หลังจากหุ่นเชิดจิตวิญญาณทั้งสองตนนำทางมาถึงภายในตำหนักฉินหลง ก็ได้ถอนตัวออกไปยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกทันที ตามคำสั่งของเหรินฟางเซียน เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้มีผู้ใดมารบกวนตอนใช้สมาธิกับการรักษา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อเดินเข้ามาจนถึงห้องด้านในสุด สายตาของเหรินฟางเซียนก็กวาดมองไปร่างของชายหญิงที่นอนสิ้นสติอยู่บนเตียงขนาดใหญ่
วูป!
ที่บนตัวของทั้งคู่มีม่านพลังสีขาวโปร่งใสปกคลุมอยู่ เหมือนกำลังฟื้นฟูบาดแผลและรักษาอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
“ เหตุใดข้าถึงรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองคนนอนอยู่เคียงข้างกัน ” เหรินฟางเซียนใช้มือสัมผัสไปที่อกข้างซ้ายของตนเองเบาๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
‘ ดูเหมือนสองคนนี้…จะมีความสำคัญกับกงเสี่ยวเหมยมากจริงๆ ถึงแม้ความทรงจำจะสูญสลายไปหมดแล้ว แต่เงาร่างของพวกเขายังฝังลึกอยู่ในดวงวิญญาณของเธอ ’
“ เคล็ดวิชาหฤทัยหยก! ”
แวบ!
ทั่วร่างของเหรินฟางเซียนได้เปล่งแสงสีเขียวอ่อนออกมา อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดถูกขจัดหายไป ใบหน้าของเธอสงบนิ่งปรากฏรัศมีสูงส่ง ดุจเทพธิดาบนสวรรค์ที่ตัดขาดเรื่องราวทางโลกทั้งมวล
นี่คือเคล็ดวิชาบำเพ็ญเพียรที่เน้นฝึกทางจิตใจเป็นหลัก มีผลช่วยสยบจิตมารและลบความคิดฟุ้งซ่านออกไป
‘ เริ่มจากเธอก่อน ก็แล้วกัน ’
เหรินฟางเซียนได้สัมผัสฝ่ามือของเธอ ไปที่กลางหน้าผากของลี่เหยาเหยาเบาๆ ส่งผ่านเจตจำนงแห่งกระบี่เข้าไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากร่างกายของอีกฝ่าย กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอมาก
วูป!
ร่างแห่งเจตจำนงเหรินฟางเซียน ได้ปรากฏกายขึ้นภายในจิตวิญญาณของลี่เหยาเหยา ซึ่งสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือ ดวงแสงสีทองและสีขาวขนาดใหญ่ ที่กำลังถูกมังกรร้ายกัดกินทำลายอย่างต่อเนื่อง
“ นี่หรือว่าจะเป็น…เมล็ดพันธุ์เซียนคู่งั้นเหรอ ทั้งยังเป็นของวิถีเซียนและวิถีเทพโบราณอีกด้วย ” เหรินฟางเซียนรู้สึกตกใจมาก เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะพบเจอของแบบนี้ ในร่างของหญิงสาวธรรมดาบนโลกมนุษย์
ทันใดนั้น
แวบ!
ตรงหน้าเหรินฟางเซียนได้ปรากฏ ร่างอันพร่าเลือนของหญิงสาวในชุดจีนโบราณขึ้น ถึงแม้ใบหน้าอันงดงามของเธอจะดูอิดโรยและเหนื่อยล้า แต่แววตายังคงเปล่งประกายเจิดจ้าไม่ยอมสยบให้ผู้ใด
“ เจ้าเป็นใคร! ทำไมถึงปลอมตัวเป็นกงเสี่ยวเหมย” เทพธิดาซวนเฉวียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เธอใช้พลังของตนเอง ต้านทานเจตจำนงของหยวนเทียนหลงมาเกือบสองวันแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าอาศัยเพียงพลังศักดิ์สิทธิ์ของโซเฟียเพียงอย่างเดียว ลี่เหยาเหยาคงทนมาไม่ได้ถึงขนาดนี้
“ ข้าคือเหรินฟางเซียน ท่านคงเป็นดวงจิตของเทพโบราณที่อยู่ในร่างของลี่เหยาเหยาสินะ ไม่ต้องกังวล ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือท่าน ” เหรินฟางเซียนพูดตอบกลับไปอย่างใจเย็น
เทพธิดาซวนเฉวียน เดิมทีก็มีขั้นพลังต่ำกว่าตัวตนที่แท้จริงของเหรินฟางเซียนอยู่แล้ว จึงไม่ได้สร้างความกดดันให้เธอมากนัก
“ เหรินฟางเซียนงั้นเหรอ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ก็เอาเถอะ สถานการณ์ตอนนี้คงไม่มีเวลาให้มามัวลังเลอีกต่อไป ” เทพธิดาซวนเฉวียนรู้ดี ว่าตัวเองก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว จึงยอมรับความช่วยเหลืออย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมเปิดทางให้ เหรินฟางเซียนจึงพุ่งตรงเข้าไปหามังกรร้ายอย่างรวดเร็ว ทั่วร่างของเธอปลดปล่อยออร่าอันแหลมคมดุจกระบี่ออกมา
โฮกกก!
มังกรตัวนั้นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกว่าตนเองถูกท้าทาย ปากของมันอ้าออกกว้างพ่นเปลวไฟสีแดงฉานออกมาอย่างรุนแรง
ฉัวะ! ครืนนน!
ดรรชนีกระบี่ของเหรินฟางเซียนได้ทะลวงผ่านเปลวไฟนั้น เหมือนไร้ซึ่งตัวตน นี่คือความพิเศษของของผู้บรรลุแก่นแท้แห่งกระบี่ ซึ่งสามารถทำลายเจตจำนงของศัตรูได้โดยตรง
เปรี้ยง!ๆๆๆๆ
เหรินฟางเซียนได้เข้าต่อสู้กับมังกรร้ายอย่างดุเดือด ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นเจตจำนงของขุนพลเทพขั้นกลาง แต่ด้วยแก่นแท้แห่งกระบี่และจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของเธอ ทำให้กุมความได้เปรียบอย่างรวดเร็ว
‘ อีกทั้งยังมีกระบี่เล่มนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงอาวุธระดับเทพ แต่ความกดดันที่มันปลดปล่อยออกมา กลับมีมหามรรคาแห่งขอบเขตจักรพรรดิเทพแฝงมาด้วย ’
แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจที่สุด…
เพราะเมื่อลองสังเกตดูดีๆ ทุกครั้งที่ดวงอาทิตย์กระพริบแสงเหมือนกับการเต้นของหัวใจ จะสามารถมองเห็นเงาร่างคนขนาดใหญ่ยักษ์ นอนหลับใหลอยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
“ ร่างทิพย์งั้นรึ…แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร มีเพียงเทพโลกาเท่านั้นถึงจะสร้างทิพย์ขนาดใหญ่โตเช่นนี้ได้ ” ตอนนี้เหรินฟางเซียนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ว่าเธอหลงเข้ามาสู่จิตวิญญาณของใครกันแน่
ส่วนมังกรร้ายที่เป็นเป้าหมายของเธอนั้น ตอนนี้มันนอนขดตัวอยู่ตรงมุมหนึ่งของดวงอาทิตย์และกำลังกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน
ดูเหมือนต่อให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเธอ ก็คงกินเวลาอีกไม่เกินหนึ่งวันมันก็จะสลายไปเอง
ทันใดนั้น
ร่างที่กำลังหลับใหลอยู่ตรงใจกลางดวงอาทิตย์ ก็เริ่มขยับตัวช้าๆ เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
แวบ!
ภาพใบหน้าขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นตรงหน้าเหรินฟางเซียน และจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายเจิดจ้า เหมือนไม่มีความลับใดสามารถซ่อนเร้นจากสายตาคู่นี้ได้
วิ้งงง!
กระบี่ราชันสวรรค์เหมือนได้รับคำสั่งจากเจ้านาย ทำให้มันสลายตัวกลายเป็นละอองแสงหายเข้าไปในดวงอาทิตย์ ปลดปล่อยเหรินฟางเซียนให้เป็นอิสระ
“ ท่านคงเป็นจ้าวเทียน ที่ข้ารุกล้ำเข้ามาในจิตวิญญาณของท่าน ก็เพราะต้องการช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาร้ายแม้แต่น้อย ” เหรินฟางเซียนพยายามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด
ซึ่งหลังจากที่เหรินฟางเซียนพูดจบ ใบหน้าขนาดยักษ์ของจ้าวเทียนก็ยังจ้องมองเธออยู่เงียบๆครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ เสี่ยวเหมย…นี่เป็นความต้องการของเธอจริงๆงั้นเหรอ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...