ผ่านไปหนึ่งวัน หลังจากที่ต้วนมู่เฉียนถูกนำตัวกลับมารักษา อาการของเขาก็มีแต่จะทรุดหนักลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีการแพทย์ที่ล้ำสมัยหรือโอสถล้ำค่าระดับสูงสุด มันก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน
เรื่องนี้สร้างความร้อนใจให้ท่านประธานาธิบดีเป็นอย่างมาก เพราะชายคนนี้คือเสาหลักเพียงหนึ่งเดียวที่ค้ำยันความสงบสุขของประเทศมากว่าสามร้อยปี หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาจริงๆ มันจะสร้างความปั่นป่วนให้ระบบการปกครองทั้งหมดอย่างแน่นอน
“ เป็นอย่างไรบ้างหมอเจียง พวกคุณหาวิธีรักษาผู้อาวุโสต้วนมู่ได้หรือยัง ” ท่านประธานาธิบดีถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สายตาของเขามองไปยังชายชราคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ในห้องปลอดเชื้อด้วยความเป็นห่วง
“ เอ่อ…ท่านครับ พวกเราได้พยายามกันเต็มที่แล้ว แต่แกนสมองของผู้อาวุโสได้รับความเสียหายมากจนเกินไป นี่ยังไม่รวมไปถึงเซลล์ต่างๆในร่างกายที่กำลังเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ”
“ แค่เขายังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพระเจ้าแล้ว ส่วนเรื่องวิธีการรักษานั้น พวกเราก็จนปัญญาจริงๆ ” ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีขาวก้มหน้าพูดเสียงอ่อน ที่ด้านหลังของเขายังมีนายแพทย์ชั้นนำของประเทศอีกสี่คน ซึ่งก็มีท่าทีห่อเหี่ยวไม่ต่างกันนัก
“ แล้วพวกคุณล่ะ พอจะทำอะไรได้บ้างไหม ” ท่านประธานาธิบดีหันไปทางด้านซ้ายของเขา ซึ่งก็มีคนกลุ่มหนึ่งประกอบไปด้วยหลวงจีนและนักพรตสี่คน
“ อามิตตาพุทธ…อาตมาได้ทดลองใช้เคล็ดวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นช่วยเหลือประสกต้วนมู่ดูแล้ว แต่ผลที่ได้ก็ไม่มีอะไรแตกต่าง เพราะเส้นชีพจรแทบทั้งร่างและต้นกำเนิดพลังของเขาถูกทำลายไปแล้ว ”
“ ต่อให้พวกเราจะพยายามถ่ายทอดพลังเข้าไป ก็จะเป็นเหมือนแก้วน้ำที่มีรูรั่ว ไม่ว่าจะเติมน้ำเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม ” หลวงจีนคิ้วขาวพูดขึ้นอย่างสงบ ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรมากนัก เพราะตัวท่านเองก็ใกล้จะหมดอายุขัยเช่นเดียวกัน จึงปลงต่อเรื่องความเป็นความตายมาเนิ่นนานแล้ว
ท่านประธานาธิบดีที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนความสูญเสียนี้ คงไม่อาจจะเลี่ยงได้จริงๆ
แกร๊ก!
ประตูห้องได้ถูกจ้าวเทียนผลักเปิดเข้ามา ที่ด้านหลังเขายังมีสาวงามผมทองสองคนติดตามมาด้วย
“ สวัสดีครับ…ท่านประธานาธิบดีและผู้อาวุโสทุกท่าน ” จ้าวเทียนทักทายอย่างสุภาพพร้อมทั้งก้มหัวเล็กน้อย ซึ่งคนอื่นๆในห้องก็ทักทายกลับมาอย่างให้เกียรติเช่นกัน
“ นี่คือ…สตรีศักดิ์สิทธิ์โซเฟีย ผู้นำสูงสุดแห่งศาสนจักรแห่งแสง และผู้สืบทอดของเธอซิสเตอร์ออโรร่า ฉันพาพวกเธอทั้งคู่มารักษาผู้อาวุโสต้วนมู่โดยเฉพาะ ” จ้าวเทียนรีบบอกจุดประสงค์ออกไปทันที ตอนนี้เวลาทุกวินาทีมีค่ามาก
“ ขอโทษด้วย ฉันอยากให้พวกคุณออกไปรอด้านนอกก่อนได้ไหม วิธีการรักษาของฉันนั้นถือเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยให้คนนอกรู้ได้ ”
!!
คำพูดประโยคแรกของโซเฟีย ทำให้ท่านประธานาธิบดีอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ที่อยู่ดีๆตนเองก็ถูกไล่ออกไปซะอย่างนั้น
“ เอ่อ…พลเอกจ้าว เรื่องนี้มันจะดีเหรอ พวกเธอไม่ใช่คนของฝ่ายเรานะ ” หนึ่งในผู้ติดตามของท่านประธานาธิบดีถามขึ้นแบบไม่แน่ใจนัก หากอีกฝ่ายมีจุดประสงค์ร้ายแอบแฝงจะทำอย่างไร
“ พวกคุณไม่ต้องกังวล ฉันเองก็จะอยู่ในห้องนี้ด้วย ดังนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง คำรับรองของเขาซึ่งเป็นผู้สืบทอดของต้วนมู่เฉียน ทำให้ทุกคนรู้สึกวางใจขึ้นทันที
“ เข้าใจแล้ว…พวกเราจะออกไปรอด้านนอก เรื่องผู้อาวุโสต้วนมู่ก็ต้องฝากเธอด้วยนะ ” พูดจบท่านประธานาธิบดีก็เดินนำออกไปเป็นคนแรก ก่อนที่คนอื่นๆจะทยอยตามออกไป
จนกระทั่ง ในห้องวีไอพีแห่งนี้เหลือเพียงห้าคนเท่านั้น ซึ่งก็คือพวกจ้าวเทียนสามคนกับต้วนมู่เฉียนที่นอนอยู่บนเตียงด้านใน และเสี่ยวชิงที่นั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง
หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องด้านในแล้ว จ้าวเทียนก็หันไปพูดกับหญิงสาวที่กำลังถ่ายทอดพลังชีวิตให้กับต้วนมู่เฉียนด้วยความเป็นห่วง
“ ผู้อาวุโส คุณเองก็ควรพักผ่อนบ้างนะ ถึงแม้คุณจะกลายเป็นครึ่งมังกรแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของคุณก็ต้องการเวลาฟื้นตัวเหมือนกัน ”
“ ฉันไม่เป็นไร แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอลงมาก ถ้าฉันหยุดถ่ายทอดพลังชีวิตให้เขาคง… ” เสี่ยวชิงพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว เหตุผลที่ต้วนมู่เฉียนยังทนมาถึงตอนนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพลังชีวิตครึ่งมังกรของเธอ ไม่อย่างนั้นเขาคงจากไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา ต้องโทษที่เขาให้ความสนใจกับเรื่องอื่นมากเกินไป กว่าจะรู้ตัวอาการของผู้อาวุโต้วนมู่ก็สาหัสมากแล้ว
‘ ฉันไม่คิดเลยว่า ในตอนที่ผู้อาวุโสต้วนมู่หลั่งน้ำตาออกมาเป็นเลือด เพื่อที่จะไม่ให้คนรักต้องมารับเคราะห์ไปด้วย เขาถึงกับยอมระเบิดโลกภายในฆ่าตัวตาย ’
เสี่ยวชิงโผเข้าไปกอดชายคนรักไว้อย่างแนบแน่น พร้อมกับหลั่งน้ำตาแห่งความตื้นตันออกมา ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องฝืนทำเป็นเข้มแข็งอีกต่อไปแล้ว
“ ชิงเออร์…นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เพราะในตอนที่เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย ก็นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้พบเธออีกแล้ว
เมื่อเห็นแบบนี้ จ้าวเทียนก็ยิ้มขึ้นอย่างโล่งใจ จากนั้นก็ชวนพวกโซเฟียออกไปรอด้านนอก ปล่อยให้คู่รักสองคนได้มีเวลาเป็นส่วนตัว
“ ต้องขอบคุณพวกคุณมากนะ ที่อุตส่าห์ยอมละทิ้งภารกิจมาช่วยถึงที่ ” จ้าวเทียนพูดออกมาเบาๆ เมื่อออกมาด้านนอกแล้ว
“ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาหรอก ต้วนมู่เฉียนเองก็ถือเป็นสหายคนหนึ่งของฉันเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าจะดีใจตอนนี้ มันก็ออกจะเร็วเกินไปนัก ”
!!
“ คุณหมายความว่ายังไง เขาหายดีแล้วไม่ใช่เหรอ ” จ้าวเทียนรีบถามขึ้นทันที
“ ฉันรักษาได้เพียงอาการบาดเจ็บเท่านั้น แต่ไม่สามารถฟื้นฟูโลกภายในของเขาให้กลับมาดังเดิมได้ ทำให้ตอนนี้ตัวเขาได้สูญเสียพลังเซียนทั้งหมดไปแล้ว ”
“ คุณก็น่าจะรู้ สำหรับผู้ฝึกตนแบบพวกเราโลกภายในสำคัญแค่ไหน การที่มันถูกทำลายไป ก็ไม่ต่างไปจากเซียนที่ถูกลดขั้นลงมาเป็นปุถุชนคนธรรมดา ”
“ ยิ่งเมื่อรวมกับอายุขัยและอาการบาดเจ็บทางดวงวิญญาณ ของต้วนมู่เฉียนก่อนหน้านี้ด้วยแล้ว ฉันเกรงว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ” โซเฟียพูดอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้จ้าวเทียนมีสีหน้าหมองคล้ำลงทันที
“ เขายังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่… ”
“ ดูจากอาการของเขาในตอนนี้ ฉันสามารถช่วยยื้อเวลาออกไปได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้น ” โซเฟียพูดจบก็ถอนหายใจออกมา
ครั้งนี้ต้วนมู่เฉียนได้สูญเสียโอกาสรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวไปแล้ว เมื่อสูญเสียโลกภายในไป ก็ไม่มีหนทางไหนให้เขาเลือกเดินอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...