จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 499

ผู้ฝึกตนระดับต่ำสามารถสังหารเทพโลกาขั้นสามในกระบวนท่าเดียวได้อย่างไร คำถามนี้ปรากฏขึ้นในใจทุกคนที่พบเห็น แม้กระทั่งชายชราชุดดำที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ก็ยังยอมรับว่าตนไม่อาจต่อสู้ข้ามระดับแบบนี้ได้

ช่องว่างความแข็งแกร่งระหว่างผู้ที่มีโลกภายขั้นสมบูรณ์กับไม่สมบูรณ์นั้น ต่างกันราวฟ้ากับดิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายเป็นถึงเทพโลกาขั้นสามซึ่งทรงพลังเหนือกว่าขั้นแรกนับสิบเท่า

แต่ถึงแม้พวกโจรสลัดจะรู้สึกตกใจขนาดไหน ความจริงที่ว่าหนึ่งพวกมันถูกจ้าวเทียนสังหารก็ไม่เปลี่ยนแปลง และยิ่งมองเห็นศีรษะโชกเลือดลอยเคว้งอยู่ในอวกาศ ความโกรธเกลียดเครียดแค้นก็เข้ากลืนกินสติสัมปชัญญะทันที

“ บัดซบ กล้าสังหารพี่น้องข้า จงตายซะ! ”

“ พวกเราฆ่ามัน แก้แค้นให้พี่เปา ”

“ ไอหนู ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆเอาไปเลี้ยงสุนัข ”

ไม่ใช่แค่เพียงพวกลูกสมุนโจรเท่านั้น แม้แต่ระดับหัวหน้าหน่วยทั้งห้าที่มีพลังระดับเทพโลกาขั้นหก ก็ยังคิดพุ่งเข้ามาสังหารจ้าวเทียน บดขยี้เขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในคราวเดียว

สาเหตุสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะพวกเขารู้สึกรักผูกพันกับผู้ตายมากจนต้องการแก้แค้นเจ้าเทียน เพราะถึงอย่างไรเรื่องเข่นฆ่ากันเองเพื่อผลประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาทำกันปกติอยู่แล้ว

ปัญหามันอยู่ที่ ผู้ลงมือคราวนี้กลับเป็นเพียงเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์อายุยี่สิบปีคนหนึ่ง หากปล่อยให้เรื่องนี้หลุดออกไป กองโจรอสูรทมิฬผู้ยิ่งใหญ่อย่างพวกเขาที่ยืนมองดูสหาย ถูกผู้ฝึกคนระดับต่ำสังหารไปต่อหน้าต่อตาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“ หยุดมือ เดี๋ยวนี้! ”

เสียงตวาดอันเย็นชา มาพร้อมกับคลื่นพลังอันเกรี้ยวกราดของเทพโลกาขั้นเก้า สะกดเหล่าโจรสลัดที่กำลังบ้าคลั่งให้หยุดนิ่งลงทันที

พวกโจรสลัดทำตามคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง ไม่กล้าขยับร่างกายแม้เพียงปลายนิ้วราวกับรูปปั้นก็ไม่ปาน เพราะถ้าไปขัดใจชายชราชุดดำเข้า ชีวิตหลังจากนี้คงเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

“ ไอพวกโง่ โดนศัตรูล่อให้เข้าไปตายยังไม่รู้ตัวอีก ลองตรวจสอบอาวุธชุดเกราะของไอเด็กนี่ดูดีๆ ล้วนแต่เป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดทั้งนั้น แม้แต่จักรวรรดิตงฟางที่ปกครองดวงดาวนับพัน ยังไม่กล้าส่งมอบสมบัติล้ำค่าเยี่ยงนี้ให้กับผู้เยาว์ของพวกเขาเลย ”

“ หากให้ข้าเดา ไอเด็กนี่มันคงจะมีค่ายกลสังหารหรือไม่ก็บางสิ่งบาอย่างที่สามารถกำจัดพวกเจ้าในครั้งเดียว มันจึงต้องการกระตุ้นให้พวกเจ้าเข้าไปใกล้ตัวด้วยความประมาท ”

ชายชราชุดดำเจตนาวิเคราะห์ออกมาเสียงดัง นอกจากจะเป็นการบอกกล่าวกับผู้ใต้บัญชาแล้ว ยังเป็นคำเตือนส่งไปถึงจ้าวเทียนด้วย ว่าแผนการชั้นต่ำแบบนี้ไม่อาจเล็ดลอดสายตาเขาไปได้

“ เหอะ ไอจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ” จ้าวเทียนแค่นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามมองออกแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเก็บซ่อนอีก

วูป! ฮูมมมมมม!

เพียงจ้าวเทียนสะบัดมือเบาๆ เปลวเพลิงสีทองก็ระเบิดขึ้นจากความว่างเปล่า ปรากฏเป็นอีกกาทองคำสามขา หุ่นเชิดผู้พิทักษ์ระดับเทพโลกาขั้นเก้าซึ่งมีพลังไม่ด้อยกว่าชายชราชุดดำแม้แต่น้อย

“ นี่มัน สัตว์เทวะยุคบรรพกาล ไม่ซิ กลิ่นอายไร้ชีวิตแบบนี้ หุ่นเชิดงั้นเหรอ ”

“ เทพโลกาขั้นเก้า! บัดซบ ไอเด็กนี่มีผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร ”

“ โชคดีที่ท่านผู้นำอันดับสองรู้ทันความคิดมัน ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเราโถมเข้าไปพร้อมกัน คงถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านไปกว่าครึ่งแน่ ”

จากความรู้สึกไม่พอใจในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวและสำนึกบุญคุณอย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของโจรสลัดพวกนี้ก็คือชีวิตของตนเอง เพราะต่อให้มีทรัพย์สมบัติมากมายขนาดไหน หากต้องตายไปมันก็ไร้ประโยชน์

ทันใดนั้น เพียงหนึ่งลมหายใจที่หุ่นเชิดของจ้าวเทียนปรากฏตัว โซ่ตรวนสีดำเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเส้นก็ระเบิดออกมาจากความว่างเปล่า มันเรียงต่อกันกลายเป็นกรงขนาดใหญ่ขังพวกเจ้าเทียนเอาไว้ด้านใน

“ แต่ได้โปรดให้ความช่วยเหลือน้องสาวของข้าได้หรือไม่ แค่นางผู้เดียวเท่านั้น ส่วนตัวข้าและองค์รักษ์ทั้งสองยินดีสู้จนตัวตายเพื่อถ่วงเวลาให้ท่านหลบหนีเอง ”

เมื่อส่งกระแสจิตให้จ้าวเทียนเรียบร้อย หญิงสาวโค้งตัวให้อย่างนอบน้อม แม้จะยังรู้สึกหวาดกลัวในชะตากรรมที่ต้องเผชิญ แต่ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเธอก็ยังรักษาลักษณะของสตรีผู้สูงศักดิ์เอาไว้

‘ นี่มัน เผ่าภูติดาราศักดิ์สิทธิ์ในตำนานงั้นเหรอ ไม่นึกเลยว่าเผ่าพันธุ์ที่หายสาบสูญไปนับสิบล้านปีจะมาปรากฏตรงหน้าฉัน ’

เดิมทีจ้าวเทียนไม่ได้ให้ความสนใจต่อคนที่เขาต้องการจะช่วยเหลือมากนัก เพราะต้องใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการรับมือศัตรู แต่เมื่อเขาได้เห็นรูปโฉมของหญิงสาวทั้งสองเต็มตา ก็ถึงกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะหนึ่ง

แม้พวกเธอจะมีอายุเพียงสิบหกสิบเจ็ดปียังไม่ถึงวัยที่เปล่งประกายจนถึงขีดสุด แต่ทั้งใบหน้าอันงดงามบริสุทธิ์และเรือนร่างที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตรึงใจ ก็สามารถมอมเมาหัวใจของบุรุษเพศได้อย่างง่ายดาย

นี่ยังไม่รวมใบหูแหลมเรียวเหมือนพวกเอลฟ์ในภาพยนตร์และเส้นผมสีดำที่เปล่งกระกายระยิบระยับเหมือนแสงดาว สิ่งเหล่านี้มันทำให้พวกเธอดูน่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิม ซึ่งในบรรดาสาวงามที่จ้าวเทียนรู้จักมาทั้งหมดในชีวิต มีไม่กี่คนเท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้

‘ โชคดีที่ฉันมีภูมิต้านทานเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถึงเผลอตัวไปเพียงครู่เดียว ไม่อย่างนั้นคงต้องอับอายขายหน้าแน่ ’

ทางฝ่ายหญิงสาวที่เห็นจ้าวเทียนจ้องมองเธอจนตาค้าง ก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจแต่อย่างได เนื่องจากเคยชินกับเหตุการณ์ทำนองนี้อยู่แล้ว

“ บอกองครักษ์ของเธอ ให้รอฟังคำสั่งจากฉัน พวกเราจะรอดไปด้วยกันทั้งหมด ไม่จำต้องให้ใครมาเสียสละ ” จ้าวเทียนส่งกระแสจิตกลับไปสั้นๆ ก่อนที่จะหันไปมองชายชราชุดดำอีกครั้ง

ทว่า ยังไม่ทันที่ทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มต้นปะทะคารมกันต่อ กำแพงมิติทางด้านหนึ่งก็ถูกฉีกเปิดออก จากนั้นกลุ่มคนสวมชุดคลุมสีแดงปกปิดใบหน้าก็ทยอยกันก้าวเดินออกมาช้าๆ

ในที่สุดสถานการณ์อันเลวร้ายที่จ้าวเทียนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น มันก็เป็นจริงจนได้เพราะมือสังหารจากราชวงศ์จักรพรรดิอสูรได้มาถึงแล้ว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน