จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 523

เช้าวันต่อมา หน่วยรบพิเศษร่างใหญ่ใบหน้าดุดัน เดินถือถาดเนื้อย่างรมควันกับขวดน้ำอัดลมไปวางไว้ด้านข้างชายหนุ่มสองคนที่กำลังตกปลาอยู่ตรงกาบเรือ

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือมีใบหน้าคมเข้มผิวสีแทน ใส่กางเกงทหารกับเสื้อกล้ามสีดำ สวมหมวกแก๊ปไว้บนศีรษะ ส่วนอีกคนมีใบหน้าอ่อนโยน ไว้ผมยาวรวบไว้ด้านหลัง ใส่ชุดลำลองปล่อยตัวตามสบาย

แทบไม่ต้องคิดให้มากความ ชายหนุ่มคู่หูสองคนนี้ก็คือเฉินจิ้งกับหวังซินหยาง ลูกน้องคนสนิทที่เปรียบเสมือนมือซ้ายและมือขวาของจ้าวเทียนนั่นเอง

“ ขอบใจมากอาเว่ย ว่าแต่นายสนใจมาตกปลาด้วยกันไหม นานๆถึงจะได้มีวันหยุดสักที ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่านะ ” เฉินจิ้งยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับยื่นคันเบ็ดตกปลาให้อีกฝ่ายอย่างใจกว้าง

“ ไม่เป็นไรครับผู้บัญชาการเฉิน พอดีผมพาลูกเมียมาด้วย เดี๋ยวก็ต้องกลับไปว่ายน้ำเล่นกับพวกเขาที่สระน้ำด้านบนแล้ว ”

“ อะไรนะ นี่นายแต่งงานแล้วงั้นเหรอ ” หวังซินหยางที่กำลังตกปลาอยู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาตัวสูงเกือบสองเมตร ลำตัวหนาใหญ่เหมือนหมีควาย ทั้งยังไว้หนวดเคราราวกับโจรป่า

ขนาดหวังซินหยางเองตอนเจอหน้าอีกฝ่ายครั้งแรกยังถึงกับผงะถอยหลัง ไม่นึกเลยว่าจะมีผู้หญิงมาหลงรักผู้ชายแนวนี้

“ หึหึ ซินหยาง นายอย่าดูถูกอาเว่ยเชียว ในสี่หน่วยรบที่ฉันดูแลอยู่ เขาได้รับความนิยมจากสาวๆสูงมาก โดยเฉพาะตอนนี้ที่เขากลายเป็นเซียนก็ยิ่งดึงดูดความสนใจมากกว่าเดิม ถ้าไม่ติดที่มีลูกมีเมียอยู่แล้ว คงมีสาวน้อยสาวใหญ่ไปเคาะประตูห้องกลางดึกทุกคืน ” เฉินจิ้งพูดอวดลูกน้องตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ

“ ผู้บัญชาการเฉินก็พูดเกินไป ที่ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะความช่วยเหลือของคุณ ไม่อย่างนั้นคนที่มีดีแค่รูปร่างใหญ่อย่างผม คงไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบชั้นยอดได้แน่นอน ”

อาเว่ยพูดขึ้นด้วยความเคารพ นี่คือความรู้สึกจากใจจริงของเขาซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับพี่น้องในหน่วยรบอีกหลายคนที่เฉินจิ้งเคยช่วยไว้

ถึงจะเห็นเฉินจิ้งเป็นคนมีบุคลิกสนุกสนานร่าเริง ไม่เงียบขรึมเหมือนผู้บัญชาการคนอื่นๆ แต่ในตอนที่ออกปฏิบัติภารกิจเขาจะต่อสู้ร่วมกับทุกคนอยู่แนวหน้าเสมอ ทั้งยังไม่เคยปล่อยใครทิ้งไว้ด้านหลัง ทำให้ได้รับความเคารพจากลูกน้องทุกคน

ดูได้จากทริปล่องเรือสำราญในครั้งนี้ เดิมทีจะต้องมีแต่สมาชิกสามตระกูลใหญ่และพวกผู้อาวุโสระดับสูงในสมาพันธ์เซียน ส่วนการที่หน่วยรบพิเศษและสมาชิกครอบครัวร่วมร้อยกว่าคนติดตามมาได้นั้น ก็เพราะเฉินจิ้งไปขอร้องจ้าวเทียนเป็นกรณีพิเศษ

“ อย่าคิดมากเลย ในเมื่อหนึ่งปีก่อน พวกนายทั้งห้าสิบคนกล้าฝากอนาคตไว้กับฉัน ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็ไม่มีทางทอดทิ้งพวกนายแน่นอน ” เฉินจิ้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

หน่วยรบพิเศษทุกคนที่อยู่บนเรือลำนี้ คือกองกำลังชุดแรกที่ติดตามตัวเขามาจากค่ายทหารเพื่อเข้าร่วมกับจ้าวเทียน ซึ่งในตอนนั้นทั้งเขาและจ้าวเทียนก็ยังเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ได้เป็นผู้ทรงอำนาจระดับโลกเหมือนในตอนนี้

น่าเสียดายที่พี่น้องห้าสิบคนในตอนแรก เสียชีวิตในขณะปฏิบัติภารกิจไปถึงเก้าคน ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความโศกเศร้าให้เฉินจิ้งเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดให้สัญญากับตัวเอง ว่าจะไม่ยอมปล่อยให้มีใครตายไปต่อหน้าต่อตาอีก

นี่จึงเป็นสาเหตุ ที่ถึงแม้ในปัจจุบันเฉินจิ้งจะมีหน่วยรบในสังกัดเกือบหมื่นคน แต่ก็มีเพียงสี่สิบเอ็ดคนนี้เท่านั้น ที่เขาให้ความไว้วางใจใกล้ชิดสนิทสนมมากที่สุด

ผ่านไปห้านาที หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับอาเว่ยเสร็จแล้ว เฉินจิ้งก็ปล่อยให้อีกฝ่ายกลับไปหาลูกเมีย แล้วนั่งลงตกปลากับหวังซินหยางต่อ

“ อาจิ้ง ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม ”

“ อืม ก็ถามมาสิ ” เฉินจิ้งตอบ พร้อมกับหยิบเนื้อย่างใส่ปาก

“ ภรรยาของหน่วยรบพิเศษคนเมื่อกี้ เป็นคนธรรมดาหรือผู้ฝึกตนงั้นเหรอ ”

“ ห๊ะ นายจะอยากรู้ไปทำไมกัน ” เฉินจิ้งเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย เขาก็ตอบออกมาในที่สุด

“ ก็เป็นคนในหน่วยรบเดียวกันนี่แหละ แต่ตอนที่รู้ว่าเธอตั้งท้องกับอาเว่ยได้สี่เดือน ฉันก็ย้ายให้ไปทำหน้าที่เป็นหน่วยสนับสนุนแทน ไม่อย่างนั้นป่านนี้เธอคงบรรลุขอบเขตเซียนไปแล้ว ”

“ อืม งั้นแสดงว่าเธอก็เป็นผู้ฝึกตนเหมือนกันสินะ ” พูดจบ หวังซินหยางก็ถอนหายใจออกมา จากนั้นก็เงยหน้าเหม่อมองก้อนเมฆบนท้องฟ้า เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ เฮ้ย! คู่หู นายมีอะไรก็พูดมาตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อม ฉันรอฟังอยู่ ” เฉินจิ้งวางคันเบ็ดตกปลาแล้วหันหน้าไปจ้องตาอีกฝ่ายทันที

“ คือฉันคิดว่ากำลังจะถูกแฟนบอกเลิกน่ะ ” หวังซินหยางตอบเสียงอ่อน

“ เดี๋ยวนะ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า อย่างโจแอนเนี่ยนะจะบอกเลิกนาย เธอถึงขนาดบอกลาครอบครัวที่อเมริกาแล้วย้ายมาอยู่กับนายเลยนะ ไหนจะเรื่องเรียนภาษาจีนและฝึกทำอาหารจีนอีก ดูก็รู้ว่าเธอรักนายแค่ไหน ”

เฉินจิ้งถูกแส้สีดำฟาดใส่ จากนั้นมันก็มัดขาของเขาแล้วกระชากกลับมาอยู่ที่เดิมในเสี้ยววินาที โดยมีเด็กสาวคนหนึ่งยืนคอยอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชา

“ เจนนี่ ใจเย็นๆก่อนนะฉันอธิบายได้ ” เฉินจิ้งรีบพูดออกมาอย่างร้อนรน ถึงแม้การสลัดหลุดจากแส้อันนี้ จะเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขา แต่ถ้าทำแบบนั้นจริงๆคืนนี้คงได้นอนนอกห้องแน่นอน

“ เหอะ เก็บข้อแก้ตัวของนายไว้เถอะ เดี๋ยวคืนนี้เราจะได้เห็นดีกัน ” เมื่อคาดโทษแฟนหนุ่มเสร็จแล้ว เจนนี่หันไปหาหวังซินหยางต่อ เพราะรู้สึกเอะใจบางอย่างในสิ่งที่อีกฝ่ายเล่ามา

“ ถึงฉันจะไม่สนิทกับโจแอนมากนัก แต่ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ก็พอจะมองออกว่าเธอรักนายมากจริงๆ ซึ่งก็มากเกินกว่าที่จะทิ้งนายไปด้วยเหตุผลเรื่องไม่ค่อยมีเวลา ”

“ ดังนั้น นายช่วยแสดงขั้นตอนการฝึกวิชาให้ฉันดูหน่อย จะได้รู้ชัดไปเลยว่าสิ่งที่โจแอนบอกมาเป็นแค่ข้ออ้างหรือเปล่า ” เจนนี่พูดกับหวังซินหยางด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ตกลง งั้นพวกเธอก็ตามฉันมาแล้วกัน เพราะเคล็ดวิชานี้ต้องฝึกฝนในห้องทึบแสงเท่านั้น ” พูดจบ หวังซินหยางก็เดินนำเจนนี่กับเฉินจิ้งกลับไปห้องนอนของตัวเอง

แกร็ก!

เมื่อปิดประตูปิดหน้าต่างเรียบร้อย หวังซินหยางก็นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง พร้อมกับหลับตาพนมมือไว้กลางอก

ฟูววว!

ร่างกายของหวังซินหยางก็ปรากฏควันสีเทาจางๆฟุ้งกระจายออกมา และเมื่อเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆก่อตัวเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าดูจากกลิ่นอายและออร่าของพวกมันแล้ว คงมีระดับพลังเทียบเท่าขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดแน่นอน

“ นี่มัน เอาจริงดิ ” เฉินจิ้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

ที่ด้านหลังของหวังซินหยางได้ปรากฏร่างวิญญาณผู้พิทักษ์ทั้งสามตนขึ้น โดยที่อยู่ซ้ายสุดเป็นบุรุษชุดดำใบหน้าซีดขาว ด้านขวาเป็นปีศาจอสรพิษสามหัวดูน่าสะพรึงกลัว ส่วนตรงกลางก็คือปีศาจแมงมุมแม่ม่ายดำขนาดเท่ารถยนต์

“ ถ้ามีตัวแบบนี้โผล่มาทุกครั้งที่นายฝึกวิชาล่ะก็ ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเข้าใจความรู้สึกของโจแอนแล้วล่ะ นี่ถือว่าเธออดทนได้ดีมากเลยนะสำหรับคนธรรมดา ถ้าเป็นฉันไม่ต้องรอถึงสี่เดือนหรอก แค่อาทิตย์เดียวก็เต็มกลืนแล้ว ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน