สิ้นเสียงของจ้าวเทียน บรรยากาศโดยรอบก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เทพกระบี่ยังต้องหันมามองดัวยความตกใจ
เขาไม่คิดว่า จ้าวเทียนจะพูดตอกหน้าฝ่ายตรงข้ามออกไปแบบนั้น
“ ไม่มีค่าพอ…หมายถึงฉันงั้นเหรอ ” หยวนไป่เฉียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งนี่มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายขอจ้าวเทียนมาก
“ ใช่…คุณมันก็แค่กบในกะลาเท่านั้น ถือดียังไงมาสั่งให้ฉันเป็นลูกน้อง ” จ้าวเทียนยังคงพูดกระตุ้นไปอีกครั้ง เขาต้องการยั่วยุให้อีกฝ่ายลงมืออย่างขาดสติ เพื่อที่จะทำตามแผนการที่วางไว้
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หยวนไป่เฉียนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ ตลอดสี่ร้อยปีที่ผ่านมา…นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าฉันไม่มีค่าพอ มันช่างน่าสนใจจริงๆ ”
ทันใดนั้นเอง
“ ระวัง! ” เทพกระบี่ร้องเตือนเสียงดัง แล้วฟันกระบี่ออกไปในพริบตา
ฉัวะ! ครืนนน
ร่างของหยวนไป่เฉียนถูกรังสีกระบี่จนสลายไปในอากาศ แต่ตัวจริงของเขากลับปรากฏที่ด้านหลังจ้าวเทียนอย่างไร้ร่องรอย
“ มังกรผยองได้สำนึก! ”
ตูมม!
เงาฝ่ามือขนาดยักษ์ฟาดเข้าใส่กลางหลังของจ้าวเทียนอย่างรุนแรง มันแฝงไปด้วยคลื่นกระแทกสามสิบเจ็ดชั้น อานุภาพเหนือกว่าที่ประมุขอั้งฮวงหลงเคยใช้มากนัก เพียงพอที่จะสังหารยอดฝีมือขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาได้อย่างง่ายดาย
แต่ทว่า
ฉัวะ! เปรี้ยงงงง!ๆๆๆๆๆๆ
คมกระบี่ราชันสวรรค์ของจ้าวเทียนได้แทงสวนกลับมาอย่างพิสดาร เจาะทะลวงฝ่ามือยักษ์และคลื่นกระแทกสามสิบเจ็ดชั้นจนสลายไปในพริบตา
นี่คือวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดทำลายฝ่ามือ!
ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆๆๆ ตูมมม!
รังสีกระบี่หลายสิบสาย ที่ระเบิดออกมาในพริบตาของจ้าวเทียน ปะทะเข้ากับม่านพลังสีขาวของเคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นอย่างรุนแรง
จากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด หยวนไป่เฉียนได้ใช้เคล็ดวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรออกไปทุกกระบวนท่าอย่างดุดัน
ถึงแม้เขาจะบรรลุยอดวิชาของห้าสำนักใหญ่จนถึงขั้นสูงสุด แต่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง และเหมาะกับนิสัยของเขาที่สุด
ก็คือยอดวิชาโจมตีอย่างสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และสุดยอดการป้องกันอย่างเคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น เพียงแค่อาศัยสองวิชานี้ เขาก็มั่นใจว่าสามารถพิชิตศึกโดยไร้ผู้ต่อต้าน
ทันใดนั้น
บูมม!
เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของจ้าวเทียนปะทุออกมาอย่างรุนแรง สัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้นกลางหน้าผาก อีกทั้งมีเปลวไฟสีทองลุกโชนอยู่ในดวงตา
“ เคล็ดวิชาหมื่นตะวัน สุริยันเฉิดฉาย! ”
บูมมมม!
คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดออกมาโดยมีจ้าวเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นดวงอาทิตย์ เผาไหม้สรรพสิ่งรอบด้านเป็นจุล
นี่คือเคล็ดวิชาโจมตีท่าแรกของวิชาหมื่นตะวัน ที่จะใช้ได้ต่อเมื่อหลอมรวมแก่นแท้ดวงตะวันเข้ากับโลกภายในแล้วเท่านั้น
ถึงแม้โลกภายในของจ้าวเทียนจะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เพียงพอจะปล่อยอานุภาพบางส่วนของเคล็ดวิชาออกมาได้
เนื่องจากเคล็ดวิชานี้อยู่ในระดับเทวะขั้นสูงสุด จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ฝึกตนระดับต่ำเท่าไหร่ ทำให้ก่อนหน้านี้ จ้าวเทียนจึงใช้ประโยชน์จากมันได้เพียงแค่การเพิ่มพลังฝึกตนเท่านั้น แตกต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
ครืนนนน!
เปลวเพลิงสีทองได้กลืนกินอาณาเขตกว้างใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร จนแทบจะถึงขีดจำกัดสุดเขตแดนของโลกมิติปิดกั้น
ด้วยโลกภายในที่เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ขนาดย่อม พลังเปลวเพลิงของจ้าวเทียนในเวลานี้เหนือกว่าเมื่อก่อนเป็นร้อยเท่า จนแม้แต่พลังนิพพานของหยวนไป่เฉียนก็ยังสลายการโจมตีแทบไม่ทัน
‘ ช่างเป็นพลังที่รุนแรงจริงๆ หากไม่ได้อยู่ในมิติปิดกั้น แคว้นต้าฉินกว่าครึ่งคงถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านแน่นอน ’
เทพกระบี่พูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ตัวเขาที่อยู่ห่างออกไป ยังต้องใช้พลังเกือบแปดส่วนจึงจะต้านทานไว้ได้
ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้เป็นค่ายกลป้องกันระดับสูงสุดของห้าสำนักใหญ่ ก็คงถูกทำลายลงในพริบตา การโจมตีเป็นวงกว้างแบบนี้ ทุกคนทำได้เพียงป้องกันตนเองเท่านั้น
“ นี่มันไม่ใช่เคล็ดวิชาของโลกระดับต่ำ…แกเป็นใครกันแน่ ” หยวนไป่เฉียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แม้เปลวเพลิงของจ้าวเทียนจะทำอะไรตัวเขาไม่ได้ แต่หากใช้วิชานี้ตอนเปิดศึกสงครามกับศัตรูจากแดนสวรรค์ ผลมันก็แตกต่างแล้ว
ดังนั้น ถ้าไม่ถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายจริงๆ ก็ไม่ยอมใช้ออกไปเด็ดขาด
‘ วิชานี้อีกแล้ว…มหาเทพจูเซียนนี่ชอบสร้างปัญหาให้ฉันจริงๆ ทำไมถึงปล่อยให้ของแบบนี้ไปอยู่กับศัตรูได้ ’
จ้าวเทียนคิดขึ้นอย่างอ่อนใจ ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีแก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย แต่พลังนิพพานก็ได้ช่วยชดเชยปัญหาข้อนี้ไปได้อย่างลงตัว
ตอนนี้ก็เท่ากับว่า อีกฝ่ายได้ยืนอยู่ในจุดที่ไม่พ่ายแพ้แล้ว ที่เหลือก็ต้องวัดกันที่ใครจะอดทนไปได้นานกว่ากัน
‘ สงสัย คงเหลือแต่แผนการที่คิดไว้ในตอนแรกเท่านั้นสินะ ตอนนี้อีกฝ่ายก็เริ่มชะล่าใจแล้ว โอกาสสำเร็จคงเพิ่มสูงขึ้นมาก ’
“ ไม่มีประโยชน์ แกทำลายวิชากายาอมตะและพลังนิพพานของฉันไม่ได้หรอก ” หยวนไป่เฉียนพูดขึ้นอย่างถือดี เขาสั่งสมพลังในขอบเขตแดนเทพมาถึงหนึ่งร้อยปีแล้ว
ย่อมต้องมีพลังเหลือมากกว่าฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ถ้ายื้อเวลาออกไปยังไงก็ชนะ
“ มันจะเป็นแบบนั้นแน่เหรอ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตาเฉียบคม ร่างของเขาเคลื่อนที่พริบตาไปประชิดตัวศัตรูอีกครั้ง แล้วโจมตีออกไปอย่างดุดันและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
เปรี้ยงงงงๆๆๆ ฉัวะ!ๆๆๆ
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างรุนแรงและดุเดือด ไม่เปิดโอกาสให้ใครแทรกแซงได้
ทางหยวนไป่เฉียนเองก็เริ่มลดการป้องกันลง และเน้นไปที่การโจมตีมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องการสิ้นเปลืองพลังมากเกินไป เพราะฝ่ายตรงข้ามยังมีเทพกระบี่อยู่อีกคน
‘ จังหวะนี้แหละ! ’
ทันใดนั้น
ในขณะที่จ้าวเทียน ใช้มือขวาฟันกระบี่ออกไปอย่างถี่รัวด้วยสำนึกแห่งวิชาเก้ากระบี่เดียวดาย มือซ้ายของเขาก็พุ่งดรรชนีกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉัวะ!
จานผนึกโลหิตแปดทิศ สมบัติเวทระดับศักดิ์สิทธิ์ถูกกระแทกออกไปไกล หลุดจากการควบคุมของหยวนไป่เฉียนทันที
หมับ!
เทพกระบี่รีบคว้าสมบัติเวทระดับศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ในพริบตา เหมือนกับว่าได้รอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว
“ อืมมม…นี่มันของดีจริงๆนะเนี่ย ฉันขอรับเอาไว้เลยก็แล้วกัน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...