บนโลกมนุษย์ หลังจากที่เส้นทางสู่แดนสวรรค์ถูกทำลายไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน การที่เผ่าพันธุ์ปีศาจจะยกระดับตนเองจนข้ามผ่านขอบเขตเซียนไปได้นั้น ยากเย็นแสนเข็ญเป็นอย่างมาก จนแทบจะกลายเป็นทางตันก็ว่าได้
เพราะพวกเขาไม่อาจสร้างเมล็ดพันธุ์เซียนได้เหมือนมนุษย์ จึงจำเป็นต้องอาศัยการบำเพ็ญตบะดูดซับกลิ่นอายฟ้าดิน หรือไม่ก็ดูดกลืนพลังหยางจากสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งก็แน่นอนว่าวิธีที่สองนั้นรวดเร็วกว่าวิธีแรกเป็นอย่างมาก
จึงเป็นเหตุผลที่เกิดตำนานปีศาจร้ายออกมาสร้างความหายนะให้ผู้คนมากมาย ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน ดังเช่นเรื่องของจิ้งจอกเก้าหางที่ทำให้ราชวงศ์ชางล่มสลาย จนทำให้ผู้ฝึกตนระดับสูงมากมายต้องออกมาขจัดมารผดุงความเป็นธรรม
แต่ทว่าในบรรดาปีศาจในตำนานก็มีผู้ที่ เลือกหนทางบำเพ็ญแบบแรกและไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนเช่นเดียวกัน นั่นก็คือนางพญางูขาวและนางพญางูเขียว
พวกเธอได้ดูดซับกลิ่นอายฟ้าดินมาถึงหนึ่งพันปี จนสามารถจำแลงกายเป็นมนุษย์ได้ และได้เข้าสู่ทางโลกเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของปุถุชน ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะสามารถละกิเลส ทำให้บรรลุถึงขอบเขตต่อไปได้
น่าเสียดาย ที่พวกเธอทั้งคู่ต่างต้องล้มเหลวเหมือนกันไม่มีผิด ด่านของความรักหาใช่สิ่งที่จะสามารถข้ามผ่านได้โดยง่าย
หากลองได้รักไปแล้ว…ต้องให้รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นภูเขาดาบหรือทะเลเพลิง ก็ยังยินยอมจะกระโดดลงไปอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจก็ไม่มีข้อยกเว้น
ถ้าต้องให้เสี่ยวชิงทนมองดูต้วนมู่เฉียนตกตายไปต่อหน้าต่อตา เธอไม่มีทางยินยอมเด็ดขาด เพราะฉะนั้นต่อให้ต้องแลกด้วยทุกสิ่งที่มี เธอก็จะต้องช่วยชีวิตเขาเอาไว้ให้ได้
ซึ่งก็แน่นอนว่า ไป๋ซู่เจินต้องช่วยเหลือน้องสาวของเธออย่างเต็มความสามารถ แม้ว่านั่นจะเป็นหนทางที่ไม่มีวันหวนกลับ
แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้น้องสาวของเธอ ต้องเผชิญชะตากรรมพลัดพรากจากคนรักเช่นเดียวกับตนเอง
ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เพื่อบรรลุเป็นมังกร แล้วผูกพันธสัญญาแห่งชีวิตและความตายกับต้วนมู่เฉียน นี่คือเส้นทางที่เสี่ยวชิงเลือก
เพราะมังกรนั้นเป็นสัตว์เทพที่มีอายุวัฒนะ สามารถมีชีวิตอยู่ตราบเท่าฟ้าดินสลาย หากใช้วิธีนี้ต่อให้ต้วนมู่เฉียนจะล้มเหลวในการทลายนภา แต่เขาก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ในฐานะผู้ทำพันธสัญญากับมังกร และทั้งคู่ก็จะไม่แยกจากกันอีกตลอดกาล
น่าเสียดายที่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้ายยิ่งนัก โอกาสที่ปีศาจงูจะยกระดับขึ้นเป็นมังกรมันน้อยซะยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
อย่าเวลาแต่เสี่ยวชิงต้องทำให้สำเร็จภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเลย ต่อให้เธอมีเวลาอีกเป็นร้อยปี ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ด้วยซ้ำ
สุดท้ายแล้ว หลังจากที่ใช้สมุนไพรล้ำค่าและสมบัติสายเลือดมากมาย อีกทั้งยังผ่านทัณฑ์สวรรค์จนดวงวิญญาณแทบจะแตกสลาย สิ่งที่เสี่ยวชิงได้รับมาก็คือเขามังกรสีทองคู่นี้เท่านั้น
ตัวเธอล้มเหลวในการยกระดับเป็นมังกรที่แท้จริง จนต้องสูญเสียอายุขัยไปจำนวนมาก กลายเป็นเพียงครึ่งมังกรครึ่งงู ไม่มีทั้งกรงเล็บและเกล็ดมังกร หมดหวังในการยกระดับไปสู่ขั้นต่อไปตลอดกาล
แต่ทว่าผลลัพธ์มันก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป เพราะเขาของมังกรก็คือต้นกำเนิดพลังอันมหาศาลของเผ่าพันธุ์ มันสามารถใช้ควบคุมสายฟ้าบงการวายุ ยิ่งเมื่อรวมกับความสามารถเดิมด้านแก่นแท้วารีของเธอ
ทำให้ในตอนนี้ เสี่ยวชิงแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า จนเรียกว่าทัดเทียมกับขอบเขตเซียนนภาในตำนานได้เลยทีเดียว
“ ไม่…ชิงเออร์รีบหนีไป ”
ต้วนมู่เฉียนฝืนร้องตะโกนออกมาอย่างร้อนรน เขาไม่อยากให้คนรักต้องมาพลอยรับเคราะห์ไปด้วย
แต่ทว่าเสี่ยวชิงกลับไม่สนใจ เธอยังคงตรงมาหาเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี พร้อมกับรวบรวมสายฟ้ากลายมาเป็นม่านพลังบุกทะลวงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ ไร้เหตุผลสิ้นดี ข้ายอมไว้หน้าพวกเจ้าขนาดนี้แล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ ” ชายผมขาวพูดออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา เขาตบฟาดฝ่ามือออกไปทางผู้มาใหม่ทั้งสอง ทำให้เกิดเป็นคลื่นพลังสีทองกวาดออกไป
บูมมมม!
ร่างอันใหญ่โตของเสี่ยวชิงกับไป๋ซู่เจิน เหมือนปะทะเข้ากับกำแพงอันแข็งแกร่งอย่างรุนแรง ทำให้ลำตัวของพวกเธอปริแตกเลือดสาดกระจายออกมา
เปรี้ยง! ตูมมม!
กรี๊ดดด!
ไป๋ซู่เจินเป็นฝ่ายทนไม่ไหวก่อน ร่างของเธอปลิวกระเด็นตกลงไปด้านล่าง เลือดของเธอได้ย้อมท้องทะเลจนกลายเป็นสีแดงฉาน อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องกลับคืนสู่ร่างเดิม
“ พี่ซู่เจิน! ” เสี่ยวชิงร้องตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าการโจมตีเมื่อครู่รุนแรงเป็นอย่างมาก แม้แต่ตนเองที่ผ่านการยกระดับมายังแทบจะทนไม่ไหว แล้วพี่สาวของเธอจะไปต้านทานได้อย่างไร
“ ไม่ต้องห่วงฉัน…ไปทำสิ่งที่ต้องทำซะ ” ไป๋ซู่เจินพูดออกมาด้วยใบหน้าซีดขาว
หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย เธอก็กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมด ใช้ท่าไม้ตายของตนเอง เพื่อที่จะส่งน้องสาวไปช่วยเหลือชายคนรัก
ครืนนน!
ถ้าแม้แต่ตัวตนระดับสูงสุดในแดนสวรรค์เช่นท่านอาจารย์ ยังเน้นย้ำอย่างจริงจัง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขาเปิดถุงใบนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน นี่จึงเป็นเหตุผลที่จ้าวเทียนยอมฝืนทนอดกลั้นมาโดยตลอด
เพราะหากเขาตัดสินใจผิดพลาดไป ทุกคนที่อยู่ข้างกายเขาก็จะพลอยได้ผลกระทบไปด้วย
“ นายช่วยพวกเขาได้ไหม… ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ
ยิ่งเธอเห็นพวกผู้อาวุโสเสี่ยวชิงฝืนเข้าต่อสู้มากเท่าไหร่ น้ำตาของเธอก็หลั่งไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ลี่เหยาเหยารู้ดี ว่าเหตุผลที่เสี่ยวชิงและไป๋ซู่เจินไม่เคยเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย ก็เป็นเพราะไม่ต้องการให้พวกเธอรู้สึกลำบากใจ และถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“ ฉัน… ” จ้าวเทียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องถุงผ้าที่ได้รับมาให้คนอื่นฟัง ทำให้ทุกคนได้เข้าใจ ว่าสิ่งที่จ้าวเทียนกำลังกังวลอยู่ก็คือความปลอดภัยของชีวิตพวกเขาหลังจากนี้นั่นเอง
“ ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรตามมาบ้าง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นนายต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผู้อาวุโสต้วนมู่เฉียน ฉันก็คงทำแบบเดียวกับผู้อาวุโสเสี่ยวชิงแน่นอน ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เช่นเดียวกับกงเสี่ยวเหมยและคนอื่นๆที่ต่างก็มีความคิดแบบเดียวกัน
“ บอสครับ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไปเถอะ แต่ตอนนี้ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ”
“ อาจารย์คะ พวกผู้อาวุโสน่าสงสารมากเลย ฉันอยากช่วยเขา ”
“ คุณไม่ต้องห่วงพวกเราหรอก ยังไงซะอีกฝ่ายก็ต้องการสังหารพวกเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ”
เมื่อจ้าวเทียนได้เห็นสายตาอันแน่วแน่ของทุกคน เขาก็คิดไปถึงความช่วยเหลือและความเอาใจใส่ที่ต้วนมู่เฉียนเคยมีให้เสมอมา
ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน ชายคนนั้นก็ไม่เคยทอดทิ้งพวกพ้องมาก่อน ทำให้จ้าวเทียนเลิกลังเลในที่สุด
“ ตกลง…ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง พวกเธอรีบถอยออกไปให้หมด ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...