จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 471

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อพบเจอเรื่องร้ายๆมา ก็ย่อมต้องการสัมผัสเรื่องดีๆเพื่อเยียวยาจิตใจก่อนอยู่แล้ว

หลังจากที่ได้สบสายตากับสาวๆครู่หนึ่ง จ้าวเทียนจึงบอกให้โฮ่วอี้ยกเอาข่าวดีขึ้นมาพูดให้ทุกคนได้ฟังก่อน

“ ก่อนอื่นเลย ข้าจำเป็นต้องยืนยันเรื่องบางอย่างก่อน เจ้าช่วยเรียกให้ซวนเฉวียนปรากฏตัวออกมาหน่อยได้ไหม ” โฮ่วอี้มองไปทางลี่เหยาเหยาด้วยท่าทีจริงจัง

“ เอ่อ…ได้ค่ะ ” ลี่เหยาเหยาหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะส่งกระแสจิตไปปลุกเทพธิดาซวนเฉวียน ที่กำลังหลับใหลเพื่อฟื้นฟูความเสียหายอยู่ในร่างของเธอ

แวบ!

“ คารวะ ท่านผู้อาวุโส ” เทพธิดาซวนเฉวียนโค้งคำนับอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเธอทั้งซีดขาวและดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก

“ หืม อาการบาดเจ็บจากเวทต้องห้ามโบราณงั้นเหรอ ” โฮ่วอี้หยิบขวดหยกขึ้นมาเปิดจุกออก ทำให้มีหยดของเหลวสีฟ้าลอยออกมา จากนั้น เขาก็ส่งมันเข้าไปในริมฝีปากของเทพธิดาซวนเฉวียน

วูป!

ด้วยอานุภาพอันเหนือล้ำของวารีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ มันได้ช่วยเยียวยาเทพธิดาซวนเฉวียนจนสมบูรณ์พร้อมในไม่กี่อึดใจ ช่วยร่นระยะเวลาฟื้นฟูให้เธอไปได้หลายวัน

“ นี่มัน สมบัติลับต้นกำเนิด ขอบคุณท่านผู้อาวุโสมาก ที่ช่วยชำระล้างดวงวิญญาณให้ข้า ” เทพธิดาซวนเฉวียนรู้ดีว่าประโยชน์ของวารีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่ใช้รักษาเท่านั้น มันยังช่วยยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นหลายขั้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการตระหนักรู้แก่นแท้ได้รวดเร็วกว่าเดิมหลายสิบเท่า

มูลค่าของวารีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หนึ่งหยด แทบจะเทียบเท่าโลหิตแก่นแท้มังกรหนึ่งขวดเลยทีเดียว

“ พี่ชายของเจ้ากับข้า นับถือเป็นพี่น้องกัน เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ” พูดจบโฮว่อี้ก็หยิบเหรียญสีทองที่มีสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ออกมาเจ็ดเหรียญ

“ เจ้าลองตรวจสอบดูซิ ว่าหนึ่งในนี้ใช่กุญแจคลังสมบัติลับของจักรพรรดิเทพหมื่นตระวันหรือเปล่า ”

!!

“ ว่าไงนะ กุญแจคลังสมบัติลับงั้นเหรอ ”

“ จักรพรรดิเทพหมื่นตะวัน ที่เป็นผู้นำสิบจักรพรรดิแห่งยุคบรรพกาลใช่ไหม ”

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากถูกเปิดเผยออกไปย่อมสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจักรวาลแน่นอน

“ อาจารย์ปู่ ท่านมั่นใจเหรอ แต่ฉันไม่สามารถสัมผัสอะไรจากพวกมันได้เลยนะ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความสับสน เขาเป็นถึงผู้สืบทอดเคล็ดวิชาหมื่นตะวัน ก็น่าจะสัมผัสได้ชัดเชนมากกว่าผู้อื่น

“ รอดูไปเถอะ นี่คือความรอบคอบของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันเอง ชายคนนั้นไม่ต้องการให้เคล็ดวิชาและสมบัติตนเองตกอยู่ในมือคนชั่วร้าย จึงได้มอบทุกอย่างให้กับผู้สืบสายเลือดเดียวกัน ทำหน้าที่ส่งต่อไปอีกที ”

“ ถ้าข้าคาดเดาไม่ผิด แก่นแท้ดวงตะวันของเจ้าก็ได้รับมาจากซวนเฉวียนเหมือนกันสินะ ”

“ อาจารย์ปู่พุดถูกแล้ว ฉันได้รับมาจากเธอจริงๆ ” จ้าวเทียนพยักหน้ายอมรับ ในใจเขาอดรู้สึกชื่นชมในความเด็ดขาดของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันไม่ได้ หากต้องมีผู้สืบทอดเป็นคนชั่วร้าย ก็สู้ไม่มีซะเลยจะดีกว่า

แวบ!

ที่กลางหน้าผากของเทพธิดาซวนเฉวียน ได้ปรากฏเป็นสัญลักษน์รูปดอกโบตั๋นสีแดงขึ้น มันได้สาดแสงส่องไปกระทบเหรียญทั้งเจ็ดที่ลอยอยู่ เกิดเป็นม่านพลังโปร่งใสปกคลุมเอาไว้

วิ้ง!

หนึ่งในเหรียญทั้งเจ็ดได้เปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นมา และถูกดึงดูดจมหายเข้าไปในสัญลักษน์ดอกโบตั๋นของเทพธิดาซวนเฉวียน ทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ก่อนจะหลับตายืนนิ่งไปท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของทุกคน

ทันใดนั้น

บูมมม!

เมื่อเทพธิดาซวนเฉวียนลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สัญลักษณ์ที่กลางหน้าผากของเธอก็เปลี่ยนเป็นรูปดวงอาทิตย์สีทอง พร้อมทั้งระเบิดคลื่นพลังอันร้อนแรงออกมา จนโฮ่วอี้ต้องสร้างม่านพลังป้องกันคนอื่นๆเอาไว้

“ อาจารย์ปู่ นี่หรือว่าจะเป็น ” จ้าวเทียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจักรพรรดิยุคบรรพกาลจากร่างของเทพธิดาซวนเฉวียน ซึ่งมันเหมือนกับของโฮ่วอี้ไม่ผิดเพี้ยน

“ อืม อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ ” โฮ่วอี้ตอบกลับไปด้วยร้อยยิ้ม

ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่เทพธิดาซวนเฉวียนลืมตาขึ้นมา เธอก็กวาดมองใบหน้าของทุกคนด้วยท่าทีเหม่อลอย เหมือนกำลังขุดค้นความทรงจำของตนเองอยู่

ผ่านไปห้าลมหายใจ

!!

“ นี่มัน ไม่ได้นะ ”

“ ช้าก่อน ผู้อาวุโส ”

คราวนี้ไม่ใช่แค่จ้าวเทียนแล้วที่ออกอาการ ทั้งลี่เหยาเหยาและกงเสี่ยวเหมยต่างส่งเสียงร้องห้ามออกมาทันที แม้แต่โม่ปิงหยูเองก็ยังพยายามจะพูดบางอย่างออกมา แต่ก็ถูกโม่ซินหนานหยุดเอาไว้ก่อน

“ ผู้อาวุโส เรื่องนี้ ” จ้าวเทียนรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก เขากับเทพธิดาซวนเฉวียนมีความสัมพันธ์ฉันมิตรสหายเท่านั้น ไม่เคยคิดเกินเลยแม้แต่นิดเดียว

“ ไท่หยาง นี่เจ้าคิดจะทำอะไร หยุดเล่นสนุกได้แล้ว ” โฮ่วอี้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยเห็นสหายตนเป็นแบบนี้มาก่อน

“ โฮ่วอี้ ตอนนี้ตัวข้าได้ดับสูญไปนานแล้ว ทั้งตระกูลเหลือเพียงซวนเฉวียนผู้เดียวที่ยังคงอยู่ ในเมื่อเจ้าเด็กนี่มันทำเรื่องแบบนั้นไปแล้ว จะไม่รับผิดชอบได้งั้นรึ ”

!!

“ ช้าก่อน ผู้อาวุโส ฉันกล้าสาบานด้วยจิตวิญญาณของตนเอง ว่าไม่เคยทำอะไรที่เป็นการหมิ่นเกียรติเทพธิดาซวนเฉวียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ” จ้าวเทียนรีบพูดออกมาเสียงดัง เพื่อเป็นการปกป้องความความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งการแสดงออกของเขาก็ทำให้คนอื่นๆลดความสงสัยลงอย่างชัดเจน

“ เรื่องนี้ ฉันเป็นพยานให้ได้ ” ลี่เหยาเหยาพูดยืนยันขึ้นมาอีกเสียง เพราะเธอและเทพธิดาซวนเฉวียนอยู่ร่วมกันตลอด หากเกิดอะไรขึ้นไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้แน่นอน

“ หึหึ ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองคนกล้าพูดขนาดนี้ งั้นก็จงตอบข้ามา คืนใต้แสงจันทร์บนหลังคาคฤหาสน์ พวกเจ้าทั้งคู่ได้ทำสิ่งใดไปบ้าง ” ซวนไท่หยางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ เอ่อ… ” จ้าวเทียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ส่วนลี่เหยาเหยาก็เอามือปิดปากตนเองไว้ด้วยท่าทีเขินอาย เพราะเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำอันแสนหวาน ทำให้ทั้งคู่ยังจดจำได้ไม่มีวันลืมเลือน

“ เด็กน้อย เจ้าก็น่าจะรู้ใช่ไหม ว่าซวนเฉวียนกับคนรักของเจ้ามีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ทั้งความรู้สึกนึกคิด ทั้งความเจ็บปวดหรือความสุข พวกนางต่างแบ่งปันกันจนหมดสิ้น ”

“ ดังนั้น สิ่งใดที่เจ้าได้ทำลงไปกับคนรักของเจ้า ก็เหมือนได้ทำกับซวนเฉวียนด้วยเช่นเดียวกัน คิดหรือว่านางจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ”