จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 466

ท่ามกลางกองซากศพและเศษซากอวัยวะที่ตกเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น กองกำลังผสมหลากหลายเผ่าพันธุ์กำลังเดินเก็บกู้สินสงครามของพวกตนอย่างยินดี

ถึงแม้จะสูญเสียพวกพ้องไปถึงหนึ่งในสามส่วน แต่เมื่อเทียบกับผลกำไรที่ได้ ก็ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม เพราะคู่ต่อสู้ของพวกเขาเป็นถึงทวยเทพที่จุติลงจากบนสวรรค์ ทั้งอาวุธเครื่องป้องกันรวมไปถึงสมบัติที่อยู่ในแหวนมิติ ล้วนไม่อาจพบพานได้บนโลกมนุษย์

“ นี่มัน ฉันรู้สึกได้ถึงพลังที่เอ่อล้นออกมา โฮกกกกก ” มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งร้องคำรามออกมาอย่างยินดี ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นเกือบสองเท่า ขนทุกเส้นเปล่งประกายและเงางามกว่าเดิม

“ ช่างเป็นเลือดที่ทรงพลังจริงๆ อีกไม่นานฉันจะต้องเลื่อนระดับกลายเป็นแวมไพร์ลอร์ดแน่นอน ” หนึ่งในแวมไพร์ขุนนางตระกูลแดรกคูล่าพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม พร้อมทั้งรีบเก็บโลหิตสีทองของเทพสวรรค์ใส่ขวดกลับไปให้ลูกหลานที่ไม่ได้เข้าร่วมศึกในวันนี้

“ แหวนมิติวงนี้ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง ความจุของมันมากกว่าของที่ฉันสวมอยู่นับร้อยเท่า สมแล้วที่เป็นสมบัติระดับสูงจากแดนสวรรค์ ”

“ หืม ฉันต้องการดาบเล่มนี้ มันเหมาะสมกับเคล็ดวิชาของฉันมาก ใครกล้ามาแย่งฉันพร้อมสู้ตายกับมัน ”

“ ช้าก่อน อย่าลืมข้อตกลงตอนแรกนะ สมบัติทั้งหมดต้องกันเอาไว้สามส่วนสำหรับพวกที่ตายไป เราจะส่งมันให้กับลูกหลานของพวกเขา ”

เสียงพูดคุยแบ่งปันสินสงครามดังขึ้นเรื่อยๆ แม้จะดูวุ่นวายอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าต่อสู้เพื่อแย่งชิงกัน เนื่องจากหวาดกลัวอำนาจของเหล่าผู้นำทั้งเจ็ดที่ยังคงยืนอยู่ตรงสถานที่นี้ด้วย

ตุบ!

ร่างของสุนัขสีดำขนาดใหญ่ที่โชกไปด้วยเลือด ถูกโยนลงไปบนพื้นตรงหน้าจ้าวเทียน สภาพของมันดูเลวร้ายเป็นอย่างมาก ขาทั้งสี่ข้างบิดงอผิดรูป

ตรงแผ่นหลังของมันมีรอยฉีกขาดลากยาวมาถึงโคนหาง ลึกจนเห็นกระดูกและเครื่องใน โชคดีที่ทรวงอกของมันยังขยับเบาๆ เป็นสัญญาณว่ายังมีคงชีวิตอยู่

“ นี่มัน เห่าฟ้างั้นหรือ ” นาจากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เขาไม่เคยพบเห็นอีกฝ่ายในสภาพน่าอนาถแบบนี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่อีกฝ่ายเกือบตายในสงครามใหญ่เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ก็ยังดูดีกว่านี้มาก

จากนั้น สายตาของนาจาก็กวาดมองไปยังแผ่นหลังอันสั่นเทาด้วยความโกรธของเทพเอ้อหลางครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วหลับตาลง

‘ สิ่งที่ข้ารู้มาคงเป็นเรื่องจริง เห่าฟ้าเป็นอสูรเทพที่แม่ทัพเอ้อหลางผูกพันที่สุด ยิ่งกว่าญาติพี่น้องของตนเอง การที่ต้องมาเห็นมันทุกข์ทรมานเช่นนี้ คงเจ็บปวดยิ่งกว่าเจอกับตนเองเป็นสิบเท่า ’

ในอดีตเคยมีผู้นำสำนักหนึ่ง ซึ่งเป็นขุมกำลังระดับสูงในสังกัดของอาณาจักรเทวะ พูดจาดูหมิ่นเห่าฟ้าจนเกิดการต่อสู้ขึ้น สุดท้ายเห่าฟ้าก็ถูกลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย

เมื่อเทพเอ้อหลางรู้ข่าวก็ละทิ้งภารกิจทุกอย่าง เพื่อบุกเดี่ยวเข้าไปช่วยเหลือสุนัขของตนและถล่มสำนักนั้นจนพังพินาศ มีเกือบแสนชีวิตต้องถูกสังหารไปเพราะโทสะของเขา

ต่อมาภายหลังเทพเอ้อหลางก็ไปคุกเข่าเพื่อยอมรับโทษต่อหน้ามหาเทพอวี่หวง และถูกทัณฑ์อัสนีทลายวิญญาณเก้าสิบเก้าครั้ง ทำให้ต้องพักรักษาตัวถึงหนึ่งพันปี

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งแดนสวรรค์ก็รับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างสุนัขกับเจ้าของคู่นี้ จนไม่มีใครกล้าไปกระตุกหนวดเสืออีก

บูมม!

ร่างของเทพเอ้อหลางได้ปลดปล่อยคลื่นพลังอันมหาศาลออกมา มันได้ผลักดันตาข่ายสีทองออกไปเกือบคืบ เกิดเป็นช่องว่างให้ตัวเขาสามารถลุกขึ้นมานั่งชันเข่าได้

“ พวกเจ้าชนะแล้ว ปล่อยเห่าฟ้าไปซะ แล้วจะทำอย่างไรกับตัวข้าก็ตามใจ ”

!!

“ หืม นี่ข้าได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า โดยปกติแล้วผู้แพ้มีสิทธิ์ต่อรองกับผู้ชนะด้วยงั้นเหรอ ” เทพโอดินพูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก

“ เอ้อหลาง ดูแล้วเจ้าคงจะผูกพันกับสุนัขตัวนี้มากใช่ไหม ถ้าข้าจำไม่ผิดเผ่าพันธ์อสูรอย่างมัน ไม่อาจสร้างร่างอวตารแบบปกติได้ จำเป็นต้องแบ่งแยกกายเนื้อและดวงวิญญาณออกเป็นสอง ”

“ หากมีร่างใดร่างหนึ่งถูกสังหารไป ส่วนที่เหลือก็จะได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสไปด้วย นอกจากจะสูญเสียอายุขัยไปครึ่งหนึ่งแล้ว จิตวิญาณก็จะบกพร่องไม่อาจเลื่อนระดับต่อไปในอนาคต ”

โฮ่ง หงิงๆ

เมื่อเทพีอามาเทราสุพูดจบ เธอก็สะบัดมือด้วยความรวดเร็ว เกิดเป็นคมมีดเปลวเพลิงเฉือนไปยังบาดแผลเก่าของเห่าฟ้า จนมันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ หึหึ ตอนที่พวกเจ้าสังหารน้องชายของข้า เคยคิดบ้างไหมว่าจะมีจุดจบแบบนี้ ”

“ อามาเทราสุ อย่าคิดทดสอบความอดทนของข้า ต่อให้บนโลกมนุษย์พวกเจ้าจะชนะ แต่บนแดนสวรรค์นั้นไม่เหมือนกัน ” เทพเอ้อหลางกัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธ มือทั้งสองข้างกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ทำให้เลือดสีทองหลั่งไหลออกมา

“ ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่คงทำให้เจ้าหยิ่งทะนงมากเลยสินะ ถึงตอนนี้แล้วยังคิดหรือว่าจะมีใครหวาดกลัวคำขู่ของเจ้า ” เทพโอซีริสพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมมองไปทางจ้าวเทียนเพื่อรอให้เขาตัดสินใจ

จ้าวเทียนกระชากให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยรังสีกระบี่สามสายออกไปฟันร่างของเห่าฟ้าขาดออกเป็นหกส่วน ปลิดชีพสุนัขสวรรค์ตัวนี้ไปในทันที

ฉัวะ!ๆๆๆๆๆ

“ เห่าฟ้า! ม่ายยยยย ” เทพเอ้อหลางกรีดร้องออกมาด้วยน้ำตาเป็นสายเลือด ร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ทันใดนั้น

แวบ!

ดวงตาที่สามของเทพเอ้อหลางที่ถูกกระแทกจนบอดไปแล้ว ก็เปล่งแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมา ปรากฏเป็นคัมภีร์สีทองม้วนหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

“ ราชโองการประกาศิตราชัน! ”

“ แย่แล้ว รีบหนีออกไปจากที่นี่เร็ว ” เทพโอซีริสร้องเตือนออกมาเสียงดัง พร้อมทั้งพยายามเปิดช่องว่างมิติเพื่อหลบหนี

แต่ทว่า มันกลับไม่มีผลแม้แต่น้อย เพราะตั้งแต่ที่ม้วนคัมภีร์สีทองถูกใช้งาน โลกทั้งใบก็เหมือนถูกผนึกไว้ด้วยมรรคาแห่งจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ ทำให้ไม่อาจเคลื่อนย้ายมิติได้

พรึบ!

ม้วนคัมภีร์สีทองได้เปิดผนึกด้วยตัวมันเอง ปรากฏเป็นอักษรสิบแถวลอยขึ้นไปบนฟ้า บรรยายถึงความดีความชอบของเทพเอ้อหลาง ขณะทำสงครามในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่

วูป!

พริบตาเดียวตัวอักษรทั้งหมดก็หลอมรวมกัน กลายเป็นบุรุษผู้หนึ่งในชุดคลุมจักรพรรดิสีทองลายมังกรห้ากงเล็บ สวมพระมาลาไข่มุกห้าแถว นั่งอยู่บนบัลลังก์จอมราชันที่ทั้งหรูหราและสง่างาม

นี่คือ… เจตจำนงของมหาเทพอวี่หวง ผู้ปกครองสูงสุดแห่งแดนสวรรค์อันยิ่งใหญ่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน