จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 402

พันธมิตรเฉพาะกิจของผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อจัดการจ้าวเทียน โดยเนื้อแท้แล้วเป็นการร่วมมือแบบผิวเผิน ในบรรดาพวกเขาแต่ละคนก็ยังต้องแข่งขันกันเอง เนื่องจากผู้ชนะมีได้เพียงเดียว

เพราะสุดท้าย ใครก็ตามที่เป็นคนเอาชนะจ้าวเทียนถึงจะได้ทุกอย่างมาครอบครอง

ด้วยเหตุนี้ ราชันจอมเวทเมอร์ลินเลยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของตุ๊กตาหมีตัวนั้นออกไป และก็ไม่ได้ส่งคนของตนเองไปหยั่งเชิงด้วย เนื่องจากต้องการรักษาขุมกำลังของตัวเองไว้ สำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

“ จงจำไว้…ห้ามสังหารฝ่ายตรงข้ามโดยเด็ดขาด หากรู้ตัวว่าสู้ไม่ไหวก็ตะโกนยอมแพ้ออกมาดังๆ ฉันจะรีบเข้าไปหยุดการต่อสู้ทันที ต่อให้ต้องทำพันธสัญญาผู้รับใช้เป็นเวลาสี่ปี ก็ยังดีว่าตายไปแบบไร้ค่า เข้าใจไหม ” อ๋าวเฟิงพูดย้ำขึ้นพร้อมกับโบกมือเบาๆ เคลื่อนย้ายทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปยังสถานที่ห่างไกล

ทำให้พื้นที่สนามประลองอันกว้างใหญ่เหลือเพียงคู่ต่อสู้ทั้งสี่คนเท่านั้น

“ ขอฉันเลือกคู่ต่อสู้ก่อนก็แล้วกัน เธอไม่มีปัญหาใช่ไหม ” อเล็กซัสพูดออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ สายตาเขากวาดมองไปฝ่ายตรงข้ามอย่างดุดัน

“ แล้วแต่นายเลย แต่อย่าแพ้เร็วนักล่ะ เดี๋ยวจะผิดวัตถุประสงค์ของพวกเรา ” อลิซาเบธพูดเย้ยหยันกลับไปเบาๆ เธอกางปีกค้างคาวสีดำขนาดใหญ่ขึ้น แล้วบินขึ้นไปบนฟ้ารอชมการต่อสู้ห่างๆ

“ เหอะ! เธอควรจะห่วงตัวเองดีกว่ามั้ง ” อเล็กซัสตอบกลับไปอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปทางตุ๊กตาหมีที่โฮ่วอี้อุ้มอยู่

“ ฉันเลือกสู้กับแก…ไอตัวเล็ก! ”

!!

คิ้วของจ้าวเทียนกระตุกทันที เมื่อได้ยินคำพูดต้องห้ามหลุดออกมาจากปากฝ่ายตรงข้าม เท่าที่จำได้ศิษย์พี่หญิงจะรังเกียจพวกที่ยกเอารูปร่างเธอมาเป็นประเด็นที่สุด

“ หึหึ แกเรียกฉันว่าอะไรนะ ” หลินซูซินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอบินออกมาจากมือของโฮ่วอี้ พร้อมปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าขนหัวลุกออกมา

“ ฉันพูดผิดตรงไหน …หรือจะให้เรียกแกว่า ไอตุ๊กตาหมีตัวจ้อยดีล่ะ ” อเล็กซัสถือกำเนิดมาในเผ่าพันธุ์อสูรกายยักษ์ที่มีร่างกายใหญ่โต เขาจึงนึกดูถูกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ดูอ่อนแอเป็นที่สุด

‘ ดูเหมือนฉันจะกระตุ้นให้มันโกรธสำเร็จ มิติแห่งนี้ถูกตั้งข้อจำกัดพลังเอาไว้ ต่อให้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางเอาชนะร่างกายอันทรงพลังของฉันได้ง่ายๆแน่นอน ที่เหลือก็แค่ต่อสู้ถ่วงเวลาให้คนอื่นๆได้เก็บข้อมูลเท่านั้น ’

จากผู้ติดตามทั้งสองของจ้าวเทียน อเล็กซัสคิดว่าหลินซูซินสู้ด้วยง่ายที่สุดแล้ว เพราะเขาสามารถมองเห็นระดับพลังของเธอได้ แตกต่างจากชายลึกลับที่ตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกเธอเป็นคู่ต่อสู้

ทางด้านโฮ่วอี้ที่เห็นศิษย์หลานบินออกไปสู้แล้ว เขาก็ถอนหายใจเบาๆให้กับการรนหาที่ตายของฝ่ายตรงข้าม ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่เขาก็มอกออกว่าหลินซูซินเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมากเลยทีเดียว

“ ปากสุนัขไม่มีงาช้างงอกเงยจริงๆ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเลาะฟันแกออกให้หมดทุกซี่ จะได้ไม่ต้องไปเห่าหอนสร้างความรำคาญให้ใครอีก ” หลินซูซินพูดขึ้นเสียงดัง

“ จะเลาะฟันฉันงั้นเหรอ ไว้ให้แกเห็นร่างจริงฉันก่อนเถอะ อยากรู้นักว่าจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า ”

สิ้นเสียง อเล็กซัสก็ระเบิดคลื่นพลังงานสีแดงที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งออกมา ทำให้ร่างกายของเขาขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วจนสูงเกือบพันเมตร

โฮกกก!

ปากที่อ้ากว้างเต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคม และมือเท้าเปลี่ยนเป็นกงเล็บดุจสัตว์ร้าย เกล็ดสีดำปกคลุมผิวกายทั้งหมด พร้อมกับศีรษะอีกแปดหัวที่งอกเพิ่มออกมาจากแผ่นหลัง

บูมมม!

เมื่อร่างอสูรยักษ์ในตำนานไฮดราเก้าหัวปรากฏขึ้น อาณาเขตหมื่นเมตรรอบตัวหลินซูซินก็เกิดเป็นภาพลวงตาของบึงน้ำสีดำขนาดใหญ่ มันเต็มไปด้วยพลังงานด้านลบ ที่สามารถกัดกร่อนร่างกายของศัตรูได้

“ ว่ายังไงล่ะไอตัวเล็ก เข้ามาถอนฟันฉันซิ ”

หัวทั้งเก้าของอเล็กซัสพูดออกพร้อมกัน ทั้งยังจงใจเปิดเผยคมเขี้ยวอันแหลมคมให้อีกฝ่ายเห็นอย่างท้าทาย จากนั้นก็พ่นเปลวเพลิงสีเขียวโจมตีออกมาทันที

ฮูมมมม!

เพลิงพิษซึ่งมีอานุภาพกัดกร่อนอย่างรุนแรง ถาโถมเข้าใส่หลินซูซินจากเก้าทิศทาง ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หลบหนี

ทันใดนั้น

ครืนนน!

ตุ๊กตาหมีที่ดูไร้พิษสงในสายตาอเล็กซัส ได้ระเบิดเปลวไฟสีฟ้าออกมา เผาไหม้เพลิงพิษของเขาจนสลายหายไปในอากาศ

วูปปปป!

ร่างตุ๊กตาหมีขยายขนาดขึ้นจนสูงเกือบสามพันเมตร ใหญ่กว่าไฮด้าเก้าหัวถึงสามเท่า กรงเล็บอันแหลมคมงอกออกมาจากแขนทั้งสองข้าง ดวงตาของมันเต็มไปด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าลุกโชติช่วง

ออร่าที่ตุ๊กตาหมีขนาดยักษ์ปลดปล่อยออกมา ทำให้ผู้ถูกเลือกทุกคน ต้องสยิวกายขึ้นด้วยความหนาวเหน็บ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอเล็กซัสที่เผชิญหน้าโดยตรง เพียงแค่สัมผัสโดนเปลวเพลิงสีฟ้า เขาก็รีบถอยหลังเว้นระยะห่างด้วยความหวาดกลัว

นี่คือจุดเด่นของเผ่าพันธุ์วิญญาณ เปลวเพลิงสีฟ้าที่พวกเขาปลดปล่อยออกมา สามารถเผาผลาญดวงวิญญาณได้โดยตรง จึงเป็นที่หวั่นเกรงของสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์

ยิ่งเมื่อต้องถูกเปลวเพลิงสีฟ้า เผาผลาญดวงวิญญาณอยู่ตลอดเวลา คงอีกไม่กี่ลมหายใจ ก็น่าจะหมดสภาพไปในที่สุด

หืม!

จ้าวเทียนมองเห็นอลิซาเบธฉวยจังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจการต่อสู้ ทิ้งภาพลวงตาของตนเองเอาไว้ แล้วล่องหนหายตัวลอบเร้นมาด้านหลังโฮ่วอี้อย่างระมัดระวัง

“ ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ แต่น่าเสียดายที่การลอบโจมตีแบบนี้ทำอะไรอาจารย์ปู่ไม่ได้หรอก ”

ไวเท่าความคิด ในขณะที่อลิซาเบธอยู่ห่างจากโฮ่วอี้ประมาณร้อยก้าว เขนขาของเธอก็ระเบิดกระจุยกลายเป็นหมอกเลือด จนต้องเปิดเผยตัวตนออกมาในที่สุด

“ อั่ก…นี่มันเกิดอะไรขึ้น ” อลิซาเบธร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโฮ่วอี้ถือคันศรไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และเขายิงเกาทัณฑ์ออกมาตอนไหน

เพราะพริบตาเดียว…แขนขาของเธอก็ถูกอีกฝ่ายทำลายไปแล้ว

ฟู่ววว!

แต่ทว่า ด้วยพลังฟื้นฟูของแวมไพร์ชั้นสูง ก็ทำให้อวัยวะที่สูญเสียไปงอกคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นดวงตาของอลิซาเบธก็เปล่งแสงสีแดงออกมา เธอต้องการใช้มนต์เสน่ห์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมฝ่ายตรงข้าม

ทันใดนั้น

ฉัวะ!

กรี้ดดด

ทั้งดวงตาและใบหน้าซีกซ้ายของอลิซาเบธ ถูกเกาทัณฑ์ของโฮ่วอี้เป่าหายไปทั้งแถบ สภาพเธอในตอนนี้ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก

“ ครั้งต่อไป…ข้าจะลบตัวตนของเจ้าให้หายไปจากโลกใบนี้ตลอดกาล ” โฮ่วอี้พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับเล็งเกาทัณฑ์ไปที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างช้าๆ

จนอลิซาเบธที่เพิ่งจะพื้นฟูใบหน้ากลับมา ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เธอเข้าใจได้ในทันที ว่าสองครั้งแรกมันเป็นเพียงคำเตือนจากอีกฝ่ายเท่านั้น ส่วนครั้งที่สามจะเป็นการโจมตีที่แท้จริง

“ ผู้อาวุโสอ๋าวเฟิงช่วยด้วย ฉัน…ยอมแพ้แล้ว! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน