จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 491

จ้าวเทียนไม่รู้ว่า ตนเองตกอยู่ในภาพความทรงจำอันเลวร้ายมาเนิ่นนานแค่ไหนแล้ว แต่ละวินาทีที่ผ่านพ้นในห้วงจิตสำนึกนี้เหมือนยาวนานนับปี

นอกจากจะสูญสิ้นพลังทั้งหมดกลายเป็นเพียงคนธรรมดาแล้ว เขายังต้องสัมผัสกับอดีตที่ถูกแย่งชิงคนรักและถูกทำร้ายจนตายไปด้วยความคับแค้นใจ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันดูสมจริงเป็นอย่างมาก ถึงขั้นได้กลิ่นคาวเลือดที่ไหลกบปากตัวเองด้วยซ้ำ

ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ใบหน้าของอดีตคู่หมั้นเขากลับถูกแทนที่ด้วยลี่เหยาเหยา บางครั้งก็เป็นกงเสี่ยวเหมย และหญิงสาวคนอื่นๆที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ความเจ็บปวดที่ถูกทรยศหักหลังนี้ ได้เกิดซ้ำไปซ้ำมาหลายร้อยหลายพันครั้งอย่างต่อเนื่อง

ทั้งความรู้สึกสิ้นหวังและความทุกข์ทรมานเจียนตาย ได้ถาโถมตรงเข้ามากัดกินจิตใจของจ้าวเทียนไม่จบไม่สิ้น

“ มนุษย์ เจ้าต้องการพลังเพื่อแก้แค้นหรือไม่ ”

“ …… ” จ้าวเทียนที่กำลังนอนจมกองเลือด เหม่อมองท้องฟ้าด้วยแววตาว่างเปล่า เขาจำเสียงสตรีที่ดูเย็นชานี้ได้ดี มันจะปรากฏขึ้นตลอดก่อนที่เขาจะตาย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ อาจจะพัน สองพัน หรือมากกว่านั้น

ผ่านไปอีกห้านาที ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับจากจ้าวเทียน เขาเลือกเมินเฉยฝ่ายตรงข้ามโดยสิ้นเชิง เพียงนอนรอความตายอย่างสงบเท่านั้น

“ เหตุใดต้องทำให้มันยุ่งยากด้วย คิดหรือว่าจะมีผู้ใดช่วยเหลือเจ้าได้ จงยอมมอบจิตวิญญาณแล้วกลายเป็นส่วนหนึ่งของข้าเสียเถอะ ”

“ ข้ารับปาก ว่าจะช่วยสังหารศัตรูทุกคนแทนเจ้าเอง จากนั้นพวกเราก็จะปกครองจักรวาลแห่งนี้ด้วยกัน ”

!!

จ้าวเทียนมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ที่ฝ่ายตรงข้ามยอมเอ่ยวาจามากกว่าหนึ่งประโยค เพราะที่ผ่านมาพอเขาแสดงท่าทีปฏิเสธ เสียงนี้ก็จะเงียบหายไปทันที

‘ เหอะ ดูเหมือนจะเป็นแกที่เริ่มร้อนรนแล้วสินะ ’

จ้าวเทียนยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะสิ้นใจตายไปอีกครั้ง เขามั่นใจว่าคราวหน้าอีกฝ่ายจะต้องแสดงตัวตนแท้จริงให้เห็น ไม่ใช่แค่เสียงเหมือนที่แล้วมาแน่นอน

ครืน!

เมื่อซากศพของจ้าวเทียนสลายไป ภาพทุกอย่างก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหมือนเศษกระจก

แวบ!

ร่างของสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งแมลงปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า มันมีรูปลักษณ์ท่อนบนเหมือนเด็กหญิงอายุประมาณสิบขวบ ส่วนท่อนล่างตั้งแต่สะโพกลงมาเป็นนางพญาผึ้ง มีขนสีดำแดงขึ้นแซมเป็นลวดลายรูปหัวกะโหลก

“ เหอะ! เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ เหตุใดเจตจำนงจึงแข็งแกร่งนัก หากไม่ใช่เพราะข้าต้องการใช้มันเป็นร่างพาหะ คงสังหารทิ้งให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปแล้ว ” ตัวอ่อนนางพญาแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ

ตัวเธอนั้นได้รับสืบทอดความทรงจำจากบรรพบุรุษ ทำให้ได้รับความสามารถทั้งหมดของเผ่าพันธุ์ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมา เลยมีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีมาก มองสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นเพียงอาหารหรือข้าทาสรับใช้

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าเหยื่อคนแรกของตัวเองจะเคี้ยวยากขนาดนี้ ขนาดทรมานอีกฝ่ายทั้งร่างกายและจิตใจ จนตายไปเกือบสองพันครั้งก็ยังไม่ยอมจำนนอีก

ตอนแรกที่ตัวอ่อนนางพญาได้อ่านความทรงจำของจ้าวเทียน ก็แทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความยินดี เพราะชายคนนี้เป็นถึงผู้สืบทอดของจักรพรรดิเทพหมื่นตะวัน ศัตรูสำคัญที่ทำให้เผ่าพันธุ์ของเธอล่มสลายไปเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน

จ้าวเทียนถือเป็นยอดอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงล้ำ และยังมีสมบัติทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วน นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เขาคือมหาเทพตี้เทียนที่ย้อนเวลากลับมาอีก ทั้งหมดนี้แทบจะรับประกันอนาคตอันโชติช่วงได้เลย

แม้แต่เผ่าพันธุ์ของเธอในยุคสมัยที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ยังไม่มีใครมีร่างพาหะเป็นจักรพรรดิเทพเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้ามีจริงๆก็ไม่พ่ายแพ้สงครามแน่นอน

“ หรือข้าจะกลืนกินมันซะแล้วค่อยไปหาร่างพาหะใหม่ดี ไม่สิ ถ้าทำแบบนั้นคงถูกขังอยู่ในมิติคลังสมบัติไปตลอดกาลแน่ ดีไม่ดีจะถูกเปลวเพลิงสุริยันของเก้าผู้พิทักษ์ เผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านเสียก่อนด้วยซ้ำ ”

สถานที่แห่งนี้ ได้รับการปกป้องโดยเจตจำนงจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันทั้งเก้ารุ่น หากจ้าวเทียนไม่อนุญาตใครก็อย่าหวังจะหลบหนีออกไปได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาเลือกกักขังตัวเองอยู่ในนี้

ซึ่งมันก็ได้ผลอย่างดีเยี่ยม เห็นได้ชัดว่าตัวอ่อนนางพญาเริ่มมีท่าทีร้อนรนยิ่งกว่าเดิม เพราะถึงแม้เธอจะได้รับความทรงจำจากบรรพบุรุษ แต่แท้จริงแล้วเธอก็เป็นเพียงทารกที่เพิ่งเกิดจากไข่ ย่อมมีความคาดหวังต่ออนาคตอันสดใสภายภาคหน้ามากกว่าผู้ใด

ความตายและการถูกผนึกจึงเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการพบเจอที่สุด…

“ ว่ายังไง จงเลือกให้ดีว่าจะยอมรอโอกาสครั้งหน้าหรือจะยอมตายวันนี้ เร็วเข้าล่ะ ก่อนที่เจตจำนงจักรพรรดิทั้งเก้าจะตัดสินใจทำลายร่างกายฉันเสียก่อน ” จ้าวเทียนเริ่มกดดันฝ่ายตรงข้ามเรื่อยๆ

“ อย่าคิดมาขู่ข้า ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก ตัวเจ้ายังมีครอบครัว มีคนรัก และภาระที่ต้องปกป้องผู้คนมากมาย ไม่มีทางยอมปล่อยให้ตัวเองตกตายไปก่อนแน่นอน ” ตัวอ่อนนางพญาพูดขัดขึ้นอย่างรู้ทัน

“ งั้นพวกเราก็มาเดิมพันกัน ว่าแกหรือฉันจะทนไม่ไหวก่อน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนแผนเบี่ยงแบนความสนใจศัตรู เพื่อถ่วงเวลาของเขาจะสำเร็จอย่างงดงาม

จ้าวเทียนคิดว่า ยิ่งเขาแสดงท่าทีไม่เกรงกลัวความตายมากเท่าไหร่ ตัวอ่อนนางพญาก็จะยิ่งลังเลไม่กล้าตัดสินใจมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล

‘ เกือบไปแล้ว หากฉันต้องถูกจับไปทรมานจนตายอีกซักหลายร้อยรอบ ก็คงทนรับมันไม่ไหวแน่ ได้แต่หวังว่าผู้อาวุโสอ๋าวเฟิงจะมีวิธีช่วยฉันจริงๆนะ ’

ในเวลาเดียวกัน

เทพมังกรอ๋าวเฟิงที่จ้าวเทียนเฝ้ารออยู่ ก็เพิ่งจะมาถึงอาณาเขตของสำนักดาราสวรรค์พอดี ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้จ้าวเทียนผิดหวัง เพราะในแหวนมิติของเขามีสิ่งที่สามารถช่วยเหลือจ้าวเทียนได้จริงๆ

มันคือเศษรังผึ้งสีดำขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งเป็นสิ่งที่จักรพรรดินีแมลงมารกลืนวิญญาณใช้ควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาในอดีต มูลค่าของมันเหนือกว่าอาวุธระดับพระเจ้าทั่วไปมาก

หากไม่ใช่เพราะเผ่าพันธุ์แมลงกลืนวิญญาณ ถูกวาดล้างไปจนหมดหลงเหลือเพียงตำนาน บางทีแม้แต่อาวุธระดับพระเจ้าสิบชิ้นก็ยังเทียบมันไม่ได้

‘ อ๋าวเฟยช่างโลภมากจริงๆ กับแค่เศษรังผึ้งชิ้นเดียว ข้าถึงกับต้องใช้สมบัติสามส่วนในคลังเข้าแลก หวังว่าจ้าวเทียนจะยังไม่ถูกครอบงำโดยสมบูรณ์นะ มิเช่นนั้นข้าคงขาดทุนย่อยยับจริงๆ ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน