จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 380

ต้วนมู่เฉียนมองประตูเซียนที่แตกสลายไปด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก ตลอดเวลาการฝึกฝนอันยาวนาน

นับตั้งแต่ที่ถูกรับเข้าสำนักอาจารย์ และกลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากสงคราม จากคนธรรมดาที่มีฐานะยากจนได้ผ่านเรื่องราวมกมาย จนกระทั่งสามารถยกระดับตนเองมาถึงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ

ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อเวลานี้ใช่หรือไม่…

ในที่สุด หนทางสู่แดนสวรรค์และอนาคตอันโชติช่วง ก็อยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว ทำให้มือที่จับดาบเอาไว้กำแน่นขึ้นทันที

“ เสี่ยวชิง…พวกเราใกล้จะได้อยู่ร่วมกันแล้วนะ ”

ต้วนมู่เฉียนพูดกับตัวเองเบาๆ ร่างของเขาลอยสูงขึ้นไปหลอมรวมกับจุดแสงสีทองจำนวนมากที่เกิดจากการแตกสลายของประตูเซียน

นี่คือขั้นตอนสำคัญที่เขาจะละทิ้งร่างกายของมนุษย์…แล้วเปลี่ยนเป็นกายทิพย์ของเทพแท้จริง ที่สามารถท่องไปได้ทั้งสามภพ

บนเกาะด้านล่าง

สมาชิกหน่วยรบพิเศษทั้งหมดโห่ร้องด้วยความดีใจ เมื่อมีเซียนนภาในตำนานคอยปกป้องใครมันจะกล้าท้าทายประเทศจีนอีก พวกเขาจะต้องยิ่งใหญ่ไปอีกหลายพันปี

“ เฮๆๆ…ท่านผู้อาวุโสทำได้แล้ว ”

“ ประเทศของเรามีเทพแท้จริงคอยปกป้องแล้ว ”

“ ฮ่า ฮา…เซียนนภาคนแรกในรอบ 2,000 ปี คืออดีตผู้นำของเรา ”

ในขณะที่คนอื่นๆกำลังดีใจ แต่เทพมังกรอ๋าวเฟิงกลับมีสีหน้าที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เขาปรากฏกายขึ้นด้านข้างพวกลี่เหยาเหยาแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ เตรียมตัวเอาไว้ ช่วงเวลาสำคัญมาถึงแล้ว ”

แวบ! ครืนนน!

ปิรามิดสีดำถูกควบคุมให้ลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ มันแตกตัวออกเป็นแผ่นโลหะจำนวนมาก เข้าไปปกคลุมร่างกายของต้วนมู่เฉียนเพื่อป้องปกเขาเอาไว้ภายใน เหมือนเป็นเกราะชั้นนอกนอกที่จะต้านทานการโจมตีจากศัตรู

ลี่เหยาเหยาและคนอื่นๆก็กระจายออกไป เฝ้าระวังความปลอดภัยทุกทิศทาง เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าศัตรูจะมาจากทางไหน

หลังจากที่เทพมังกรอ๋าวเฟิงเสริมความแข็งแกร่งให้เขตแดนวารีศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เขาก็ทิ้งคำพูดเอาไว้ ก่อนจะหายตัวไปทันที

“ ฉันคงช่วยเหลือได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกเธอแล้ว ”

เหตุผลที่เทพมังกรอ๋าวเฟิงต้องรีบจากไป ก็เพราะไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเต๋าสวรรค์ก่อนเวลาอันควร เพื่อไม่ให้เป็นการผิดข้อตกลงของเทพมังกรทั้งเก้าที่ได้บัญญัติเอาไว้ ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวความขัดแย้งของโลกมนุษย์

ในเวลาเดียวกัน สมรภูมิเหนือท้องทะเล

คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำทะเลเดือดพล่านจนกลายเป็นไอร้อน สิ่งมีชีวิตจำนวนมากได้รับผลกระทบถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน

จ้าวเทียนมือขวาถือกระบี่ราชันสวรรค์ มือซ้ายสวมถุงมือเกล็ดมังกร เข้ารุกไล่ต่อสู้ระยะประชิดกับธันเดอร์อย่างดุเดือด ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามใช้พลังสายฟ้าที่เชี่ยวชาญได้

ด้วยอาณาเขตของเคล็ดวิชาบูรพาสังหาร ทำให้การโจมตีของจ้าวเทียนตามติดฝ่ายตรงข้ามเหมือนเงาตามตัว อีกทั้งยังสามารถเพ็งเล็งไปยังช่องโหว่ของศัตรูทุกครั้ง ครองความได้เปรียบทางด้านกระบวนท่าและจังหวะลงมืออย่างสิ้นเชิง

เสียเพียงอย่างเดียว ที่อีกฝ่ายมีชุดเกราะและอาวุธที่เหนือกว่า ทำให้เมื่อเกิดการปะทะกันตรงๆจะเป็นจ้าวเทียนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า

ฉัวะ!ๆๆๆ ตูม!ๆๆๆ

บาดแผลน้อยใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนตัวจ้าวเทียนอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ถูกเคล็ดวิชากายาอมตะรักษาได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้การปะทะกันตรงๆกับค้อนโยเนียร์จะทำให้เขาเสียเปรียบ

แต่มันก็เป็นทางเดียว ที่จะสามารถใช้เจตน์แห่งกระบี่ทะลวงผ่านการป้องกันของชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงของอีกฝ่ายได้

ขอเพียงแลกการโจมตีกันแบบนี้เรื่อยๆ อย่างไรซะผู้ที่จะเหลือรอดเป็นคนสุดท้ายก็ต้องเป็นจ้าวเทียนแน่นอน เพราะเขามีทั้งเคล็ดวิชากายาอมตะและแก่นแท้ดวงตะวัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดพลังอันมหาศาลอยู่ในตัว

‘ เมื่อประตูเซียนถูกทำลาย ศัตรูที่แท้จริงคงใกล้จะมาถึงแล้ว ฉันจะมามัวเสียเวลาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เห็นทีคงต้องลองเสี่ยงดูล่ะ ’

บูมมม!

สัญลักษณ์พระอาทิตย์สีทองบนหน้าผากจ้าวเทียนลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง ระเบิดพลังทั้งหมดของโลกออกมาในพริบตา

“ แก่นแท้แห่งกระบี่! ”

“ สามหมัดราชันจักรพรรดิ! ”

ภาพลวงตาของกระบี่ขนาดยักษ์ฟันเข้าใส่จากทางด้านหน้า ส่วนด้านบนก็มีหมัดขนาดยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟทลายท้องฟ้าลงมา

การโจมตีทั้งสองทิศทาง เกือบจะถึงตัวธันเดอร์ในวินาทีเดียวกัน ทำให้เขาตัดสินใจพุ่งตัวไปด้านหน้าแล้วฟาดค้อนโยเนียร์เข้าใส่กระบี่ของจ้าวเทียนเต็มแรง เป็นการใช้รุกแทนรับ เพื่อบีบให้ฝ่ายตรงข้ามถอยออกไป

ตูมมมม!

ถึงแม้แก่นแท้กระบี่ของจ้าวเทียนถูกทำลายไปในพริบตา อีกทั้งมือข้างที่จับกระบี่ก็สะบัดไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้ แต่เขากลับไม่ยอมถอยหลังแม้เพียงก้าวเดียว เพื่อตรึงศัตรูไว้ไม่ให้หลบหนี

“ คิดจะแลกชีวิต…ก็ลองดู ”

ธันเดอร์ตัดสินใจอย่างบ้าบิ่น ใช้แผ่นหลังของตนที่สวมชุดเกราะรับการโจมตีจากเงาหมัดที่ตกลงมาจากบนฟ้า เพื่อฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันป้องกัน ปล่อยกระบวนท่าปลิดชีพออกไป

เมื่อเสียงตะโกนด้วยความคลุ้มคลั่งดังขึ้น ร่างกายของธันเดอร์ก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีทองพุ่งทะลวงการโจมตีทั้งหมดของจ้าวเทียน ตรงไปยังทิศทางที่ต้วนมู่เฉียนกำลังสร้างกายทิพย์อยู่

ในเมื่อทำอะไรจ้าวเทียนไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป้าหมายซะก็สิ้นเรื่อง เพราะการสังหารต้วนมู่เฉียนก็ทำให้เขาบรรลุจุดประสงค์ได้เช่นเดียวกัน

“ แย่แล้ว! ” จ้าวเทียนรีบยกเลิกเคล็ดวิชาทันที เพื่อข้ามมิติกลับมาสู่โลกแห่งความจริง แต่ก็น่าเสียดายที่เขาช้าไปก้าวหนึ่ง

“ ต้วนมู่เฉียน ไปลงนรกซะ! ”

ค้อนโยเนียร์พุ่งออกไปจากมือธันเดอร์ ด้วยความเร็วที่เทียบเท่าแสง จนมองเห็นเป็นเกลียวสายฟ้าสีทองเจาะทะลวงเข้าใส่ปิรามิดสีดำจนแตกกระจาย

ตูมมมมมม!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เขตแดนวารีศักดิ์สิทธ์ของอ๋าวเฟิงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง พวกลี่เหยาเหยาที่อยู่ใกล้เคียงถูกคลื่นพลังทำลายล้างผลักกระเด็นไปไกล

ทันใดนั้น

“ แกต่างหาก ที่ต้องไปลงนรก! ”

ร่างของต้วนมู่เฉียนในสภาพสมบูรณ์พร้อม พุ่งฝ่าแรงระเบิดออกมา คมดาบสีดำของเขาปะทะเข้าใส่ค้อนโยเนียร์อย่างรุนแรง จนมันถูกเบี่ยงวิถีออกไปด้านข้าง

หลังจากนั้น

ฉัวะ!

สายฟ้าสีทองซึ่งเป็นร่างจำแลงของธันเดอร์ ถูกฟันขาดออกเป็นสองส่วน จนต้องกลับคืนมาเป็นร่างมนุษย์ดังเดิมในสภาพปางตาย

“ แก…พลังนี้หรือว่า ”

“ ใช่…ต้องขอบคุณความกดดันที่แกมอบให้ ทำให้ฉันสามารถบรรลุขอบเขตเซียนนภาได้ทันเวลาพอดี ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา หากไม่ใช่เพราะถูกบีบเข้าช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายในเสี้ยววินาที เขาคงไม่อาจสร้างกายทิพย์ได้รวดเร็วขนาดนี้

“ ในที่สุดก็ทันสินะ ” จ้าวเทียนที่กำลังจะฝ่ามิติตามมา ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขานึกว่าจะต้องสูญเสียต้วนมู่เฉียนไปเสียแล้ว

หืม!

ทันใดนั้น จ้าวเทียนก็มองเห็นภาพดวงตาขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าด้านหลังของต้วนมู่เฉียน พร้อมกับภาพลวงตาของคมหอกสีทองขนาดยักษ์ อันน่าสะพรึงกลัวได้กลั่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เต๋าแห่งสวรรค์ ศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาจุติลงสู่โลกมนุษย์แล้ว….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน