จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 555

บนโลกมนุษย์ มหาเทพอวี่หวงจ้องมองเงาร่างบุรุษชุดดำ ที่ยืนอยู่ด้านหลังจ้าวเทียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง ปราศจากท่าทีเย่อหยิ่งเช่นเคย

ถึงแม้ตนเองจะเป็นเพียงร่างเจตจำนงที่จุติลงมา แต่ก็ได้รับการเสริมพลังจากราชโองการจักรพรรดิ ทำให้อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนโลกมนุษย์ จะมาพ่ายแพ้เพราะคำพูดฝ่ายตรงข้ามแค่สามคำได้อย่างไร

ส่วนเรื่องที่เทพโอดินถูกสังหารไปนั้น มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการใหญ่ของมหาเทพอวี่หวงมากนัก ทั้งยังอาจจะมีผลดีมากกว่าซะด้วยซ้ำ

เพราะอย่างน้อยมหาเทพอวี่หวง ก็ไม่ต้องส่งมอบตำแหน่งให้อีกฝ่ายตามข้อตกลงหนึ่งหมื่นปี และยังอาจจะฉวยโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น ดูดกลืนขุมกำลังฝ่ายพันธมิตรที่ไร้ผู้นำมาเป็นของตนได้อีกด้วย

“ มหาเทพอวี่หวง ในเมื่อหมดธุระแล้ว ก็ถอนเจตจำนงกลับไปเสียเถอะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเขาดูหยาบกระด้างไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด

“ บังอาจ เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมากล่าววาจาเช่นนี้กับข้า หากไม่มีจักรพรรดิบรรพกาลโฮ่วอี้หรือจิตวิญญาณของอาวุธเทพเจ้าคอยช่วยเหลือ มนุษย์อย่างเจ้าก็คงถูกข้าสังหารไปแล้ว ”

ในสายตาของมหาเทพอวี่หวง จ้าวเทียนก็ไม่ต่างไปจากตัวหมากบนกระดานของจักรพรรดินีหลินซินเยว่ ซึ่งอยู่คนละระดับกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง

ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นยอดอัจฉริยะขนาดไหน ก็เป็นเพียงเด็กทารกที่ยังไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ สาเหตุที่สามารถสังหารเทพโอดินได้ ก็คงเพราะอาศัยพลังของอาวุธเทพเจ้าระดับสูงเท่านั้นเอง

แวบ!

จ้าวเทียนปล่อยมือจากกระบี่ ส่งผลให้มันบินไปหลอมรวมกับร่างวิญญาณของเสวี่ยหลง แล้วสร้างกายเนื้อแท้จริงขึ้นมา

“ ฉันจะไม่พูดซ้ำ รีบสลายมรรคาจักรพรรดิแล้วกลับแดนสวรรค์ไปซะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นเสียงดัง

แม้จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากอาวุธระดับพระเจ้า ตัวเขาก็เหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากราชโองการจักรพรรดิแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างครั้งอดีตที่ต้องระเบิดพลังเกือบทั้งหมดจึงจะฝืนต้านทานเอาไว้ได้

“ หืม ข้าอยากจะรู้นัก ว่าเจ้าจะแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยไปได้ซักเท่าไหร่ ”

สิ้นเสียง มหาเทพอวี่หวงก็ใช้เคล็ดวิชาเจ็ดก้าวแห่งราชัน เหยียบอากาศคุกคามเข้าไปหาเจ้าเทียนช้าๆ

ตูม!

ตูม!

ตูม!

ทุกย่างก้าวของมหาเทพอวี่หวง ทำให้แรงกดดันจากฟ้าดินถาโถมเข้าใส่จ้าวเทียนทุกทิศทาง ราวกับถูกโลกทั้งใบบดขยี้และยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆไม่หยุดยั้ง

จนกระทั่ง เมื่อเดินมาถึงก้าวที่เจ็ด สีหน้าของมหาเทพอวี่หวงก็หมองคล้ำลงทันที เนื่องจากมันไร้ผลต่อจ้าวเทียนอย่างสิ้นเชิง อีกฝ่ายไม่ได้แสดงท่าทีทุกข์ทรมานตามที่คาดเอาไว้แม้แต่น้อย

“ แปลกใจงั้นรึ ” จ้าวเทียนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา ก่อนจะใช้เคล็ดกายาอมตะขั้นสูงสุด เพื่อเรียกร่างจำแลงราชันจักรพรรดิออกมาเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม

ครืนนน!

พริบตาที่ เงาร่างบุรุษสวมมงกุฎและชุดคลุมจักรพรรดิปรากฏขึ้นด้านหลังจ้าวเทียน พายุเปลวเพลิงสีทองก็ระเบิดออกมา จนท้องฟ้าทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ เดิมทีฉันอยากจะเก็บความลับนี้ไว้อีกสองเดือน แต่ดูเหมือนคงไม่จำเป็นแล้ว ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอีกครั้ง สิบแก่นแท้ของเขาหลอมรวมเข้ากับโลกภายในเป็นหนึ่งเดียว เกิดเป็นออร่าสีดำปะทุขึ้น

ทันใดนั้น

บางสิ่งที่ถูกผนึกให้หลับใหลอยู่ใจกลางโลกมนุษย์ ก็ถูกกระตุ้นให้ฟื้นคืนพลังขึ้นมาบางส่วน เนื่องจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยจากร่างจ้าวเทียน มันจึงปลดปล่อยเศษเสี้ยวเจตจำนงของตนเองออกมาผสานเข้ากับเจตจำนงของเขาทันที

‘ หืม นี่มัน ’

เทพมังกรอ๋าวเฟิงที่ยืนคุมเชิงอยู่นอกโลก รีบหันกลับมามองด้วยความตกใจ แม้แต่เทพมังกรอีกแปดตนที่เหลือ ซึ่งคอยเฝ้าเขตอาคมผนึกตามสถานที่ต่างๆบนโลก ก็มีท่าทีตกตะลึงเช่นเดียวกัน

ส่วนทางด้านจ้าวเทียน ที่เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังงานลึกลับจำนวนมหาศาล กำลังหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายตน ก็ทวีความมั่นใจขึ้นอีกหลายส่วน

บูมม!

เหมือนท้องฟ้าถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน ดั่งเช่นสำนวนที่ว่า หนึ่งแผ่นดินหนึ่งราชา พลังของจ้าวเทียนได้ปะทะกับพลังของมหาเทพอวี่หวง ที่ปกคลุมโลกเอาไว้อย่างรุนแรง

ดาวเคราะห์สีน้ำเงินราวกับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล ทั้งมนุษย์และสัตว์ตลอดจนสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ที่ถูกบังคับให้ยอมสยบต่ออำนาจมหาเทพอวี่หวง

ต่างได้รับการปลดปล่อย ให้เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ ที่พันธนาการจิตวิญญาณพวกเขามาหลายยุคหลายสมัย

แกร่ก!

ราชโองการจักรพรรดิสีทองที่ลอยอยู่บนฟ้า ได้สูญเสียอานุภาพของมันไปในพริบตา ก่อนจะมอดไหม้กลายเป็นขี้เถ้าหายไปตามลม

“ บัดซบ เจ้ารู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป ” มหาเทพอวี่หวงตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความเดือดดาล เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าโลกมนุษย์ไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแดนสวรรค์อีกแล้ว

ทั้งทัณฑ์สายฟ้า ทั้งราชโองการจักรพรรดิ ตลอดจนอำนาจสิทธิ์ขาดในการควบคุมชีวิตหลังความตายของสรรพสิ่งบนโลก จะไม่คงอยู่อีกต่อไป

“ จงสลายไปซะ! ”

จ้าวเทียนไม่ได้ตอบวาจามหาเทพอวี่หวง แต่เลือกที่จะผสานพลังเข้ากับร่างจำแลงราชันจักรพรรดิของตน แล้วปล่อยหมัดที่ปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำออกไปทันที ซึ่งอีกฝ่ายก็ปล่อยหมัดตอบโต้ออกมาเช่นกัน

เปรี้ยงงง!

เวลาดูเหมือนจะหยุดลงพริบตาหนึ่ง มีความประหลาดใจที่อธิบายไม่ได้จากทุกสายตาที่เฝ้ามองอยู่ เนื่องจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่มีทั้งการระเบิดห้วงมิติ หรือคลื่นพลังทำลายล้างปะทุออกมาแม้แต่น้อย

ภาพน่าสยดสยอง ที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบดขยี้แหลกเป็นจุลไม่ได้เกิดขึ้น ทั้งจ้าวเทียนและมหาเทพอวี่หวง ค่อยๆถอนหมัดตัวเองกลับมาช้าๆ ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“ ฮา ฮ่า ฮา ดีมาก ไม่นึกเลยว่ามหาเทพอย่างข้า จะมาพลาดท่าเสียทีให้มนุษย์ ” มหาเทพอวี่หวงหัวเราะออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง แววตาที่เขาใช้มองดูจ้าวเทียนเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้นอย่างชัดเจน

“ วันนี้แค่พ่ายแพ้ แต่อีกสองเดือนข้างหน้าคุณจะต้องถูกสังหารแน่นอน ” จ้าวเทียนตอบกลับไปอย่างเย็นชา ความเชื่อมั่นในท่านอาจารย์ของเขาไม่เคยถูกสั่นคลอนมาก่อน

“ เหอะ เมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะได้รู้กัน ” พูดจบ ร่างเจตจำนงของมหาเทพอวี่หวงก็ระเบิดออกเป็นอนุภาคแสงขนาดเล็ก ก่อนจะจางหายไปในอากาศ

ส่วนร่างจริงของมหาเทพอวี่หวงที่อยู่นอกโลกนั้น ได้ฉีกรอยแยกมิติจากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้เทพมังกรอ๋าวเฟิงยืนหัวเราะสะใจเพียงลำพัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน