให้เธอหน้าแดงด้วยความเขินอาย แล้วมองค้อนมาที่เขา

จากนั้นโดยที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด

“ ฉินไป๋หลง ! น้ำหน้าอย่างนาย อย่าหวังจะคิดเด็ดดอกฟ้าอย่างฉันเลย แม้แต่สุนัขที่ฉันเลี้ยงไว้ยังดีว่านายเป็นร้อยเท่า ช่วยกลับไปส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ ” พูดจบเธอก็กลับไปซุกอกของคังหลินด้วยความเขินอาย

‘ ตาบ้าฉินหนาน…ฉันเป็นถึงองค์หญิงนะ ให้ไปพูดจาอะไรแบบนั้นได้ยังไง ถึงมันจะรู้สึกสะใจก็เถอะ ’

!!

“ บัดซบ! ไอ้ฉินหนาน แกต้องตาย ”

องค์ชายใหญ่ตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล ร่างจำแลงมังกรอสูรกางกรงเล็บทะยานออกไปทันที

“ คิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอ”

ครืนนน!

สนามพลังปรมาจารย์ของคังหลินระเบิดออกมาเช่นกัน เขาเปิดเผยพลังที่แท้จริงออกมา เงาร่างพยัคฆ์ขาวขนาดใหญ่กระโจนออกไป หมายจะฉีกกระชากมังกรอสูรออกเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน

บูมมมม!

เกิดแรงระเบิดขึ้นเสียงดัง คลื่นกระแทกที่เกิดจากการปะทะกันของสนามพลังปรมาจารย์ขั้นสูง ผลักให้ทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน โดยไม่มีผู้ใดด้อยกว่าแม้แต่น้อย

คำว่าทุกอย่างนั้น หมายถึงทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ครอบครองอยู่ รวมทั้งภรรยาหรือคู่หมั้นด้วย การที่องค์ชายใหญ่ทำเช่นนี้ สามารถคาดเดาจุดประสงค์ได้ง่ายดายมาก

หากเขาเป็นผู้ชนะ นอกจากจะได้ครอบครองฉินฟ่านเออร์อย่างถูกต้องแล้ว เมืองเหล็กดำแห่งนี้ก็จะตกเป็นของเขาด้วย เนื่องจากคังหลินเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าเมือง

“ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว…ฉินหนานไม่ต้องไปฟังองค์ชายใหญ่พูด สถานที่แห่งนี้คือเมืองเหล็กดำของพวกเรา ตราบใดที่พ่อยังอยู่จะไม่มีใครมาบีบบังคับลูกได้ ” ฉินกวงลี่พูดขึ้นด้วยความโกรธ

แม้เขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของลูกชาย แต่ช่องว่างของทั้งสองฝ่ายห่างไกลกันเกินไป

ลูกชายของเขาเพิ่งจะบรรลุขอบเขตปรมาจารย์ได้ไม่กี่วันเท่านั้น แต่องค์ชายใหญ่กลับได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งในเมืองหลวงมาหลายปีแล้ว

ตามกฎแล้ว การท้าสู้ตัดสินเป็นตาย จะต้องได้รับการยินยอมพร้อมใจจากทั้งสองฝ่ายถึงจะเกิดขึ้นได้ ขอเพียงคังหลินไม่เห็นด้วย ความพยายามขององค์ชายใหญ่ก็เสียเปล่า

ทันใดนั้นเอง

ครืนนนน!

สัมผัสวิญญาณอันแข็งแกร่งก็กวาดลงมา พร้อมกับความกดดันมหาศาลจากบนท้องฟ้า ทำให้ผู้ที่มีพลังอ่อนด้อยทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างอ่อนแรง

‘ พลังนี้…เซียนขั้นสูงสุดงั้นเหรอ ’

คังหลินร้องหวาดเสียวในใจ โชคดีที่เขาวางค่ายกลปิดกั้นป้องกันเหมืองวิญญาณเอาไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นความลับคงถูกเปิดเผยแน่นอน

จะเรียกว่าโชคดีก็ได้ ที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากเที่ยวชมสุสานบรรพชนเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ตรงด้านหน้าทางเขาสุสาน

หากเซียนคนนี้ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านในสุสานอย่างละเอียด ก็คงไม่อาจพบความผิดปกติใดๆได้

“ ดูเหมือน จะมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นนะ ” ชายชราคนหนึ่งเดินเหยียบอากาศลงมาจากบนฟ้า เขาสวมมงกุฎทองฝังเพชรและสวมชุดสีม่วงปักดิ้นทองดูหรูหรา ยิ่งกว่าชุดขององค์ชายใหญ่เสียอีก

“ คารวะ ผู้อาวุโสเซียว ”

“ คารวะ ท่านทูตตัวแทน ”

ฝ่ายขององค์ชายใหญ่รีบก้มหัวทำความเคารพทันที ศักดิ์ฐานะของอีกฝ่ายนั้นเทียบเท่าองค์ฮ่องเต้ แต่อำนาจที่อยู่ในมือกลับเหนือกว่าหลายเท่า

ฝ่ายคังหลินเมื่อเห็นแบบนั้น ก็พอคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายออก แต่ภายในใจของเขาก็อดรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาไม่ได้

‘ สภาพของเขา..ดูยังไงก็ไม่เหมือนผู้อาวุโสพรรคกระยาจกแม้แต่น้อย แม้แต่ฮ่องเต้เองก็คงไม่แต่งตัวอลังการแบบนี้หรอกมั้ง ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน