จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 493

ภายในพื้นที่จิตวิญญาณของจ้าวเทียน รังจักรพรรดินีแมลงได้ลอยนิ่งอยู่ด้านข้างกระบี่ราชันสวรรค์อย่างสงบ มันได้ถูกเทพมังกรอ๋าวเฟิงจับบังคับทำพันธสัญญายอมรับเจ้านายคนใหม่

ซึ่งความจริงแล้ว ด้วยพลังของจ้าวเทียนในตอนนี้ยังห่างไกลที่จะกลายเป็นเจ้าของรังจักรพรรดินีแมลงอีกมาก

แต่เพราะความช่วยเหลือจากเทพมังกรอ๋าวเฟิง ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญในศาสตร์อาคมพันธสัญญาโบราณ ทำให้จ้าวเทียนได้รับสมบัติในตำนานชิ้นนี้ไปโดยไม่ต้องเปลืองแรงแม้แต่น้อย

“ เหตุใด ของสิ่งนี้จึงมาปรากฎที่นี่! ”

แมลงสีดำตัวหนึ่งหมอบคลานอยู่ตรงหน้ารังจักรพรรดินีด้วยความหวาดกลัว มันพยายามฝืนรั้งสัญชาตญาณของตนเอง ไม่ให้ยอมจำนนต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดความสามารถ

นี่คือร่างที่แท้จริงของตัวอ่อนนางพญา ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่าแมลงมารกลืนวิญญาณทั่วไปเกือบสองเท่า

ดวงตาสีแดงแปดคู่ กงเล็บอันแหลมคมหกข้างที่งอกจากกลางลำตัว ร่วมกับเขาสีทองสองอันลักษณะคล้ายมงกุฎที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผาก ทำให้มันดูแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

“ หืม ยังไม่ยอมแพ้อีกงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าอีกฝ่ายด้วยร่างจิตวิญญาณของตนเอง

“ บังอาจ! คิดจะให้นางพญาผู้สูงส่งอย่างข้ายอมสยบต่อมนุษย์ชั้นต่ำเช่นเจ้างั้นรึ ฝันไปเถอะ ”

บูมมม!

สิ้นเสียงเปลวเพลิงสุริยันอันร้อนแรงก็ปกคลุมร่างกายของตัวอ่อนนางพญาทันที ทำให้มันลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด

ถึงแม้พลังของจ้าวเทียนในตอนนี้จะไม่อาจสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ด้วยอานุภาพแห่งเปลวเพลิงขั้นสูงสุดในตำนาน ย่อมกำราบตัวอ่อนนางพญาที่ถูกผนึกพลังเอาไว้ได้ไม่ยากเย็นนัก

ฟูววว! ก๊าซซซซซ!

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังหยางบริสุทธิ์ที่เป็นขั้วตรงข้ามกับพลังมารร้ายของตน ตัวอ่อนนางพญาก็กรีดร้องโหยหวยออกมาเสียงดัง ร่างกายของมันบิดงอสั่นกระตุกไปมาอย่างทุกข์ทรมาน

“ ร้อนเหลือเกิน ปีกของข้าจะไหม้หมดแล้ว ”

“ ไอ้คนชั่ว แน่จริงก็มาต่อสู้กับข้าตรงๆ ”

“ พึ่งพาของแบบนี้ เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ”

“ ……….. ”

ทุกคำด่าที่ตัวอ่อนนางพญาเรียนรู้จากความทรงจำของบรรพบุรุษ ได้ถูกมันหยิบยกเอาใช้แทบทั้งหมด เพื่อบรรเทาความโกรธแค้นในใจของตนเอง

“ เหอะ แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้าเทียบกับสิ่งที่แกทำไว้กับฉัน ” จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยท่าทีเฉยชา ตัวเขาถูกฝ่ายตรงข้ามใช้ภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายในอดีตมาทรมานจนตายนับร้อยนับพันครั้ง จะให้ไม่รู้สึกโกรธแค้นเลยก็คงเป็นไปไม่ได้

“ ในเมื่อแกชอบเล่นสนุกกับความรู้สึกในหัวใจของมนุษย์มากใช่ไหม งั้นก็ลองสัมผัสมันดูบ้างก็แล้วกัน ” พูดจบ จ้าวเทียนก็ใช้พลังของรังจักรพรรดินีดึงตัวอ่อนนางพญาเข้าสู่ห้วงจิตสำนึก แล้วให้ไปเผชิญหน้ากับความทรงจำอันเลวร้ายแบบที่เขาเคยโดนบ้าง

ถึงแม้อีกฝ่ายจะเพิ่งถือกำเนิดมา แต่เพราะได้รับความทรงจำจากบรรพบุรุษ จึงมีหลายภาพเหตุการณ์ที่จ้าวเทียนสามารถหยิบยกเอามาใช้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เผ่าพันธุ์แมลงมารกลืนวิญญาณถูกกวาดล้างจนล่มสลาย

“ ก๊าซซซซ นี่มัน ไม่นะ เจ้ามีพลังนี้ได้อย่างไร ”

” ไอ้พวกชั้นต่ำ อย่าสังหารพี่น้องข้า ”

“ ข้าจะต้องล้างแค้น พวกเจ้าทั้งหมดต้องกลายเป็นอาหารของพวกเรา ”

ตอนนี้จ้าวเทียนกลายเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น เขาถือโอกาสรวบรวมข้อมูลที่ไม่เคยถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไปในตัว

ยิ่งเมื่อได้เห็นแสนยานุภาพอันกล้าแกร่ง ของกองทัพผสมระหว่างเทพและมารที่ต่อสู้เพื่อปกป้องจักรวาลของตนเอง มันก็ทำให้เขารู้สึกมีอารมณ์ร่วมขึ้นมาไม่น้อย

ที่สำคัญที่สุดเขายังได้เห็นเคล็ดวิชาเทวะขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นไม้ตายลับของสิบจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาลรุ่นแรกๆ นี่ถือเป็นประสบการณ์อันแสนล้ำค่าที่มีโอกาสน้อยมากจะพบเจอ

“ หืม ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าแก่นแท้กาลเวลาจะสามารถหลอมรวมกับกฎแห่งธาตุทั้งสี่ได้ อีกทั้งยังมีการผสานอาวุธศักดิ์สิทธิ์เข้ากับกายทิพย์ ก่อเกิดร่างนวโลหะบรรพกาลซึ่งโดดเด่นในการโจมตีและป้องกัน นับว่าเป็นวิชายกระดับกายเนื้อที่เลิศล้ำจริงๆ ”

จ้าวเทียนจ้องมองการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งยุคบรรพกาล พร้อมกับเริ่มปรับปรุงแนวคิดเก่าๆที่มีอยู่เดิมไปด้วย

“ เรียนองค์จักรพรรดินีเทพ เรื่องทั้งหมดก็เป็นตามที่ข้าได้เล่าไป ครั้งนี้หากไม่ได้ศิษย์ของท่านเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือ พวกข้าสามแม่ลูกคงกลายเป็นเครื่องเซ่นสังเวยให้พวกมารไปแล้ว ”

“ ส่วนเรื่องที่ผู้อาวุโสท่านนั้น ต้องยอมพลีชีพเพื่อขับไล่เทพมารต่างภพกลับไปยังมิติโกลาหล ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความอ่อนแอของพวกข้าเอง ขอเชิญองค์จักรพรรดินีลงทัณฑ์ที่ข้าแต่เพียงผู้เดียวเถิด ”

ปิงกู่เหนียงเหนียงคุกเข่ารายงานทุกสิ่งทุกอย่างให้หลินซินเยว่ฟังด้วยความนอบน้อม แม้ตัวเธอจะเคยมีตำแหน่งอันสูงส่งในราชวงศ์จักรพรรดิโลกอสูร แต่ก็ไม่อาจเสียมารยาทต่อหนึ่งในสองจักรพรรดิเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ได้

ทั้งศักดิ์ฐานะและความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย แตกต่างกันเกินไปดุจแสงหิ่งห้อยกับแสงจันทร์ หากสตรีที่อยู่ตรงหน้าเกิดไม่พอใจขึ้นมา ไม่ใช่แค่เพียงตระกูลของเธอที่ต้องรับเคราะห์ แต่จะเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกแห่งอสูรที่จะพลอยรับเคราะห์ไปด้วย

“ นี่เป็นความต้องการของบิดาข้าเอง ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก จงลุกขึ้นเถอะ ” หลินซินเยว่มองปิงกู่เหนียงเหนียงด้วยความสงสาร ในฐานะสตรีคนหนึ่ง เธอเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายต้องฝืนทนต่อชะตากรรมอันเลวร้ายมามากขนาดไหน

“ ขอบคุณ องค์จักรพรรดินีที่เมตตา ” ปิงกู่เหนียงเหนียงพูดขึ้นด้วยท่าทีโล่งใจ พร้อมกับพาบุตรีทั้งสองลุกขึ้นช้าๆ

“ ท่านอาจารย์ ข้ามีความเห็นบางอย่างไม่รู้ว่าท่านจะเห็นชอบหรือไม่ ในเมื่อเด็กน้อยทั้งสองผูกพันธสัญญาชีวิตกับศิษย์น้องไปแล้ว เราควรรับพวกเธอมาดูแลจะเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้พวกเธอกลับไป ข้าเกรงว่าจะถูกพวกราชวงศ์ฝ่ายองค์ชายลอบสังหารเข้าสักวัน ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ เรื่องนี้ … ” หลินซินเยว่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อสังเกตเห็นท่าทีโล่งใจของปิงกู่เหนียงเหนียง เธอก็รู้ได้ว่าศิษย์คนรองของเธอคงแอบไปทำข้อตกลงบางอย่างกับอีกฝ่ายไว้ก่อน

“ ท่านอาจารย์ ข้าได้สอบถามสถานการณ์ในราชวงศ์ของจักรพรรดิโลกอสูรมาแล้ว มันหาใช่สถานที่ที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของเด็กทั้งสอง ที่ได้ปลุกสายเลือดของบรรพชนไม่ สู้ให้พวกนางติดตามศิษย์น้องบนโลกมนุษย์มันจะส่งผลดียิ่งกว่า ”

“ ด้วยการสนับสนุนของสำนักเรา และทรัพยากรจำนวนมหาศาลที่ศิษย์น้องได้รับมา รับรองว่าพวกนางจะกลายเป็นกำลังสำคัญในอนาคตให้กับเขาได้แน่นอน ” พูดจบ คังหลินก็ไปขยิบตาให้เด็กหญิงเผ่ากิเลนทั้งสอง

“ ท่านย่า พวกเราอยากอยู่กับท่านพ่อ ”

ปิงกู่ลั่วกับปิงกู่เยว่พูดขึ้นพร้อมกัน พร้อมรีบเข้ามากอดขาทั้งสองข้างของหลินซินเยว่ไว้แน่น ด้วยใบหน้าเล็กๆที่ใสซื่อบริสุทธิ์ และดวงตาสีทับทิมกลมโตเปล่งประกายระยิบระยับ ความน่ารักของพวกเธอมันกลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ยากจะต้านทานสำหรับสตรีทุกคน

“ พวกเจ้า อย่าเสียมารยาทสิ ” ปิงกู่เหนียงเหนียงรีบร้องห้ามขึ้นด้วยความตกใจ เธอไม่นึกว่าบุตรีทั้งสองจะใจกล้าขนาดนี้ อีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดิเทพที่ยกมือเพียงครั้งเดียวก็สามารถบดขยี้จักรพรรดิโลกอสูรได้เลยนะ

“ ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสากับเรื่องแค่นี้หรอก ” หลินซินเยว่ก้มลงไปลูบหัวเด็กทั้งสองด้วยความเอ็นดู ยิ่งเมื่อเด็กหญิงทั้งสองใช้เขากิเลนคู่น้อยๆมาเสียดสีที่ฝ่ามือของเธอ มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

ทางด้านคังหลินที่เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ เขาก็แอบหัวเราะชั่วร้ายในใจ พลางนึกถึงตอนที่จ้าวเทียนพาเด็กทั้งสองกลับไปยังโลก แล้วไปพบเจอกับเหล่าสาวงามที่เฝ้ารออยู่ มันคงกลายเป็นช่วงเวลาดีๆที่น่าจดจำแน่นอน