ข่าวร้ายที่ได้รับมาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้จ้าวเทียนกลับมาอยู่ในอารมณ์ห่อเหี่ยวอีกครั้ง ในเวลาเพียงแค่สองวัน นอกจากจะรับรู้ถึงชะตากรรมอันเลวร้ายของท่านอาจารย์ เขายังต้องเตรียมใจกับความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก
‘ มันจะไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆเหรอ ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้อาวุโสต้วนมู่เฉียนได้ เพราะหาเขาเสียชีวิตไป ดวงวิญญาณจะต้องถูกเต๋าแห่งสวรรค์ทำลายก่อนจะได้เกิดใหม่แน่นอน ’
จ้าวเทียนสัมผัสได้ชัดเจน ว่าตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้น ทั้งตนเองและต้วนมู่เฉียนได้ถูกเต๋าแห่งสวรรค์ประทับตราจิตวิญญาณเอาไว้ ซึ่งมันก็เป็นเช่นเดียวกับศิษย์พี่หญิงของเขา
ไม่ว่าจะหลบซ่อนตัวอย่างไร ขอเพียงออกจากโลกมนุษย์ที่ได้รับความคุ้มครองจากพลังของผานกู่ไป ก็จะถูกอีกฝ่ายตามหาจนเจอ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ นอกจากท่านอาจารย์แล้วจ้าวเทียนก็ไม่ได้บอกใคร เพราะไม่ต้องการให้ทุกคนเป็นห่วง
“ เป็นอย่างไรบ้าง ผู้อาวุโสต้วนมู่ฟื้นขึ้นมาหรือยัง ” ท่านประธานาธิบดีรีบถามขึ้นทันที เมื่อเห็นพวกจ้าวเทียนเดินออกมา
“ ผู้อาวุโสต้วนมู่ได้สติแล้วครับ ตอนนี้ผู้อาวุโสเสี่ยวชิงกำลังดูแลอยู่ พวกคุณค่อยเข้าไปภายหลังดีกว่า อย่าเพิ่งไปรบกวนพวกเขาเลย ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ท่านประธานาธิบดีก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ทำให้สีหน้าของคนอื่นๆผ่อนคลายลงทันที
ซึ่งหลังจากที่ซักถามเรื่องการรักษาเล็กน้อย กับแสดงความขอบคุณโซเฟียและออโรร่า พวกเขาต่างก็แยกย้ายกลับไปทำหน้าที่ของตน
“ แบบนี้จะดีเหรอ ที่ไม่บอกเรื่องนั้นออกไป ” โซเฟียถามออกมาเบาๆ
“ ขอเวลาให้ฉันได้ตรวจสอบดูสักสามวัน บางทีมันอาจจะมีหนทางอื่น ” จ้าวเทียนคิดจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านอาจารย์ดู ตอนนี้เธอได้รับความทรงจำในอดีตชาติหลายล้านปีกลับมา อาจจะมีบางอย่างที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
“ ตกลง งั้นในสามวันนี้ ฉันจะประจำการณ์อยู่ที่ศาสนจักรแห่งแสงสาขาประเทศจีนแล้วกัน ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้ทุกเวลา ” โซเฟียตอบอย่างใจกว้าง เธอได้ยกเลิกภารกิจล่าสุดไปแล้ว กลับไปตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของออโรร่าก็แจ้งเตือนขึ้น เพราะมีข้อมูลบางอย่างถูกส่งมาและหลังจากที่เธอได้อ่านมันก็รีบบอกจ้าวเทียนทันที
“ ตอนนี้ พวกเราได้รับสิ่งที่นายต้องการมาแล้ว นี่คือรายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการรอบสังหารผู้อาวุโสต้วนมู่ทั้งหมด ”
ออโรร่ากดส่งข้อมูลทุกอย่างไปยังโทรศัพท์มือถือของจ้าวเทียนอย่างรวดเร็ว หากเป็นคนอื่นคงจะใช้เวลานานมาก แต่สำหรับศาสนจักรแห่งแสงของพวกเธอ ที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกแห่งบนโลก เรื่องแค่นี้วันเดียวก็สืบมาได้หมดแล้ว
จ้าวเทียนเปิดอ่านรายชื่อที่อีกฝ่ายส่งมาให้ด้วยสีหน้าเย็นชา เพราะมีหลายชื่อในนั้นที่หน้าฉากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับประเทศจีน ไม่นึกเลยว่าจะแอบแทงข้างหลังแบบนี้
‘ เกมการเมืองบนโลกนี้ น่ากลัวกว่าแดนสวรรค์มาก ภายใต้ผลประโยชน์ที่วางอยู่ตรงหน้า การทศยศหักหลังก็เกิดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องปกติ ’
‘ คงจะหวังพึ่งแต่สายข่าวของพวกโซเฟียไม่ได้ ฉันต้องเร่งให้ผู้อาวุโสอั้งหวงหลง ส่งศิษย์พรรคกระยาจกออกไปทั่วโลกโดยเร็ว ’
ช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา จ้าวเทียนได้ยินมาว่ามีเทพที่จุติลงมาจากแดนสวรรค์หลายคน ติดต่อกับขุมกำลังใหญ่ๆบนโลกมนุษย์เพื่อเข้าร่วมเป็นพันธมิตรแล้ว
ด้วยความแข็งแกร่งของเทพที่จุติลงมานั้น ต่อให้ถูกจำกัดพลังเอาไว้ แต่ก็สามารถทำลายล้างประเทศหนึ่งได้อย่างไม่ยากเย็น จะเรียกว่าเป็นระเบิดนิวเคลียร์เดินได้ก็ไม่ผิด ทำให้ขุมกำลังต่างๆ ยอมอ้าแขนรับด้วยความยินดี
หากปล่อยเอาไว้แบบนี้ต่อไป แม้แต่โลกมนุษย์ที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของพวกเขา คงถูกเปลี่ยนเป็นสนามหลังบ้านของฝ่ายศัตรูแน่นอน
“ ขอบคุณมาก ส่วนนี่คือของตอบแทนเล็กน้อย ขอให้พวกคุณรับเอาไว้เถอะ ” จ้าวเทียนยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้ ซึ่งด้านในมีหินวิญญาณระดับเทพหนึ่งพันก้อน ที่เขาเตรียมไว้เป็นสินน้ำใจให้อีกฝ่าย
“ หืม…นี่มันเยอะเกินไปหรือเปล่า ” โซเฟียพูดออกมาด้วยสีหน้าตกใจ บนโลกมนุษย์หินวิญญาณระดับเทพเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าอย่างมาก แถมยังไม่อาจหาได้ด้วยวิธีการปกติอีกด้วย
‘ เข้าใจแล้ว…เขาคงต้องการซื้อใจฉันสินะ ’
“ ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม อีกฝ่ายสมกับเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกของท่านอาจารย์ เพียงแค่เขาชี้แนะไปนิดหน่อย เธอก็รู้ทันทีว่าต้องทำอะไรต่อไป
“ จากนี้ไป พวกเราก็กลายเป็นพันธมิตรที่ร่วมรุกร่วมถอยไปด้วยกันแล้วนะ ”
หลังจากที่พูดคุยกันอีกครู่หนึ่ง จ้าวเทียนก็ขอแยกตัวออกมา เพื่อกลับไปพบท่านอาจารย์ที่คฤหาสน์ดาราสวรรค์ ส่วนพวกโซเฟียก็รีบไปดำเนินการตามแผนที่ตกลงกันไว้ทันที
ในเวลาเดียวกันที่ประเทศญี่ปุ่น
บริเวณศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของศาสนาชินโต เวลานี้มันได้ถูกกันไว้เป็นเขตหวงห้ามโดยกองกำลังติดอาวุธมากมาย เหมือนกำลังจะมีเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเกิดขึ้น
“ เรื่องสถานที่เป็นยังไงบ้าง ทุกคนมากันพร้อมหรือยัง ” ชายชราคนหนึ่งถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง เขาสวมกิโมโนสีขาวดูสง่างามที่ถูกเรียกว่าโซกุไต ซึ่งมันคือฉลองพระองค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นในวันพิธีขึ้นครองราชย์
การที่ชายชราคนนี้สามารถสวมมันได้ ย่อมแสดงถึงความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา เพราะถึงแม้ในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นจะล้มเลิกระบบกษัตริย์ไปแล้ว
แต่ตัวตนของผู้สืบเชื้อสายจักรพรรดิยังถูกวางไว้สูงมาก และยังได้รับความเคารพบูชาจากประชาชนทุกคน
“ ไฮ! ทุกอย่างเตรียมการไว้เรียบร้อยขอรับ องค์เหนือหัว ” ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังยืดอกตอบขึ้นด้วยเสียงดังชัดเจน
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายชราก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นสายตาของเขาก็กวาดตามองไปยังข้าราชบริพารผู้ภักดีสองคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหลัง
หนึ่งในนั้นคือทายาทรุ่นหลังของ อาเบะโน เซเมย์ ซึ่งเป็นองเมียวจิที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาตร์ และด้วยสายเลือดที่สืบทอดมาจากบรรพชน ทำให้ตัวเขาสามารถบรรลุพลังระดับเอสได้ในวัยเพียงยี่สิบแปดปี ถือเป็นเสาหลักของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน
“ อาเบะโน เซฮิเดะ จงสื่อสารไปหาองค์เทพีอามาเทราสุ บอกท่านว่าพิธีศักดิ์สิทธิ์แห่งการจุติเทพเจ้าพร้อมแล้ว ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...