จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 524

ณ โบราณสถานใต้ทะเลลึกเขตหวงห้ามของเทพมังกรอ๋าวเฟิง ซึ่งปกติม่านพลังป้องกันของพื้นที่แห่งนี้ จะไม่เปิดรับให้บุคคลภายนอกล้วงล้ำเข้ามาง่ายๆ

แต่เพราะแผ่นหยกควบคุมค่ายกลที่อ๋าวเฟิงทิ้งไว้ เลยทำให้จ้าวเทียนกับลี่เหยาเหยาเคลื่อนย้ายเข้ามาในโบราณสถานได้แบบไม่ยากเย็นนัก

“ อ๊ะ นี่มัน มังกรงั้นเหรอ ”

ลี่เหยาเหยาร้องขึ้นด้วยความตกใจ สิ่งแรกที่เธอเห็นหลังจากเข้ามาก็คือ เงาร่างขนาดยักษ์ใหญ่โตราวกับภูเขานอนขดตัวอยู่ตรงรอยแยกก้นทะเล ด้านนอกม่านพลังป้องกันโบราณสถาน

หากเจ้าสิ่งนี้ลืมตาขึ้น แค่เพียงนัยน์ตาของมัน ก็น่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบร้อยเมตร คงไม่ต้องพูดถึงส่วนศีรษะทั้งหมด

“ ใช่แล้วล่ะ ที่เธอเห็นก็คือตัวตนที่แท้จริงของผู้อาวุโสอ๋าวเฟิง เพราะต้องการปกป้องสมบัติตกทอดมหาเทพผานกู่ เทพมังกรบรรพกาลทั้งเก้าจึงจำเป็นต้องสะกดพลังส่วนใหญ่ของตัวเองไว้ ”

“ แล้วแยกย้ายกันไปปกป้องตราผนึกสำคัญทั่วโลก เพื่อไม่ให้กลิ่นอายสมบัติตกทอดของมหาเทพผานกู่ส่งกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ” อธิบายจบ จ้าวเทียนก็หยิบโทรศัพท์ดาวเทียมที่กำลังสั่นขึ้นมา เปิดดูข้อความของเฉินจิ้ง

“ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมสีหน้านายดูแปลกๆ ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยความสงสัย จนเมื่อเธอได้อ่านข้อความทั้งหมด ก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมาทันที

“ หืม ดูเหมือนหวังซินหยางจะส่งข้อความมาเช่นกัน บอกให้ฉันหาวิธีช่วยเหลือหน่อย ไม่งั้นเขาคงเป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่นอน ” อ่านจบ จ้าวเทียนก็ฝืนยิ้มออกมา

ถ้าไม่ติดที่จ้าวเทียนมองหวังซินหยางเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง คงแนะนำให้อีกฝ่ายไปคว้าปีศาจสาวมาเป็นภรรยาแล้วจะได้หมดสิ้นปัญหา แต่ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ ผู้เฒ่าตระกูลหวังคงมาอาละวาดถึงหน้าบ้านเขาแน่

“ จะว่าไป ฉันก็แอบสงสารโจแอนอยู่นะ แค่รู้ว่าแฟนหนุ่มของตัวเองเลี้ยงผีเอาไว้ก็แย่พออยู่แล้ว ซ้ำร้ายยังมีผีสองตัวที่เป็นสัตว์ประหลาดดูน่าเกลียดน่ากลัวอีก ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น จ้าวเทียนก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ ตามที่ฉันคิด แม้แต่ตัวศิษย์พี่หญิงเองก็คงคาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าวิญญาณปีศาจที่เธอมอบให้ จะส่งผลกระทบต่อคนข้างกายหวังซินหยางขนาดนี้ ”

“ เอาเถอะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อหาศิษย์พี่รอง บอกให้เขาช่วยเก็บรวบรวมดวงวิญญาณ ของโจรสลัดอวกาศรุ่นเยาว์หน้าตาดีที่แข็งแกร่งซักหลายคน ส่งกลับมายังโลกมนุษย์โดยเร็ว ”

“ เพื่อใช้แทนดวงวิญญาณปีศาจสองตนนั้น น่าจะพอลดความหวาดกลัวของโจแอนลงได้บ้าง ส่วนปัญหาเรื่องทัศนคติพวกเขาต้องไปปรับแก้ไขกันเอง ”

ตามความเข้าใจของจ้าวเทียน เหล่าโจรสลัดอวกาศที่แสนป่าเถื่อนคงมีน้อยมากที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งเห็นได้จากเหล่าศัตรูที่ตนเองเผชิญมาในอดีต จะเป็นเผ่าปีศาจหรือเผ่าอสูรซะแปดส่วน ก็เลยไม่ได้บอกจำนวนที่ต้องการไว้ เพื่อให้หวังซินหยางได้มีตัวเลือกเยอะๆ

แต่ทว่า กลับมีความจริงข้อหนึ่งถูกจ้าวเทียนมองข้ามไป นั่นก็คือบรรดาสาวงามมากมาย ที่ถูกจับมาเป็นนางบำเรอให้เหล่าโจรสลัดตลอดระยะเวลานับหมื่นปีนั้น ก็ได้ให้กำเนิดทายาทออกมารุ่นแล้วรุ่นเล่า แถมส่วนใหญ่ยังมีหน้าตาดีเหมือนมารดาซะด้วย

ดังนั้น เมื่อโจรสลัดเฒ่าชราถูกจักรพรรดินีเทพสังหารไปเกือบหมด ที่หลงเหลืออยู่ในแหล่งกบดาน ก็เป็นโจรสลัดรุ่นเยาว์จำนวนหลายพันคนที่เพิ่งก่อกรรมทำเข็ญได้ไม่นาน ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของจ้าวเทียนทุกประการ

จ้าวเทียนไม่เคยรู้แม้แต่น้อย ว่าเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของเขา จะทำให้คังหลินต้องทำงานหนัก และส่งผลให้หลินซูซินต้องรับศิษย์อีกมากมายในอนาคต

จนทำให้เกิดกองกำลังผู้ฝึกนักรบวิญญาณอันแข็งแกร่งขึ้นภายในสมาพันธ์เซียน ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในสงครามครั้งใหญ่ที่กำลังจะมากึงอีกด้วย

เมื่อเห็นว่าจ้าวเทียนมีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว ลี่เหยาเหยาเลยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แล้วเปลี่ยนไปสนทนาถึงเรื่องอื่นแทน เพื่อรอเวลาให้พวกเทพมังกรกลับมาจากปฏิบัติภารกิจลับ ในการช่วยเหลือโฮ่วอี้ข้ามกำแพงขวางกั้นเอกภพ

นี่คือเงื่อนไขที่โฮ่วอี้เสนอให้กับพวกเทพมังกรตั้งแต่สองเดือนก่อน เพื่อแลกกับผลึกวิญญาณโกลาหลจำนวนสิบก้อน โดยโฮว่อี้จะยอมให้ไปก่อนสี่ก้อน ส่วนอีกหกก้อนที่เหลือจะมอบให้หลังจากภารกิจเสร็จสมบูรณ์

“ นี่ก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว พวกผู้อาวุโสอ๋าวเฟิงยังไม่กลับมาเลย จะเกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่านะ ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยท่าทีเคร่งเครียด

แผนการครั้งนี้ได้ถูกปิดไว้เป็นความรับสุดยอดที่มีเพียง จ้าวเทียน โฮ่วอี้ หลินซินเยว่ และเทพมังกรทั้งเก้าเท่านั้นที่ล่วงรู้

ส่วนลี่เหยาเหยา จ้าวเทียนเพิ่งเล่าให้เธอฟังก่อนจะมาถึงโบราณสถานได้ไม่นาน เนื่องจากเคยรับปากเอาไว้ ว่าหลังจากนี้จะไม่ทอดทิ้งเธอไปเสี่ยงอันตรายที่ไหนเพียงลำพังอีก

“ เรารอต่อไปอีกหน่อยเถอะ เพื่อดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้าม ท่านอาจารย์ถึงขนาดนำค่ายกลยี่สิบแปดดารา ไปท้าทายราชันเทพซุสตรงหน้าภูเขาโอลิมปัสเลยทีเดียว ”

“ ป่านนี้ทั้งมหาเทพอวี่หวงและเต๋าแห่งสวรรค์ คงเพ่งความสนใจไปที่นั่นกันหมดแล้ว น่าจะไม่มีเวลามาจับตาดูความเคลื่อนไหวตรงกำแพงเอกภพหรอก ”

“ เจ้าคิดผิดแล้วเด็กน้อย เมื่อเขตอาคมสังหารเทพบรรพกาลถูกทำลาย การที่ร่างจริงของพวกข้าจะข้ามประตูเอกภพมา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เราแค่ต้องหาผู้แข็งแกร่งจักรวาลอื่น มาเซ่นสังเวยเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจักรวาลแห่งนี้ก็เท่านั้น ”

!!

เสียงของสตรีลึกลับที่ดังขึ้นโดยไม่ทราบที่มา ทำให้จ้าวเทียนกับลี่เหยาเหยาหน้าเปลี่ยนสีทันที เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีเพียงพวกตนกับเทพมังกรทั้งเก้า ไม่มีบุคคลอื่นอยู่อีก แล้วเจ้าของเสียงแอบเข้ามาได้อย่างไรกัน

‘ หืม ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ผิดแน่ ’

จ้าวเทียนรับรู้โดยสัญชาตญาณว่ามีคนยืนอยู่ตรงหน้า แต่ทั้งสัมผัสวิญญาณและเคล็ดวิชาเนตรสุริยันของเขา กลับไม่อาจตรวจจับตัวตนของอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย ราวกับอยู่คนละมิติคนละช่วงเวลาอย่างสิ้นเชิง

“ อืม กลิ่นอายหยางบริสุทธ์อันแสนเข้มข้นเช่นนี้ ข้าไม่ได้พบเจอมานานขนาดไหนแล้วนะ ”

แปะ! วูป!

เหตุผลที่จ้าวเทียนยังยืนอยู่ที่เดิม ก็เพราะเห็นรอยยิ้มของเทพมังกรทั้งเก้า เลยรับรู้ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่เมื่อสัมผัสได้ว่ามีฝ่ามือเนียนนุ่มมาลูบใบหน้าตนเอง เขาก็รีบพาลี่เหยาเหยาเคลื่อนย้ายมิติถอยห่างออกไป

“ ร่างเจตจำนงเทพยุทธ!”

จ้าวเทียนตัดสินใจใช้เคล็ดวิชาไม้ตายทันที จุดประสงค์ไม่ใช่โจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่เพื่อใช้สภาวะพิเศษที่เกิดขึ้นให้เป็นประโยชน์

เพล้ง!

พริบตาที่กาลเวลาเดินช้าลงแทบจะหยุดนิ่ง จนมองเห็นสรรพสิ่งรอบกายเหมือนกับเป็นภาพวาดขาวดำ ยกเว้นสาวงามนางหนึ่งที่ยืนเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าจ้าวเทียน

ร่างกายของเธอได้ถูกปกคลุมไปความลึกลับบางอย่าง จริงคือเท็จ เท็จคือจริง ทำให้เคล็ดวิชาของจ้าวเทียนใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร

“ นี่คือ แก่นแท้ภาพมายาขั้นสูงสุด คุณคงเป็นหนึ่งในสิบจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาล จักรพรรดินีเหมันต์ศักดิ์สิทธิ์ปิงเยว่สินะ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน