เวลาประมาณสี่ทุ่ม ขณะที่จ้าวเทียนกำลังนั่งทำสมาธิอยู่ภายในห้องของตนเอง เงาร่างของชายคนหนึ่งก็ลอบเร้นเข้ามาอย่างเงียบเชียบ โดยที่เวรยามด้านนอกไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวตนแม้แต่น้อย
“ คุณจะไม่ไปพบกับเธอหน่อยเหรอ ” จ้าวเทียนพูดออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“ ตอนนี้นางได้รับความทรงจำของกงเสี่ยวเหมยกลับคืนมาแล้ว หากข้าปรากฏตัวออกไปตอนนี้ จะทำให้ลำบากใจกันทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ ”
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องของข้าหรอก ตั้งใจฝึกฝนเคล็ดกายาอมตะไปเถอะ เสร็จเมื่อไหร่พวกเราค่อยมาสนทนากัน ”
แท้จริงแล้ว ผู้ที่ลอบเข้ามาในห้องของจ้าวเทียนก็คือหุ่นเชิดจิตวิญญาณ ที่ถูกเจตจำนงของมหาเทพจูเซียนควบคุมอยู่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาหาจ้าวเทียน เขาก็ได้ไปเฝ้ามองดูลูกสาวตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เพียงแค่ไม่ปรากฏตัวออกไปเท่านั้น
ส่วนเหตุผล ก็เพราะมหาเทพจูเซียนได้ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยกับเธอไปนั่นเอง
‘ นี่มัน…ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ถึงกับบรรลุขั้นที่หนึ่งของเคล็ดวิชากายาอมตะได้เลยงั้นเหรอ ’
มหาเทพจูเซียนคิดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก นอกจากตัวเขาที่เป็นผู้คิดค้นเคล็ดวิชาแล้ว แม้แต่ศิษย์หลักในนิกายที่มีพรสวรรค์สูงที่สุด ยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์จึงจะบรรลุขั้นแรกได้
เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน นิกายจูเซียนเป็นถึงผู้ปกครองแดนสวรรค์ ทำให้ศิษย์หลักแต่ละคนต้องผ่านการคัดเลือกมาอย่างเข้มงวด
จนเรียกได้ว่า…พวกเขาคือยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดในยุคสมัย
แต่เมื่อนำมาเทียบกับจ้าวเทียนแล้ว ยอดอัจฉริยะเหล่านั้น กลับไม่มีค่าควรให้พูดถึงแม้แต่น้อย ความสามารถของจ้าวเทียนกับพวกเขาอยู่คนละระดับกันอย่างสิ้นเชิง
‘ ดูเหมือน ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชา แท้จริงแล้วน่าจะเป็นจ้าวเทียนไม่ใช่ข้า ’
ในโลกจิตวิญญาณหลังจากที่พวกเขาบรรลุข้อตกลงร่วมกัน มหาเทพจูเซียนก็ฉวยโอกาสเสนอให้แลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาซึ่งกันและกัน เพื่อใช้ต่อกรกับเต๋าสวรรค์
เคล็ดวิชากายาอมตะกับเคล็ดวิชาสามหมัดราชันจักรพรรดิ หนึ่งคือสุดยอดเคล็ดวิชาป้องกัน และอีกหนึ่งคือสุดยอดเคล็ดวิชาโจมตี ทั้งยังถูกคิดค้นโดยตัวตนระดับมหาเทพเช่นเดียวกันอีก
นี่ถือเป็นข้อเสนอ ที่มีความยุติธรรมเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า จ้าวเทียนเองก็รีบตอบรับในทันที เพราะเขาเองก็ต้องการฝึกฝนวิชากายาอมตะอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แต่ด้วยศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่ จึงไม่กล้าเอ่ยปากออกไปตรงๆ
‘ ถึงแม้ข้าจะมีมหามรรคาจักรพรรดิ แต่ถ้าจะให้บรรลุเคล็ดวิชาสามหมัดราชันจักรพรรดิอย่างสมบูรณ์ คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบปี ’
‘ ในทางกลับกัน จ้าวเทียนที่ไม่มีแก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย ถึงกับฝึกฝนเคล็ดวิชากายาอมตะได้รวดเร็ว ยิ่งกว่าผู้สืบทอดที่ข้าคัดสรรมาเองกับมือเสียอีก ’
มหาเทพจูเซียนยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ เพราะเหมือนตัวเขาได้พ่ายแพ้ให้กับจ้าวเทียนในด้านพรสวรรค์การฝึกตนไม่มีผิด
ถือเป็นโชคดี ที่มหาเทพจูเซียนไม่ต้องจมอยู่กับความรู้สึกนี้นานนัก ผ่านไปครึ่งชั่วโมงจ้าวเทียนก็ลืมตาตื่นขึ้น
ครืนนนน!
คลื่นพลังอันแข็งแกร่งได้ระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียนอย่างรุนแรง จนไปกระแทกใส่ค่ายกลป้องกันที่เขาได้เตรียมไว้
วูป!
ที่ด้านหลังจ้าวเทียน ภาพลวงตาของจอมราชันจักรพรรดิได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันก็ได้แตกต่างจากที่พวกเจ้าตำหนักเทวะเคยใช้เป็นอย่างมาก
เพราะร่างจำแลงที่ปรากฏขึ้นก็คือ…มหาเทพตี้เทียน
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย จ้าวเทียนก็รีบเก็บแหวนวงนั้นเข้าไปในที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่น
“ คุณเตรียมตัว จะทำพิธีคืนชีพแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่…หลังจากที่เจ้ากวาดล้างตำหนักเทวะสำเร็จ ข้าจะปิดผนึกพระราชวังจักรพรรดิทันที ตอนนี้ข้าได้ย้ายสิ่งจำเป็นทุกอย่าง พร้อมกับร่างของบุตรสาวไปไว้ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ”
“ ส่วนเรื่องศิษย์ทุกคนของสำนักสุสานโบราณนั้น ก็ให้พวกนางเข้าร่วมกับขุมกำลังของเจ้าไปเลยก็แล้วกัน เพราะข้าจะปิดผนึกทุกเส้นทาง ที่จะเชื่อมต่อไปถึงพระราชวังของข้าได้ นั่นก็รวมไปถึงโลกในมิติเร้นลับที่พวกนางอาศัยอยู่ด้วย ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น จ้าวเทียนก็พยักหน้ารับเบาๆ เขารู้ดีว่า เมื่อพิธีคืนชีพเริ่มต้นขึ้น เต๋าสวรรค์จะรับรู้ถึงตัวตนของมหาเทพจูเซียนทันที
ดังนั้นมหาเทพจูเซียนจึงต้องตัดการเชื่อมต่อทุกอย่าง ที่จะกลายเป็นเบาะแสมาถึงสถานที่อยู่อาศัยของตนได้
“ เมื่อพิธีคืนชีพสำเร็จ วันนี้ในอีกสี่ปีข้างหน้า ข้าจะออกไปพบเจ้าที่สุสานแห่งดวงดาว ตรงชายขอบจักรวาล ”
“ ถึงตอนนั้น ก็พาอาจารย์ของเจ้ามาพร้อมกันด้วย เพราะข้ารู้สึกว่า ความสามารถด้านมิติเวลาของนาง อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเราปกป้องโลกเอาไว้ได้ ”
พูดจบมหาเทพจูเซียนก็จากไปทันที ปล่อยให้จ้าวเทียนยืนครุ่นคิดถึงคำพูดที่เขาทิ้งไว้เพียงลำพัง
“ สี่ปีงั้นเหรอ…ฉันคงมัวรอช้าอยู่ไม่ได้แล้วสินะ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...