เวลาผ่านไปเกือบสิบชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ที่เหยียนซืออู่และจ้าวหยูเหมยถูกศัตรูจับตัวไป ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการสืบค้นหรือพบเบาะแสใดๆทั้งสิ้น
ฝ่ายตรงข้ามทั้งลบกลิ่นอาย ทั้งปลอมแปลงรูปลักษณ์ตัดขาดเส้นใยแห่งกรรม จนแม้แต่เคล็ดวิชาทำนายของหลินซูซินและเทพโอซีริสยังตรวจสอบได้ลำบาก
ถึงขนาดที่จ้าวเทียนใช้อำนาจจำสถานะของตนเอง ตรวจสอบภาพเหตุการณ์ทุกแง่มุมจากดาวเทียมสื่อสารของนานาประเทศ ก็ยังได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมอยู่ดี
รู้แค่ว่าศัตรูคือชายหนุ่มผมทองกับชายร่างยักษ์ผิวดำ ที่ปรากฏตัวขึ้นบนเกาะแห่งหนึ่ง ก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับเกาะที่ถูกทำลาย ซึ่งดูจากการลงมือแบบเปิดเผยของอีกฝ่าย คงจะใช้ร่างปลอมเป็นแน่
“ บัดซบ! ไอ้สารเลว นี่มันกล้าทำแบบนี้กับท่านตาของฉันได้ยังไง” จ้าวเทียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เพราะเมื่อเขาลองเปิดหีบใบหนึ่งที่ฝ่ายศัตรูส่งมาให้ออกดู ก็พบกับแขนข้างซ้ายของเหยียนซืออู่และข้อความที่ถูกทิ้งไว้
(อีกสามวัน นำแผ่นหินโกลาหลไปแลกเปลี่ยนกับชีวิตตัวประกันที่วิหารบูชาเทพเจ้าโอดิน หากถึงเวลาแล้วยังไม่ปรากฏตัวออกมา ก็เตรียมรับศพกลับไปได้เลย)
“ แขนนั่น…หรือว่า ไม่นะท่านพ่อ ฮือฮือ ” เหยียนซือหนิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา ก่อนจะร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ เพราะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะกลับมาเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธออีกครั้ง
“ แม่ไม่ต้องกังวล ฉันจะต้องช่วยท่านตากับหยูเหมยกลับมาให้ได้ ไม่ว่ามันจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามที ” จ้าวเทียนพูดออกมาอย่างจริงจัง พร้อมกับโอบกอดแม่ของตนเอาไว้แนบแน่น เพื่อช่วยปลอบโยนให้เธอรู้สึกดีขึ้น
“ ศัตรูจะต้องเป็นพวกเดียวกันกับพวกที่เคยจับตัวเทพสึคุโยมิไปอย่างแน่นอน ทั้งการอำพรางร่องรอยและความรวดเร็วเฉียบขาดในการลงมือ เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน ” เทพโอซีริสพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องถูกอีกฝ่ายปั่นหัวด้วยวิธีเดิมซ้ำๆ โดยที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย
“ ศิษย์พี่หญิง…. ” จ้าวเทียนมองไปทางตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลด้วยความหวัง พร้อมกับส่งแขนของเหยียนซืออู่ไปให้ เพราะเธอได้ใช้แผนภูมิดาราแปดทิศค้นหาแหล่งกบดานของศัตรูมาได้สักพักแล้ว
ผ่านไปสิบนาที
วิ้งงงง!
จากภาพลวงตาของทะเลดวงดาวนับพัน ซึ่งเป็นตัวแทนของการทำนายความเป็นไปแต่ละเส้นทาง มีเพียงสองดวงเท่านั้นที่สว่างเจิดจ้าขึ้นมา ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพุ่งตรงไปทางเหนือแล้วกะพริบแสงถี่รัว ระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง
ส่วนอีกหนึ่งดวงกลับเปล่งแสงยิ่งกว่าเดิม แล้วถูกดึงดูดให้จมหายเข้าไปในศีรษะของตุ๊กตาหมีอย่างรวดเร็ว
“ หืม…นี่มัน ดูเหมือนฉันจะเจออะไรบางอย่างแล้ว ” น้ำเสียงที่ดูตกใจของหลินซูซิน ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
โดยเฉพาะเทพโอซีริสที่บรรลุแก่นแท้แห่งการทำนายในขอบเขตที่สูงกว่าผู้อื่น ยังต้องเพ่งสายตาพินิจดูตุ๊กตาหมีตรงหน้าหลายครั้ง พลางถอนหายใจออกมาด้วยความชื่นชมในความสามารถของอีกฝ่าย
‘ สมแล้วที่เป็นหนึ่งในศิษย์หลักทั้งสี่ของจักรพรรดินีเทพองค์ใหม่ เคล็ดวิชาทำนายของสำนักดาราสวรรค์ช่างล้ำลึกจริงๆ ’
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจ้าวเทียนที่ได้เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงในโลกวิญญาณของกระจกยาตะ แค่การที่หลินซูซินอาศัยเพียงแก่นแท้แห่งการทำนายที่ไม่สมบูรณ์ เอาชนะผู้บรรลุแก่นแท้แห่งการทำนายระดับกลางเช่นเขาได้ ก็พอจะสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแดนสวรรค์ได้แล้ว
“ ศิษย์พี่หญิง คุณทำสำเร็จแล้วใช่ไหม ” จ้าวเทียนรีบถามขึ้นด้วยความร้อนใจ
“ จะว่าสำเร็จก็คงพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะยังไม่รู้ถึงสถานที่ซ่อนกายของฝ่ายตรงข้าม แต่อย่างน้อยฉันก็พอจะรู้แล้วว่าผู้ที่ตัดแขนของเหยียนซืออู่เป็นใคร ” หลินซูซินพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ จากนั้นเธอก็สะบัดแขนกลมป้อมออกไปเบาๆ
แวบ!
ภาพของชายร่างใหญ่ผิวดำปรากฏขึ้นตรงกลางห้อง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสุนัขสีดำขนาดยักษ์ขู่คำรามขึ้นฟ้าดูน่าเกรงขาม
!!
“ อะไรกัน…นี่มันจะบ้ามากเกินไปแล้ว ” คังหลินอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ถึงแม้เขาจะถือกำเนิดบนแดนสวรรค์ แต่ก็เก็บตัวอยู่ภายในสำนักมาโดยตลอด จึงไม่รู้ถึงความสามารถของผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆนอกจากอาจารย์ของตนเอง
“ เจ้าจะตกใจก็ไม่แปลก เพราะดวงตาสวรรค์แท้จริงแล้วเป็นสมบัติล้ำค่าระดับพระเจ้า ที่มหาเทพอวี้หวงมอบให้แก่เทพเอ้อหลางหลอมรวมด้วยตนเอง มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าสมบัติชิ้นอื่นในระดับเดียวกันมาก ” เทพโอซีริสพูดขึ้นอย่างจริงจัง พลางส่งสายตาให้เทพีอามาเทราสุถอนตัวกลับไปพร้อมกัน
เพราะการแทรกแซงของวังสวรรค์และเทพเอ้อหลางถือเป็นปัญหาใหญ่มาก พวกเขาจำเป็นต้องส่งข้อมูลเรื่องนี้ขึ้นไปยังแดนสวรรค์ เพื่อปรึกษาหารือกับพันธมิตรของตนอย่างจริงจัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากมองส่งพวกเทพโอซีริสจากไปแล้ว จ้าวเทียนก็หันไปห้ามคังหลิน ที่กำลังหยิบแผ่นป้ายของสำนักขึ้นมา
“ ศิษย์พี่รอง เรื่องนี้ห้ามรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบเด็ดขาด พวกเราจะต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้น มันอาจจะส่งผลกระทบต่อศึกตัดสินชะตาระหว่างมหาเทพอวี้หวงกับท่านอาจารย์ในอีกสามปีให้หลังได้ ”
“ หืม…หรือนายคิดว่า จุดประสงค์ที่มหาเทพอวี้หวงส่งเทพเอ้อหลางลงมา ก็เพื่อรบกวนการฝึกฝนของท่านอาจารย์งั้นเหรอ ” คังหลินมองความหมายของจ้าวเทียนออกในทันที
“ ฉันก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่เราควรป้องกันเอาไว้ก่อน ”
“ ลูกเทียน แต่ความปลอดภัยของท่านตากับน้องสาวของลูก… ” เหยียนซือหนิงพูดขัดขึ้นด้วยความร้อนรน ตามความเข้าใจของเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นคงมีแต่อาจารย์ของบุตรชายเท่านั้นที่แก้ไขได้
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ
“ ต่อให้เลวร้ายที่สุด เรายังสามารถขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ปู่ได้สองครั้ง แต่ตอนนี้ในเมื่อเหลือแต่พวกเราแล้ว ศิษย์พี่หญิงคุณก็บอกความจริงให้ทุกคนได้รู้เถอะ ”
“ ผู้ที่สามารถแทรกแซงการทำนายของคุณ ทั้งยังจงใจเปิดเผยโฉมหน้าของเห่าฟ้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...