บนท้องฟ้า อลิซาเบธ บาโธรี่ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้าย เปลี่ยนเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์แวมไพร์ อสูรค้างคาวโลหิตอมตะ ซึ่งมีขนาดตัวใหญ่โตเท่ากับตึกสิบชั้น เพียงแค่กางปีกก็จะสามารถปกคลุมสนามฟุตบอลได้แบบสบายๆ
“ ตอนนี้แหละ ”
สิ้นเสียง อลิซาเบธก็พุ่งฝ่าพายุคมหอกของเทพนักรบบิซามอนเทน แล้วหุบปีกทั้งสองข้าง ดูดกลืนอีกฝ่ายเข้าในร่างกายตัวเองเพื่อผนึกความเคลื่อนไหวไว้
“ ปีศาจชั่ว จงสลายไปซะ ” เทพบิซามอนเทนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล ควงหอกในมืออย่างรวดเร็ว ระเบิดคลื่นพายุพลังทำลายล้างกวาดออกไปโดยรอบ ราวกับต้องการบดขยี้สรรพสิ่งให้เป็นจุล
เปรี้ยงงง! ๆๆๆๆๆๆๆ ตูมมมมม!
แต่ก็น่าเสียดายที่นี่คือร่างอมตะของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ถึงแม้มันจะถูกทำลายไปซักกี่ครั้ง ตราบเท่ายังมีโลหิตหลงเหลือก็จะฟื้นฟูกลับมาได้ในพริบตา
“ ผนึกวารีเยือกแข็งขั้นสูงสุด! ”
ร่างของนางพญางูขาวพุ่งทะยานขึ้นมาจากมหาสมุทร พร้อมกับใช้พลังทั้งหมดเรียกอสรพิษวารีนับร้อย ถาโถมเข้าใส่เทพบิซามอนเทนจากทุกทิศทาง ก่อนจะระเบิดกลายเป็นมวลน้ำจำนวนมหาศาลปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้
เปรี๊ยะ!
น้ำทะเลเหล่านั้นก็ได้ควบแน่นเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ในพริบตา อุณหภูมิของมันบรรลุจุดศูนย์องศาสัมบูรณ์ทางทฤษฏี ภายใต้ความเย็นระดับนี้อนุภาคทุกชนิดจะหยุดการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง
ด้วยระดับพลังที่เพิ่มพูนและแก่นแท้วารีระดับสูง ทำให้อานุภาพของการโจมตีนี้รุนแรงกว่าที่เคยใช้กับซูเปอร์เกิร์ลในอดีตหลายเท่านัก
“ มหาเวทย์หอกอสนีบาต! ”
“ ธนูภูติพฤกษาศักดิ์สิทธิ์! ”
“ อาคมระเบิดมิติทำลายล้าง! ”
สาวใช้ของจ้าวเทียนที่เหลืออีกสามคน ใช้วิชาไม้ตายของตนเองโจมตีไปที่ก้อนน้ำแข็งอย่างรุนแรง ทั้งหอกสายฟ้าสีม่วง ลูกธนูเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ และเวทย์ระเบิดมิติอันทรงอานุภาพ ล้วนถูกกำหนดเป้าหมายไปที่เทพบิซามอนเทนอย่างแม่นยำ
ซึ่งก็แน่นอนว่า อลิซาเบธเองก็ไม่สามารถหลีกหนีจากผลกระทบในครั้งนี้ไปได้
ตูมมม!ๆๆๆ เพล้งงง!
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเทพบิซามอนเทนที่ถูกผนึกไว้ด้านในด้วย ร่างของเขาถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่หลงเหลือแม้ซากศพ
“ ข้าจะจดจำความอัปยศในครั้งนี้เอาไว้ อีกไม่นานหรอก ” เจตจำนงของเทพบิซามอนเทนได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ ก่อนจะสูญสลายไปด้วยความคับแค้นใจ
เพราะหากเขาไม่ถูกดึงเข้าสู่โลกมิติมายา และอาวุธเทพเจ้าของตนไม่ถูกผนึกพลังตั้งแต่แรก ก็คงไม่พ่ายแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามที่อ่อนแอกว่าแน่นอน
พั่บๆ
ท่ามกลางเศษผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กที่แตกกระจายอยู่บนฟ้า ค้างคาวสีแดงตัวน้อยได้กระพือปีกบินตุปัดตุเป๋ มาเกาะตรงไหล่มอร์แกน เลอเฟย์อย่างอ่อนแรง
“ ยังอุตส่าห์รอดมาได้อีกนะ เธอนี่มันตายยากจริงๆ ”
กี้!ๆๆ
ค้างคาวตัวน้อยรีบส่งเสียงทักท้วงออกมาทันที ก่อนจะจ้องมองไปที่ลำคออันขาวเนียนของอีกฝ่ายด้วยความคาดหวัง
“ รู้แล้วๆ ” มอร์แกน เลอเฟย์พูดขึ้นอย่างอ่อนใจ จากนั้นก็ยื่นนิ้วไปเขี่ยที่มุมปากฝ่ายตรงข้ามเบาๆ
จ๊วบ!
แม้จะรู้สกหงุดหงิดอยู่บ้างที่โดนทำราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ค้างคาวน้อยก็ยอมฝังเขี้ยวดูดกินโลหิตโดยดี จนกระทั่งอิ่มแล้วก็นอนหลับใหลไป เพื่อรอเวลาฟื้นตัวกลับคืนสู่ร่างอลิซาเบธ บาโธรี่ดังเดิม
“ พวกเรารีบไปช่วยเหลือคนอื่นๆเถอะ ” ไป๋ซู่เจินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนกินโอสถรักษาอาการบาดเจ็บ จนฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาได้ระดับหนึ่งแล้ว
“ ตกลง ” หญิงสาวอีกสามคนพยักหน้าพร้อมกัน ต่อให้พวกเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกับเทพบิซามอนเทน แต่สถานการณ์ในตอนนี้คงไม่มีทางเลือกมากนัก
โดยจุดหมายแรกที่พวกไป๋ซู่เจินไปก็คือ สนามรบของสมาคมปีศาจสาวและเหล่าวัลคีรี่ ซึ่งด้วยความร่วมมือของทุกคน เพียงไม่ถึงสิบลมหายใจก็เอาชนะศัตรู ช่วยเหลือพวกพ้องที่เหลือเพียงยี่สิบคนได้สำเร็จ
ร่างของลี่เหยาเหยาหลงเหลือเพียงภาพติดตา ไปปรากฏตัวตรงหน้าเทพโอดินในเสี้ยววินาที และคว้าจับแขนข้างที่จับอาวุธของอีกฝ่ายไว้ เตรียมตัวปลดปล่อยเพลิงผลาญดาราเพื่อปลิดชีพคู่ต่อสู้
แต่ทว่า
“ หยุดซะ ไม่อย่างงั้นปีศาจตนนี้ต้องตาย ”
เทพซูซาโนะโอะตะโกนขึ้นเสียงดัง พร้อมทั้งเดินเหยียบอากาศเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ในมือข้างหนึ่งยังกุมลำคอของซูต๋าจี่ที่กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัสเอาไว้ด้วย นับว่าการมาถึงของเขาได้ช่วยชีวิตของเทพโอดินไว้ได้พอดี
“ ต้องขอโทษด้วย เพื่อช่วยเหลือข้านางถึงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ” เทพธิดาซวนเฉวียนส่งกระแสจิตถึงลี่เหยาเหยา ก่อนที่ร่างของเธอและผลึกคริสตัลเจ็ดสีจะเคลื่อนย้ายมารวมกลุ่มกับทุกคน
“ หึหึ ดูเหมือนนางปีศาจนี่จะเป็นคนสำคัญในกลุ่มพวกเจ้าสินะ ว่ายังไงล่ะ จะยอมแลกร่างอวตารของข้ากับชีวิตของนางหรือเปล่า ” เทพโอดินพูดขึ้นอย่างเย็นชา แม้สภาพของเขาจะดูย่ำแย่อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความเย่อหยิ่งที่เคยมีไป
“ พวกแกต้องการอะไร ” ลี่เหยาเหยากัดฟันถามขึ้น ขณะที่เพิ่มแรงในการบีบแขนฝ่ายตรงข้าม จนได้ยินเสียงกระดูกแตกหักเบาๆ
“ เหอะ รีบปล่อยพวกข้าออกไปจากโลกมายาแห่งนี้ซะ ไม่งั้นก็รอเก็บศพสหายของเจ้าได้เลย ” เทพโอดินเสนอเงื่อนไขออกไป สีหน้าของเขาดูสงบนิ่งไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวด ที่ถูกบดขยี้กระดูกแขนแต่อย่างใด
“ ให้ปล่อยพวกแกไปงั้นเหรอ ได้ซิ เพราะถึงอย่างไรพลังของพวกแกก็ไม่ส่งผลกระทบอะไร ต่อสถานการณ์โดยรวมอีกต่อไปแล้ว ”
!!
คำพูดประโยคนี้ของลี่เหยาเหยา ทำให้พวกเทพโอดินต้องกัดฟันขึ้นด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าจะเถียงเพราะมันเป็นความจริงทุกประการ
“ อย่าได้ใจเกินไปนัก ไม่แน่ว่าตอนนี้ขุมกำลังทั้งหมดของพวกแก อาจถูกฝ่ายข้าทำลายจนหมดสิ้นไม่มีเหลือแล้วก็ได้ เนื่องจากเทพเอ้อหลางเสิน ราชาเทพซูส รวมไปถึงจื่อเวยมหาเทวราช เองก็เข้าร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย ”
เทพโอดินพูดข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามกลับไป ซึ่งมันก็ได้ผลอย่างชัดเจน เพราะลี่เหยาเหยากับหญิงสาวคนอื่นๆต่างพากันหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
พวกเธอรู้ดีว่าหากสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง ความพยายามทุกอย่างที่ผ่านมา รวมไปถึงทุกชีวิตที่ได้เสียสละไปในครั้งนี้ คงกลายเป็นเรื่องที่สูญเปล่าอย่างแน่นอน
“ หึหึ เริ่มหวาดกลัวกันแล้วสินะ รีบสลายโลกมายานี่ได้แล้ว บางทีอาจจะยังทันได้เห็นวาระสุดท้ายของพวกพ้องเจ้าก็ได้ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...