จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 549

บนท้องฟ้า อลิซาเบธ บาโธรี่ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้าย เปลี่ยนเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์แวมไพร์ อสูรค้างคาวโลหิตอมตะ ซึ่งมีขนาดตัวใหญ่โตเท่ากับตึกสิบชั้น เพียงแค่กางปีกก็จะสามารถปกคลุมสนามฟุตบอลได้แบบสบายๆ

“ ตอนนี้แหละ ”

สิ้นเสียง อลิซาเบธก็พุ่งฝ่าพายุคมหอกของเทพนักรบบิซามอนเทน แล้วหุบปีกทั้งสองข้าง ดูดกลืนอีกฝ่ายเข้าในร่างกายตัวเองเพื่อผนึกความเคลื่อนไหวไว้

“ ปีศาจชั่ว จงสลายไปซะ ” เทพบิซามอนเทนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล ควงหอกในมืออย่างรวดเร็ว ระเบิดคลื่นพายุพลังทำลายล้างกวาดออกไปโดยรอบ ราวกับต้องการบดขยี้สรรพสิ่งให้เป็นจุล

เปรี้ยงงง! ๆๆๆๆๆๆๆ ตูมมมมม!

แต่ก็น่าเสียดายที่นี่คือร่างอมตะของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ถึงแม้มันจะถูกทำลายไปซักกี่ครั้ง ตราบเท่ายังมีโลหิตหลงเหลือก็จะฟื้นฟูกลับมาได้ในพริบตา

“ ผนึกวารีเยือกแข็งขั้นสูงสุด! ”

ร่างของนางพญางูขาวพุ่งทะยานขึ้นมาจากมหาสมุทร พร้อมกับใช้พลังทั้งหมดเรียกอสรพิษวารีนับร้อย ถาโถมเข้าใส่เทพบิซามอนเทนจากทุกทิศทาง ก่อนจะระเบิดกลายเป็นมวลน้ำจำนวนมหาศาลปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้

เปรี๊ยะ!

น้ำทะเลเหล่านั้นก็ได้ควบแน่นเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ในพริบตา อุณหภูมิของมันบรรลุจุดศูนย์องศาสัมบูรณ์ทางทฤษฏี ภายใต้ความเย็นระดับนี้อนุภาคทุกชนิดจะหยุดการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง

ด้วยระดับพลังที่เพิ่มพูนและแก่นแท้วารีระดับสูง ทำให้อานุภาพของการโจมตีนี้รุนแรงกว่าที่เคยใช้กับซูเปอร์เกิร์ลในอดีตหลายเท่านัก

“ มหาเวทย์หอกอสนีบาต! ”

“ ธนูภูติพฤกษาศักดิ์สิทธิ์! ”

“ อาคมระเบิดมิติทำลายล้าง! ”

สาวใช้ของจ้าวเทียนที่เหลืออีกสามคน ใช้วิชาไม้ตายของตนเองโจมตีไปที่ก้อนน้ำแข็งอย่างรุนแรง ทั้งหอกสายฟ้าสีม่วง ลูกธนูเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ และเวทย์ระเบิดมิติอันทรงอานุภาพ ล้วนถูกกำหนดเป้าหมายไปที่เทพบิซามอนเทนอย่างแม่นยำ

ซึ่งก็แน่นอนว่า อลิซาเบธเองก็ไม่สามารถหลีกหนีจากผลกระทบในครั้งนี้ไปได้

ตูมมม!ๆๆๆ เพล้งงง!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเทพบิซามอนเทนที่ถูกผนึกไว้ด้านในด้วย ร่างของเขาถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่หลงเหลือแม้ซากศพ

“ ข้าจะจดจำความอัปยศในครั้งนี้เอาไว้ อีกไม่นานหรอก ” เจตจำนงของเทพบิซามอนเทนได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ ก่อนจะสูญสลายไปด้วยความคับแค้นใจ

เพราะหากเขาไม่ถูกดึงเข้าสู่โลกมิติมายา และอาวุธเทพเจ้าของตนไม่ถูกผนึกพลังตั้งแต่แรก ก็คงไม่พ่ายแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามที่อ่อนแอกว่าแน่นอน

พั่บๆ

ท่ามกลางเศษผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กที่แตกกระจายอยู่บนฟ้า ค้างคาวสีแดงตัวน้อยได้กระพือปีกบินตุปัดตุเป๋ มาเกาะตรงไหล่มอร์แกน เลอเฟย์อย่างอ่อนแรง

“ ยังอุตส่าห์รอดมาได้อีกนะ เธอนี่มันตายยากจริงๆ ”

กี้!ๆๆ

ค้างคาวตัวน้อยรีบส่งเสียงทักท้วงออกมาทันที ก่อนจะจ้องมองไปที่ลำคออันขาวเนียนของอีกฝ่ายด้วยความคาดหวัง

“ รู้แล้วๆ ” มอร์แกน เลอเฟย์พูดขึ้นอย่างอ่อนใจ จากนั้นก็ยื่นนิ้วไปเขี่ยที่มุมปากฝ่ายตรงข้ามเบาๆ

จ๊วบ!

แม้จะรู้สกหงุดหงิดอยู่บ้างที่โดนทำราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ค้างคาวน้อยก็ยอมฝังเขี้ยวดูดกินโลหิตโดยดี จนกระทั่งอิ่มแล้วก็นอนหลับใหลไป เพื่อรอเวลาฟื้นตัวกลับคืนสู่ร่างอลิซาเบธ บาโธรี่ดังเดิม

“ พวกเรารีบไปช่วยเหลือคนอื่นๆเถอะ ” ไป๋ซู่เจินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนกินโอสถรักษาอาการบาดเจ็บ จนฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาได้ระดับหนึ่งแล้ว

“ ตกลง ” หญิงสาวอีกสามคนพยักหน้าพร้อมกัน ต่อให้พวกเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกับเทพบิซามอนเทน แต่สถานการณ์ในตอนนี้คงไม่มีทางเลือกมากนัก

โดยจุดหมายแรกที่พวกไป๋ซู่เจินไปก็คือ สนามรบของสมาคมปีศาจสาวและเหล่าวัลคีรี่ ซึ่งด้วยความร่วมมือของทุกคน เพียงไม่ถึงสิบลมหายใจก็เอาชนะศัตรู ช่วยเหลือพวกพ้องที่เหลือเพียงยี่สิบคนได้สำเร็จ

ร่างของลี่เหยาเหยาหลงเหลือเพียงภาพติดตา ไปปรากฏตัวตรงหน้าเทพโอดินในเสี้ยววินาที และคว้าจับแขนข้างที่จับอาวุธของอีกฝ่ายไว้ เตรียมตัวปลดปล่อยเพลิงผลาญดาราเพื่อปลิดชีพคู่ต่อสู้

แต่ทว่า

“ หยุดซะ ไม่อย่างงั้นปีศาจตนนี้ต้องตาย ”

เทพซูซาโนะโอะตะโกนขึ้นเสียงดัง พร้อมทั้งเดินเหยียบอากาศเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ในมือข้างหนึ่งยังกุมลำคอของซูต๋าจี่ที่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัสเอาไว้ด้วย นับว่าการมาถึงของเขาได้ช่วยชีวิตของเทพโอดินไว้ได้พอดี

“ ต้องขอโทษด้วย เพื่อช่วยเหลือข้านางถึงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ” เทพธิดาซวนเฉวียนส่งกระแสจิตถึงลี่เหยาเหยา ก่อนที่ร่างของเธอและผลึกคริสตัลเจ็ดสีจะเคลื่อนย้ายมารวมกลุ่มกับทุกคน

“ หึหึ ดูเหมือนนางปีศาจนี่จะเป็นคนสำคัญในกลุ่มพวกเจ้าสินะ ว่ายังไงล่ะ จะยอมแลกร่างอวตารของข้ากับชีวิตของนางหรือเปล่า ” เทพโอดินพูดขึ้นอย่างเย็นชา แม้สภาพของเขาจะดูย่ำแย่อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความเย่อหยิ่งที่เคยมีไป

“ พวกแกต้องการอะไร ” ลี่เหยาเหยากัดฟันถามขึ้น ขณะที่เพิ่มแรงในการบีบแขนฝ่ายตรงข้าม จนได้ยินเสียงกระดูกแตกหักเบาๆ

“ เหอะ รีบปล่อยพวกข้าออกไปจากโลกมายาแห่งนี้ซะ ไม่งั้นก็รอเก็บศพสหายของเจ้าได้เลย ” เทพโอดินเสนอเงื่อนไขออกไป สีหน้าของเขาดูสงบนิ่งไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวด ที่ถูกบดขยี้กระดูกแขนแต่อย่างใด

“ ให้ปล่อยพวกแกไปงั้นเหรอ ได้ซิ เพราะถึงอย่างไรพลังของพวกแกก็ไม่ส่งผลกระทบอะไร ต่อสถานการณ์โดยรวมอีกต่อไปแล้ว ”

!!

คำพูดประโยคนี้ของลี่เหยาเหยา ทำให้พวกเทพโอดินต้องกัดฟันขึ้นด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าจะเถียงเพราะมันเป็นความจริงทุกประการ

“ อย่าได้ใจเกินไปนัก ไม่แน่ว่าตอนนี้ขุมกำลังทั้งหมดของพวกแก อาจถูกฝ่ายข้าทำลายจนหมดสิ้นไม่มีเหลือแล้วก็ได้ เนื่องจากเทพเอ้อหลางเสิน ราชาเทพซูส รวมไปถึงจื่อเวยมหาเทวราช เองก็เข้าร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย ”

เทพโอดินพูดข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามกลับไป ซึ่งมันก็ได้ผลอย่างชัดเจน เพราะลี่เหยาเหยากับหญิงสาวคนอื่นๆต่างพากันหน้าเปลี่ยนสีไปทันที

พวกเธอรู้ดีว่าหากสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง ความพยายามทุกอย่างที่ผ่านมา รวมไปถึงทุกชีวิตที่ได้เสียสละไปในครั้งนี้ คงกลายเป็นเรื่องที่สูญเปล่าอย่างแน่นอน

“ หึหึ เริ่มหวาดกลัวกันแล้วสินะ รีบสลายโลกมายานี่ได้แล้ว บางทีอาจจะยังทันได้เห็นวาระสุดท้ายของพวกพ้องเจ้าก็ได้ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน