จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 271

ณ ตัวตึกด้านในสุดของจวนเจ้าเมืองเหล็กดำ สถานที่แห่งนี้ปกติจะเป็นที่รับรองผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่หรือราชวงศ์ชั้นสูงจากเมืองหลวง แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นที่พำนักของเหยียนซือหนิงและเด็กๆทั้งสองคน

หลังจากการประชุมครั้งสำคัญเมื่อคืน ทั้งตัวตนและสถานที่พำนักของครอบครัวจ้าวเทียนได้ถูกยกระดับเป็นความลับสุดยอด

แม้แต่ตัวตึกที่พวกเขาใช้อยู่อาศัย ยังกลายเป็นเขตหวงห้ามที่มีเวรยามดูแลอย่างรัดกุม หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าเมืองหรือผู้อาวุโสสูงสุด

คนนอกที่ลักลอบเข้ามา มีโทษสถานเดียวคือความตาย

หลังจากที่แยกตัวออกมา จ้าวเทียนก็รีบกลับมาหาแม่ของเขาทันที เพราะเมื่อตอนเช้ามืดวันนี้ เธอมีอาการผิดปกติบางอย่าง สาเหตุอาจเกิดจากความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมากเกินไป

การที่ต้องใช้พลังเต็มที่เพื่อหลบหนีออกจากวงล้อมของสมาพันธ์ พร้อมทั้งนำเด็กสองคนติดตามมาด้วย ทำให้ร่างกายของเหยียนซือหนิงรับภาระมากเกินไป

ต้องไม่ลืมว่า เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจะฝืนตัวเองเพื่อควบคุมค่ายกลเซียนสี่สัตว์เทพ หลังจากที่เพิ่งจะพักผ่อนได้เพียงสามถึงสี่ชั่วโมง ก็ต้องใช้พลังพาเด็กทั้งสองคนหลบหนีอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้ทำให้จิตวิญญาณของเธอเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก…

เมื่อจ้าวเทียนเดินเข้ามาในห้องพักด้านใน เขาก็มองเห็นเมิ่งเป่ากับเมิ่งฉีกำลังนั่งดูแม่ของเขาอยู่ข้างเตียงด้วยความเป็นห่วง

“ พี่ใหญ่…ตอนนี้ท่านแม่ตัวเย็นลงมากเลย ทำอย่างไรดี ” เหยียนเมิ่งเป่ารีบพูดขึ้นทันทีที่เห็นจ้าวเทียนมาถึง เขาสัมผัสได้ว่ามือของแม่นั้นเย็นลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก่อน

“ พี่ใหญ่…หนู หนูอยากช่วยท่านแม่ ” เหยียนเมิ่งฉีกุมมือของแม่เอาไว้แน่น เธอหันมาพูดกับจ้าวเทียนทั้งน้ำตา

“ เด็กโง่…แม่ไม่เป็นอะไรหรอก อาการแบบนี้มักเกิดขึ้นทุกสองสามเดือนอยู่แล้ว ผ่านไปไม่นานเดี๋ยวแม่ก็หาย ” เหยียนซือหนิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอใช้มือลูบหัวเด็กน้อยทั้งสองเบาๆด้วยความรัก

จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้น ก็ใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบร่างกายแม่ของเขาดู ผ่านไปไม่นานคิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย

“ พวกเธอถอยออกมาก่อน…หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เอง ”

เด็กทั้งสองคนเมื่อได้ยินแบบนั้น ก็รีบถอยออกมายืนด้านหลังทันที พวกเขาเชื่อมั่นในพลังของจ้าวเทียนว่าจะต้องช่วยเหลือท่านแม่ได้อย่างแน่นอน

“ แม่ครับ…อาการแบบนี้ เกิดจากผลกระทบของโอสถต้องห้ามใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขานั่งลงที่ข้างเตียง แล้วเริ่มถ่ายเทพลังชีวิตเข้าไปเพื่อให้แม่รู้สึกดีขึ้น

“ ใช่แล้วล่ะ…ปกติแม่จะเป็นแบบนี้ทุกสองสามเดือน เพียงแต่ครั้งนี้อาการมันกำเริบเร็วกว่าปกติ คงเป็นเพราะว่าแม่ใช้พลังมากเกินไป ” เหยียนซือหนิงบอกออกมาตามตรง ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เมื่อจ้าวเทียนถ่ายเทพลังชีวิตเข้ามาให้

“ เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ…ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าจะรอให้แม่แข็งแรงกว่านี้ก่อน แต่ดูเหมือนตอนนี้คงจะรอไม่ได้แล้ว ”

พูดจบจ้าวเทียนก็หยิบขวดหยกที่ใส่เลือดมังกรออกมา มีเพียงของสิ่งนี้เท่านั้นถึงจะช่วยแม่ของเขาได้

“ แม่ครับ…สิ่งที่อยู่ในขวดนี้คือเลือดแก่นแท้ของมังกร มันสามารถรักษาผลกระทบจากโอสถต้องห้ามได้ทั้งหมด แถมยังช่วยให้แม่บรรลุขอบเขตต่อไปได้ด้วย ”

“ เพียงแต่เมื่อใช้มันแล้ว…ร่างกายของแม่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่แม่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ผมจะคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆเอง ”

!!

“ เลือดมังกร!...ของล้ำค่าแบบนี้ลูกควรใช้มันกับตัวเองนะ ไม่ต้องห่วงแม่หรอก อีกไม่กี่วันแม่ก็หายดีแล้ว ” เหยียนซือหนิงรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรน เธอไม่อยากให้จ้าวเทียนต้องเสียของล้ำค่าแบบนี้เพื่อเธอ

จ้าวเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน เขาใช้พลังควบคุมเลือดมังกรออกมาหนึ่งหยด แล้วแบ่งครึ่งมันออกเป็นสองส่วน

จากนั้นก็ส่งเลือดมังกรครึ่งหยดนั้น ไปยังที่กลางหน้าผากของแม่ตัวเอง

วูป!

ยังไม่ทันที่เหยียนซือหนิงจะแสดงท่าทีต่อต้านออกมา เลือดมังกรก็ถูกดูดซึมเข้าไปจนหมด ถึงขั้นนี้แล้วเธอก็ทำได้เพียงต้องยอมรับความหวังดีของลูกชายเท่านั้น

ครืนนนน!

คลื่นพลังชีวิตอันมหาศาลของเทพมังกร ได้ระเบิดออกมาจากร่างของเหยียนซือหนิง แม้จะรู้สึกเจ็บปวดจนเหมือนจะขาดใจ แต่เธอก็ไม่ยอมกรีดร้องออกมา เพราะไม่อยากทำให้ลูกๆที่เฝ้าดูอยู่ต้องเป็นห่วง

แวบบ!

ฝ่ามือของจ้าวเทียนเปล่งแสงสีขาวออกมา เขาได้ใช้พลังของตนเองควบคุมผลกระทบของเลือดมังกรให้ต่ำที่สุด เพื่อไม่ให้แม่ของตัวเองต้องรับภาระหนักเกินไป

‘ ตอนนี้ร่างกายของแม่อ่อนแอมาก…ขนาดฉันใช้เลือดมังกรเพียงครึ่งเดียว เธอก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว ’

การใช้เลือดมังกรในขอบเขตเซียน อาจจะใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว เขาจึงตัดสินใจใช้เลือดมังกรหนึ่งหยดเพื่อรักษาและช่วยให้แม่ของเขาบรรลุขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดในครั้งเดียว

พรสวรรค์ของแม่เขานั้นด้อยกว่าเทพกระบี่และเปียนเจียวเมิ่งมากนัก หากเธอไม่ใช้โอสถต้องห้าม คงยากมากที่จะบรรลุขอบเขตเซียนขั้นสูงได้

จากที่จ้าวเทียนตรวจสอบดู ขีดจำกัดที่แม่ของเขารับเลือดมังกรได้มีเพียงหนึ่งหยดเท่านั้น หากมากกว่านี้จะมีแต่ผลเสียซะมากกว่า

‘ ด้วยความช่วยเหลือจากฉัน…คงใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง กว่าแม่จะหลอมรวมเลือดมังกรทั้งสองส่วนนี้สำเร็จ ’

ผ่านไปสามสิบนาที

เขาคว้าเอาฉินฟ่านเออร์มากอดไว้ในอ้อมอก ทั้งยังแนบใบหน้าไปคลอเคลียกับแก้มเนียนนุ่มของเธอ จนฉินฟ่านเออร์หน้าแดงด้วยความเขินอาย

“ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน…มันไม่เกี่ยวกับคุณ ”

!!

เมื่อเห็นท่าทีเต็มใจ ไร้การต่อต้านของฉินฟ่านเออร์แล้ว องค์ชายใหญ่ก็กัดฟันด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาอยากจะสังหารทั้งคู่ทิ้งเสียเดี๋ยวนี้

“ องค์ชาย… ” ชายชุดเขียวร้องเรียกออกมาเบาๆ เขาไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นก่อนที่ผู้อาวุโสเซียวจะมาถึง

เมื่อได้ยินเสียงนี้ กองเพลิงที่สุมอยู่ในหัวใจขององค์ชายใหญ่ก็เหมือนถูกดับลง เขาถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วปรับอารมณ์ของตัวเองจนเป็นปกติ

“ ฉันหวังว่า…พวกแกจะไม่นึกเสียใจทีหลังก็แล้วกัน ”

หลังจากนั้นการตรวจสอบสุสานบรรพชนก็ดำเนินต่อไป จะแตกต่างก็ตรงที่องค์ชายใหญ่เลิกสนใจพวกคังหลิน แล้วตามไปพัวพันกับองค์หญิงจูม่านฉีแทน

ซึ่งหากสังเกตจากสีหน้าของเธอนั้น ก็เหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดออกมาเต็มทีแล้ว เพราะนอกจากเธอจะต้องอดทนกับองค์ชายใหญ่ ยังต้องมาทนเห็นภาพชายที่เธอมีใจให้คลอเคลียกับหญิงอื่นอีก

“ ม่านฉี…หลังจากนี้เธอจะกลับเมืองหลวงพร้อมกับฉันหรือเปล่า เสด็จพ่อกำลังรอพบเธออยู่นะ ” องค์ชายใหญ่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ อย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก…พวกเราไม่ได้สนิทกันจนถึงขนาดเรียกชื่อกันได้ ” จูม่านฉีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถ้าไม่ติดที่ฐานะของอีกฝ่าย เธอคงอาละวาดไปแล้ว

“ งั้นเหรอ…แต่เธอก็รู้นี่ว่าทั้งพ่อของเธอและพ่อของฉัน กำลังคาดหวังถึงการแต่งงานของพวกเราอยู่นะ ” องค์ชายใหญ่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ยิ่งอีกฝ่ายต่อต้านเขาเท่าไหร่ พอถึงตอนที่ร่างกายอันเปลือยเปล่าของเธออยู่ใต้ร่างของเขา มันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์มากขึ้น

เมื่อจูม่านฉีเห็นสายตาอันน่าสะอิดสะเอียนของอีกฝ่าย ความอดทนของเธอก็มาถึงขีดจำกัดในที่สุด

“ พอที…เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ต่อให้ฉันต้องตายก็จะไม่แต่งงานกับคนแบบคุณ ผู้ชายคนเดียวที่ฉันจะรักมีเพียงฉินหนานเท่านั้น ”

พูดจบเธอเดินไปกอดแขนอีกข้างของคังหลิน แล้วซบไปที่แผ่นอกของเขาด้วยท่าทีสนิทสนม นอกจากนี้เธอยังส่งรอยยิ้มท้าทายไปยังฉินฟ่านเออร์ โดยไม่สนใจสายตาของทุกคนแม้แต่น้อย

นี่มัน…

คังหลินรู้สึกพูดไม่ออก ก่อนหน้านี่พวกเขาตกลงกันแล้ว ว่าจะจัดการเรื่องสำคัญหลายอย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดเผยความสัมพันธ์กับจูม่านฉีออกไป

ไม่นึกเลยว่า หญิงสาวคนนี้จะเกิดทนไม่ไหวขึ้นมาเสียก่อน…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน