จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 500

การปรากฏตัวของกองกำลังฝ่ายที่สามได้สร้างความกดดันให้พวกโจรสลัดอวกาศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับตัวผู้นำอันดับสองเอง เพราะสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งอันไม่ธรรมดาของคนกลุ่มนี้

‘ เทพโลกาขั้นเก้าระดับสูง 1 คน เทพโลกาขั้นแปด 3 คน ส่วนอีก 6 คนที่เหลือเป็นเทพโลกาขั้นเจ็ดงั้นรึ หรือนี่จะเป็นกองกำลังจากจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ ว่าแต่พวกมันมาที่นี่เพราะเหตุใดกัน ’

‘ หืม ไม่สิ ดูจากเจตนาสังหารในแววตาของพวกมัน คงไม่ใช่ว่าเป็นศัตรูเก่าของไอ้เด็กนี่หรอกนะ บางทีข้าอาจใช้พวกมันเป็นเครื่องมือได้ ’

ผู้นำอันดับสองเริ่มคิดแผนการชั่วร้ายในใจอย่างเงียบๆ ในขณะที่สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง มันคงจะดีที่สุดถ้าฝ่ายตรงข้ามทั้งสองต่อสู้กันจนย่อยยับไปทั้งคู่ พวกเขาจะได้เป็นผู้ชนะโดยไม่สูญเสียสิ่งใด

ในเวลาเดียวกัน

ไม่ใช่แค่ทางฝ่ายโจรสลัดอวกาศที่รู้สึกสับสนกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น พวกเจ้าตระกูลมู่ที่เพิ่งจะฉีกมิติมาถึงก็มีอาการตกใจไม่แตกต่างกัน

เพราะพวกเขาเร่งเคลื่อนย้ายมิติ ติดตามกลิ่นอายสายโลหิตขององค์หญิงทั้งสองมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ทำให้ไม่ได้ตรวจสอบจุดหมายให้ชัดเจนเสียก่อน ผลลัพธ์จึงกลายเป็นสถานการณ์ในปัจจุบัน

‘ คนพวกนี้หรือว่าจะเป็นโจรสลัดอวกาศ บัดซบเอ้ย เหตุใดไอ้พวกเศษสวะนี่จึงสอดแทรกเข้ามาได้ หรือต่อให้มันอยากจะปล้นชิงจริงๆ ทำไมไม่สังหารไอเด็กนั่นให้สิ้นเรื่องสิ้นราว จะกักขังไว้จนพวกข้ามาถึงเพื่ออะไร ’

เจ้าตระกูลมู่ก่นด่าฝ่ายตรงข้ามในใจด้วยความหงุดหงิด หากนายน้อยสี่แห่งสำนักดาราสวรรค์กับพวกองค์หญิงถูกโจรสลัดอวกาศสังหาร พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำงานสกปรกเอง ทั้งยังรอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมดอีกด้วย

‘ เดี๋ยวนะ ข้าน่าจะสามารถใช้ไอ้โจรสวะพวกนี้ให้เป็นประโยชน์ได้นี่ ’

เมื่อคิดแผนการดีๆได้ เจ้าตระกูลมู่ก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เริ่มทำอะไร จ้าวเทียนที่นิ่งเงียบมาตลอดก็ชิงลงมือก่อน

“ ท่านคงเป็นเจ้าตระกูลมู่ใช่ไหม ไม่นึกเลยว่าฉันขอความช่วยเหลือไปไม่นาน จักรพรรดิโลกอสูรก็รีบส่งพวกท่านมาช่วยองค์หญิงทั้งสองแล้ว ”

!!

“ ห๊ะ ข้าไม่ใช่ ” เจ้าตระกูลมู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ราวกับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยตั้งแต่เริ่มและก็เพราะท่าทีอ้ำอึ้งของเขานี่เอง ทำให้จ้าวเทียนมีโอกาสพูดแทรกขึ้นมาได้อีกครั้ง

“ ข้าจ้าวเทียน ศิษย์หลักอันดับสี่ของจักรพรรดินีเทพหลินซินเยว่แห่งสำนักดาราสวรรค์ ต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่านมากสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ ”

“ มาเถอะ พวกเรามาช่วยกันกวาดล้างโจรสลัดอันน่ารังเกียจให้หมดสิ้นไป อย่าให้พวกมันได้มีโอกาสทำเรื่องชั่วๆอีก ”

หมากตานี้ของจ้าวเทียน นับว่าโหดร้ายสำหรับศัตรูทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก เมื่อตัวตนที่แท้จริงของจ้าวเทียนถูกประกาศออกไปแล้ว ก็ไม่มีช่องว่างให้โจรสลัดอวกาศกับเจ้าตระกูลมู่สามารถร่วมมือกันได้อีก

“ บัดซบ นี่เจ้าเป็นศิษย์ของจักรพรรดิเทพองค์ใหม่งั้นรึ ” ผู้นำอันดับสองสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีมั่นใจในตอนแรกพังทลายไปในพริบตา

เขามองออกว่ากลุ่มคนที่มาใหม่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ดีต่อจ้าวเทียน จึงไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของจ้าวเทียนตั้งแต่ต้น ทั้งยังมีความคิดจะใช้ประโยชน์จากฝ่ายตรงข้ามในการจัดการกับจ้าวเทียนอีกด้วย

แต่ทว่า แผนการทุกอย่างก็เป็นอันต้องล้มเลิกไป เมื่อสถานะของจ้าวเทียนถูกเปิดเผยออกมา เพราะหากเรื่องในครั้งนี้แพร่กระจายออกไป จักรพรรดิเทพองค์ใหม่คงไม่อยู่เฉยแน่นอน

ในจักรวาลแห่งนี้มีสัจธรรมอยู่ข้อหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังถูกหยิบยกมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับโจรร้ายหรือมือสังหาร

คนเป็นต่อให้ซื่อสัตย์ขนาดไหนก็เชื่อถือไม่ได้ มีแต่คนตายเท่านั้นที่เก็บความลับได้ดีที่สุด

ดังนั้นทางเลือกอย่างเดียวของพวกโจรสลัดอวกาศ จึงมีเพียงสังหารพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทิ้งและหลบหนีไปยังสถานที่ห่างไกล และรอจนกว่าโทสะของจักรพรรดิเทพจะคลายลงแล้วค่อยกลับมาใหม่

ทันใดนั้น

“ ท่านผู้อาวุโสมู่ ฉันเข้าใจนะ ว่าท่านต้องการหลอกใช้พวกโจรสลัดกลุ่มนี้ให้มาบาดเจ็บล้มตายก่อน แล้วรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในภายหลัง แต่ก็ไม่ควรมากล่าวหาว่าฉันพูดเท็จนะ มันจะทำให้ท่านดูเหมือนพวกลวงโลกเสียเปล่าๆ”

“ ลองดูแผ่นป้ายศิษย์หลักสำนักดาราสวรรค์ กับตราราชวงศ์จักรพรรดิขององค์หญิงทั้งสองที่อยู่ในมือฉันสิ นี่คือหลักฐานว่าที่ฉันพูดไปเป็นเรื่องจริงทุกประการ ”

สิ้นเสียงจ้าวเทียน แววตาของพวกโจรสลัดที่เผลอหลงเชื่อเจ้าตระกูลมู่ก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ จิตสังหารของพวกเขาระเบิดออกมารุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า

และเหมือนจ้าวเทียนจะยังรู้สึกว่ายังสาดน้ำมันลงไปในกองไฟไม่มากพอ จึงพูดกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง

“ ที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ตัวฉันเองก็ถูกขังอยู่ในค่ายกลหลบหนีไปไหนไม่ได้ และความแข็งแกร่งของพวกคุณก็เหนือกว่าฉันมาก ต่อให้สู้กันจนบาดเจ็บล้มตายไปกว่าครึ่งก็ยังเอาชนะฉันได้อยู่ดี ”

“ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าพวกคุณอยากจะสังหารฉันก่อนก็ลงมือได้เลย แต่ฉันจะสั่งให้หุ่นเชิดตัวนี้พุ่งเข้าระเบิดตัวเองใส่ฝ่ายที่โจมตีเข้ามา จะได้มีสหายร่วมทางไปนรกเยอะๆ ส่วนผู้ที่รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ก็สบายไป ”

“ ไอ้เด็กบัดซบ นี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ ” แม้เจ้าตระกูลมู่จะโกรธจนแทบกระอักเลือด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเรื่องจริงทุกประการ

ตั้งแต่ที่ตัวตนแท้จริงถูกเปิดเผย เขาก็ไม่มีความคิดที่จะไว้ชีวิตพวกโจรสลัดอยู่แล้ว

สุดท้ายการสังหารฝ่ายตรงข้ามโดยเร็วที่สุด จึงเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่

“ มือสังหารเงาอสูรทมิฬ รับคำสั่ง ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือ! ”

“ พี่น้องทั้งหลาย ตามข้าไปสังหารพวกมันให้หมด ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ”

สิ้นเสียงของผู้นำทั้งสอง สงครามระหว่างโจรสลัดอวกาศกับนักฆ่าแห่งเผ่าอสูรก็เปิดฉากขึ้นทันที ผู้ชนะได้ครองทุกสิ่ง ส่วนผู้แพ้ก็มีแต่ความตายที่รออยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน