จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 536

ภายในมิติแห่งกาลเวลาที่หยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสายตาของเทพกระบี่ ทั้งพายุสายฟ้า มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ หรือแม้กระทั่งสายฝนที่สาดเทลงมา ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นภาพวาดขาวดำ ราวกับได้สูญเสียสีสันของชีวิตไปจนหมดสิ้น

“ น่าสนใจ… ”

เทพกระบี่ยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับทดลองใช้นิ้วมือสัมผัสไปที่เม็ดฝนที่อยู่ตรงหน้าอย่างแผ่วเบา จนมันแตกสลายเป็นละอองจางหายไป

“ เวลาไม่ได้ถูกหยุดนิ่งไปซะทีเดียว เพียงแต่มันไหลช้าลงกว่าเดิมอย่างมาก ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ เมื่อข้าอยู่ในมิตินี้หนึ่งวัน โลกภายนอกก็คงผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ”

นับได้ว่าจักรพรรดิอสูรกระบี่ทุ่มเทใส่ใจ ในการคัดเลือกผู้สืบทอดของตนเองอย่างแท้จริง เพราะในดินแดนมรดกของเขาถึงกับกล้าติดตั้ง เขตอาคมมิติบิดเบือนเวลาสุดแสนล้ำค่าในตำนานเอาไว้ด้วย โดยมันจะเริ่มทำงานเมื่อตรวจพบผู้ครอบครองดวงจิตสมบูรณ์ก้าวเท้าเข้ามาในแดนมรดก

คงมีแค่สองทาง ที่เทพกระบี่จะออกไปจากห้วงมิติเวลาแห่งนี้ได้ ก็คือการอาศัยพลังของตัวเองทำลายมิติตรงๆ หรือไม่ก็ต้องรอให้เขตอาคมหมดสิ้นพลังไปเอง ซึ่งก็ไม่รู้จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน

มันอาจจะเป็นหนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือแม้กระทั่งหนึ่งร้อยปี…ก็ไม่มีใครทราบได้

“ ดูเหมือน นี่จะเป็นบททดสอบสำหรับข้าสินะ ” พูดจบ เทพกระบี่ก็ควบแน่นหยดน้ำฝนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกหยุดเวลาไว้ ให้กลายรังสีกระบี่ขนาดยักษ์แล้วแทงออกไปดุจประกายแสง

ฉัวะ! เปรี้ยง!

“ หืม ยังไม่พองั้นรึ ”

รังสีกระบี่อันดุดัน เพียงสามารถเปิดรอยแยกมิติขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือเท่านั้น มันยังไม่เพียงพอให้เขาออกไปจากห้วงเวลาที่เกือบหยุดนิ่งได้

ครืน!

ทันใดนั้น รอยแยกก็เริ่มสมานตัวอย่างรวดเร็ว…

ฉัวะ! เปรี้ยง! ฉัวะ! เปรี้ยง! ฉัวะ! เปรี้ยง!

เทพกระบี่รีบโจมตีไปที่ตำแหน่งเดิมอย่างต่อเนื่องในชั่วอึดใจเดียว ทุกกระบวนท่าล้วนแฝงไปด้วยคลื่นพลังสั่นสะเทือนของเคล็ดทำลายล้าง ทำให้รอยแยกขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งเมื่อโจมตีออกไปเป็นครั้งที่สิบ รอยแยกที่อยู่ตรงหน้าเขาก็แตกสลาย กลายเป็นตัวหนังสือสองแถว

“ อายุกระดูกสี่ร้อยห้าสิบเอ็ดปี…การทดสอบแรก สิบการโจมตี ”

“ พรสวรรค์ระดับกลาง… ไม่ผ่าน ”

เปรี้ยง!

ร่างของเทพกระบี่สะท้านอย่างแรง ก่อนจะถูกกระแทกปลิวกระเด็นไปด้านหน้า…

“ เอ่อ นี่มัน ” เทพกระบี่แทบจะหัวเราะก็ไม่ได้ ร้องให้ก็ไม่ออก สูญเสียบารมีของยอดฝีมือแห่งยุคไปทันที

เขารู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป ในช่วงที่กำลังเริ่มฝึกกระบี่กับศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักไม่มีผิด จำได้ว่าตอนนั้น เมื่อทำอะไรผิดไปก็จะถูกท่านอาจารย์ฟาดด้วยไม้กระบองจนกระเด็นเหมือนกัน

แวบ!

เมื่อการลงโทษเสร็จสิ้น ตัวหนังสือสองแถวก็จางหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างได้กลับคืนสู่สภาพเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ เท่าที่เห็น แสดงว่าความแข็งแกร่งของมิติห้วงเวลา จะเพิ่มขึ้นตามอายุของผู้เข้าทดสอบไม่เกี่ยวกับขอบเขตพลังสินะ ช่างยุติธรรมยิ่งนัก ”

“ เอาเถอะ หากให้เปรียบเทียบกับจักรพรรดิอสูรกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ พรสวรรค์ของข้าก็คงนับว่าธรรมดาสามัญจริงๆ ”

เทพกระบี่ส่ายหน้าเบาๆ โชคดีที่เมื่อครู่เขาแค่ลองทดสอบดูเท่านั้น ยังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงทั้งหมดออกมา แต่เมื่อเป็นแบบนั้น ก็อดคิดไปถึงอัจฉริยะปีศาจอย่างจ้าวเทียนไม่ได้

ด้วยอายุแค่ยี่สิบปีถ้าอีกฝ่ายมาเข้ารับการทดสอบ จะต้องถูกประเมินอยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่ครั้งแรกแน่นอน

ผ่านไปหนึ่งวันในห้วงมิติเวลา หรือเท่ากับหนึ่งชั่วโมงในโลกภายนอก เทพกระบี่ก็ได้ฟื้นฟูพลังขึ้นมาจนสมบูรณ์และตัดสินใจทดลองอีกครั้ง

“ กระบี่เดียวดายกระบวนท่าที่สิบ เคล็ดกระบี่ใจ! ”

เทพกระบี่ได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง เจตจำนงของเขากลายกระบี่สีทองแผ่พุ่งออกจากกลางหน้าผาก ด้วยความเร็วสูงเหนือกาลเวลา เข้าสู่มิติแห่งอนันต์ไร้จุดสิ้นสุด

ฉัวะ! เปรี้ยง!

เพียงการโจมตีเดียว รอยแยกก็ถูกเปิดออกกว่าครึ่งเมตรทันที จากนั้นเขาจึงใช้พลังที่เหลืออยู่ควบแน่นรังสีกระบี่ขนาดยักษ์ที่แฝงไปด้วยเคล็ดทำลายล้าง ฟันซ้ำตำแหน่งเดิมไปอีกสี่ครั้งในอึดใจเดียว

ตุบ! ๆๆๆๆๆๆ

กองวัตถุดิบจำนวนมาก ได้ถูกจ้าวเทียนโยนใส่ลงไปในกระดองเต่าเรื่อยๆจนหมด จากนั้น เขาก็นำน้ำพุจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในคลังสมบัติลับเติมลงไปจนเต็ม ปิดท้ายด้วยกระดูกมังกรชิ้นหนึ่งที่ได้มาจากราชวงศ์จักรพรรดิอสูร

เท่านี้หม้อไฟเปิบพิสดารก็เสร็จสมบูรณ์ ถึงหน้าตามันจะดูไม่ค่อยน่ากิน แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพโภชนาการระดับสูง

“ พวกเธอชอบความสุกประมาณไหนล่ะ แต่ถ้าถามฉันให้กินแบบดิบๆจะได้รับประโยชน์มากว่านะ ”

!!

เมื่อคำพูดประโยคนี้ดังขึ้น พวกโม่ซินหยานก็รับรู้ชะตากรรมของตัวเองทันที ไม่จำเป็นต้องคาดเดากันให้วุ่นวายอีกแล้ว ชิ้นส่วนสัตว์อสูรแปลกๆพวกนั้นถูกเตรียมไว้เป็นอาหารพวกเธอแน่นอน

“ หัวหน้าค่ะ พวกเราต้องกินมันจริงๆเหรอ ” มือสังหารสาวทั้งยี่สิบคน จ้องมองไปทางโม่ซินหนานด้วยแววตาสั่นไหว

พวกเธอเห็นกับตา ว่าจ้าวเทียนได้ตัดเอาชิ้นส่วนอสูรแมลงพิษขนาดยักษ์หลายชนิดมาด้วย ทั้งดวงตาแมงมุมสองหัว กงเล็บตะขาบอสรพิษ เหล็กในของนางพญาผึ้งปีศาจ

เอาง่ายๆว่า แค่พริบตาเดียวที่เทน้ำพุจิตวิญญาณบริสุทธิ์ลงไป มันก็ถูกเลือดและพิษที่ไหลซึมออกมาจากชิ้นส่วนพวกนั้น ย้อมจนเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมดำในเสี้ยววินาที หนำซ้ำยังมีควันสีเขียวที่มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายออกมาอีกด้วย

ต่อให้พวกเธอทุกคนจะถูกดัดแปลงพันธุกรรม ให้เป็นครึ่งอสูรสายเลือดคิเมียร่า แต่ภายในจิตใจก็ยังเป็นเด็กสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปด จะให้กินของน่าขยะแขยงแบบนี้ได้อย่างไร

‘ ดูท่าคงไม่ไหวจริงๆสินะ ’

จ้าวเทียนฝืนยิ้มเล็กน้อย ให้พูดกันตามตรง ถ้าต้องกินหม้อไฟที่ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ แม้แต่ผู้มีจิตใจแข็งแกร่งอย่างตัวเขาเอง ก็คงทำใจลำบากเหมือนกัน

“ เอาเถอะ ฉันจะช่วยให้มันง่ายขึ้นหน่อยก็ได้ ” พูดจบ จ้าวเทียนก็ใช้รังสีกระบี่กรีดไปที่ข้อมือตัวเอง ทำให้เลือดหยางบริสุทธิ์ของเขาสาดกระเด็นลงไปในหม้อไฟ ส่งผลให้แววตาพวกโม่ซินหยานเปล่งประกายทันที

ฟู่ววว!

จากนั้น จ้าวเทียนก็ปลดปล่อยคลื่นเปลวเพลิงสุริยันปกคลุมกระดองเต่า เพื่อต้มวัตถุดิบหม้อไฟให้สุกพอประมาณ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด

“ เท่านี้ ก็คงไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน