จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 369

ณ แดนสวรรค์วงแหวนรอบนอกแห่งทิศบูรพา

สถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของสำนักจตุเทวะ สำนักระดับกลางชั้นสูงที่ปกครองสำนักระดับต่ำอีกเจ็ดสำนัก พวกเขาเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆภายในพื้นที่ของตน สามารถเรียกระดมพลกองทัพผู้ฝึกตนนับล้าน เพื่อทำสงครามได้อย่างอิสระ

ซึ่งเวลานี้บรรยากาศภายในห้องโถงของสำนักจตุเทวะ ก็กำลังลุกเป็นไฟด้วยโทสะของเจ้าสำนักซือคงหยวนและเหล่าผู้อาวุโสระดับสูง ที่ต้องการแก้แค้นให้ศิษย์รักของตนที่ถูกสังหารไปในภารกิจลับบนโลกหมิงหลง

อัจฉริยะรุ่นเยาว์หนึ่งร้อยคน ที่พวกเขาฟูมฟักอย่างดีมาเป็นเวลาเกือบห้าร้อยปี ต้องมาถูกศัตรูสังหารจนหมดสิ้น เรื่องนี้ไม่มีทางจบลงง่ายๆแน่นอน

“ เรียนท่านเจ้าสำนัก ฉันได้ไปตรวจสอบมาแล้ว บุคคลที่ชื่อว่าคังหลินมีตัวตนอยู่จริงๆ และก็เป็นหนึ่งในศิษย์สืบทอดของสำนักดาราสวรรค์ตามที่คนผู้นั้นกล่าวอ้าง แต่เรื่องที่จะเป็นตัวจริงหรือเปล่านั้นยังไม่ทราบแน่ชัด”

“ เพราะตามข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ สำนักดาราสวรรค์ได้เก็บตัวมาเป็นเวลานานมากแล้ว แม้แต่ศึกชิงตำแหน่งมหาเทพในสองยุคที่ผ่านมาพวกเขาก็ไม่เข้าร่วม ทำให้ศิษย์ในสำนักนี้ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในโลกภายนอกมากนัก ” ผู้อาวุโสคุมกฎรายงานข้อมูลออกมาให้ทุกคนที่อยู่ในห้องได้ฟัง

ทางซือคงหยวนเมื่อได้ยินแบบนั้น ก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ปัญหาเรื่องตัวตนของอีกฝ่ายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ทำให้เขาต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวัง

วิ้งงง!

ดวงตาของซือคงหยวนเปล่งประกายเจิดจ้า เขาได้ใช้เคล็ดวิชาเนตรเทวะเพื่อตรวจสอบเส้นใยกรรมของตราประทับที่อยู่บนตัวศัตรู

‘ ผู้ที่สังหารลูกศิษย์ของฉันยังอยู่บนโลกใบเล็กไม่ผิดแน่ หรือนี่จะเป็นแค่เรื่องโกหกที่อีกฝ่ายแต่งขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอดเฉยๆกันนะ เพราะมีโอกาสน้อยมาก ที่หนึ่งในเจ็ดสำนักชั้นยอด จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวบนโลกระดับต่ำแบบนี้ ’

ซือคงหยวนคิดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลาย ขอเพียงฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เทพโลกาขั้นหกตามที่กล่าวอ้าง เขาย่อมมีวิธีการมากมายที่จะทรมานศัตรูจนตาย

แต่ทันใดนั้นเอง

วูป!

ตำแหน่งของตราประทับที่อยู่บนโลกใบเล็กก็เลือนหายไป มันได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งซือคงหยวนเองก็รู้จักเป็นอย่างดี

‘ สุสานแห่งดวงดาวทิศบูรพา สนามรบแห่งทวยเทพยุคโบราณ นี่คือสารท้ารบถึงฉันสินะ ’

ตอนนี้เขาเชื่อไปเกินแปดส่วนแล้ว ว่าอีกฝ่ายคงเป็นศิษย์สืบทอดของสำนักดาราสวรรค์ตัวจริง เพราะการจะเคลื่อนย้ายตราประทับของเขาไปให้คนอื่นได้มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้น

ซึ่งก็คือทั้งสองฝ่ายจะต้องเป็นผู้ที่มีดวงวิญญาณเดียวกัน เช่นร่างทิพย์ หรือร่างแยกของเทพโลกา จึงจะสามารถส่งผ่านตราประทับไปหาร่างต้นของตัวเองได้

“ ท่านเจ้าสำนัก เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ ” ผู้อาวุโสคุมกฎถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะสังเกตได้ว่าเจ้าสำนักมีสีหน้าหมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

“ ตอนนี้ตราประทับของฉันย้ายตำแหน่งไปที่ สุสานแห่งดวงดาวทิศบูรพาแล้ว ดูเหมือนศัตรูของพวกเราจะเป็นศิษย์สืบทอดของสำนักดาราสวรรค์จริงๆ ทั้งยังเจตนายั่วยุพวกเราอย่างเปิดเผยอีกด้วย ”

!!

“ แบบนี้ก็แย่น่ะสิ นี่พวกเราจะต้องต่อสู้กับสำนักชั้นยอดจริงๆงั้นเหรอ ”

“ หรือว่าสำนักดาราสวรรค์จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับนิกายจูเซียนเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และต้องการแย่งชิงผลประโยชน์กับพวกเรา ”

“ อีกฝ่ายเป็นถึงสำนักชั้นยอดเลยนะ พวกเราคงต่อสู้ด้วยไม่ไหวหรอก ”

ความคิดเห็นของผู้อาวุโสระดับกลางและระดับต่ำโน้มเอียงไปในทิศทางเดียวกัน คือไม่ต้องการเปิดศึกกับสำนักดาราสวรรค์ ด้วยเรื่องการตายของศิษย์แค่หนึ่งร้อยคน

พวกเขาเห็นตรงกันว่า สมควรจะแก้ปัญหาโดยวิธีการเจรจาอย่างสันติมากกว่า จะได้ไม่ต้องทำให้ศิษย์อีกนับล้านที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย

ปัง!

“ ส่วนสำนักดาราสวรรค์ในปัจจุบัน ก็เป็นเพียงทายาทรุ่นหลังของศิษย์และผู้อาวุโสระดับกลางที่มีหน้าที่ปกป้องสำนักในอดีต ซึ่งเมื่อขาดทั้งเคล็ดวิชาสืบทอดประจำสำนักและสมบัติล้ำค่า จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ”

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าของทุกคนก็เริ่มผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ที่ได้รู้ว่าศัตรูเองก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ก่อนจะมีผู้อาวุโสคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ อาจารย์ของผู้อาวุโสจางได้รู้เรื่องราวพวกนี้มาจากไหนหรือ เพราะฉันเองก็ศึกษาประวัติศาสตร์ของแดนสวรรค์มาอย่างละเอียด แต่ก็ค้นพบเพียงรายชื่อและประวัติของมหาเทพในแต่ละยุคเท่านั้น ไม่เคยได้ยินเรื่องของสำนักดาราสวรรค์มาก่อน ”

ผู้อาวุโสจางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้น

“ หึหึ ประวัติศาสตร์ถูกเขียนโดยผู้ชนะเท่านั้น พวกเขาก็ต้องบันทึกเอาไว้แต่สิ่งดีๆอยู่แล้ว ใครจะกล้าประกาศออกไปล่ะ ว่าตนเองใช้วิธีการต่ำช้าในการเอาชนะคนอื่น ”

“ ส่วนที่ว่าท่านอาจารย์ของฉันรู้เรื่องราวเหล่านี้มาได้ยังไง เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก เพราะท่านเคยเป็นอดีตผู้สืบทอดของสำนักดาราสวรรค์ยังไงล่ะ แต่เพราะพ่ายแพ้ในศึกชิงตำแหน่งเมื่อหกหมื่นปีก่อน จึงถอนตัวออกจากสำนักแล้วมาเข้าร่วมกับพวกเรา ”

แท้จริงแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้อาวุโสจางไม่ได้บอกออกไป เพราะไม่ต้องการทำให้อาจารย์ของตนเสื่อมเสียชื่อเสียง

นั่นก็คือ คู่ต่อสู้ที่มอบความพ่ายแพ้ให้แก่อาจารย์ของผู้อาวุโสจางในครั้งนั้น เป็นเพียงศิษย์สายในที่เพิ่งเข้าสำนักมาได้ไม่นาน ทั้งยังเป็นหญิงสาวที่มีอายุน้อยกว่าเขาเกือบสิบเท่า

ชื่อของเธอก็คือ…หลินซินเยว่ เจ้าสำนักดาราสวรรค์คนปัจจุบัน

ในตอนนี้ เมื่อความลับทุกอย่างของสำนักดาราสวรรค์ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ซือคงหยวนจึงไม่ลังเลอีกต่อไป

“ ฉันตัดสินใจแล้ว จงประกาศออกไปให้เทพโลกาทั้งหมดในสำนักของพวกเรา ตามฉันออกไปที่สุสานแห่งดวงดาวทิศบูรพา ”

“ พวกเรามาดูกัน ว่าสำนักดาราสวรรค์ยังสมควรที่จะได้ชื่อว่าเป็นสำนักชั้นยอดอยู่ไหม ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน