นอกระบบสุริยะ ภายในความเวิ้งว้างอันดำมืดของดาราจักรทางช้างเผือก ราชันเทพโอดินผู้ยิ่งใหญ่มองดูร่างอวตารของเขา ถูกฟันขาดออกเป็นสองส่วนด้วยแววตาว่างเปล่า
มันจบสิ้นแล้ว…
ทั้งอาณาจักรที่ครอบครองอยู่ ทั้งความหวังที่จะได้เป็นมหาเทพ หรือแม้แต่ชีวิตของตนเองได้ถูกกระบี่เล่มนั้นบดขยี้จนไม่เหลือซาก
เพราะเหตุใดกัน เรื่องเช่นนี้ถึงต้องเกิดขึ้นกับข้า…
จนกระทั่งใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ราชันเทพโอดินก็ยังไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ว่าทำไมทั้งคำพูดและแววตาของจ้าวเทียนถึงได้ดูจงเกลียดจงชังตัวเองขนาดนี้
ราวกับว่าทั้งคู่มีความแค้นลึกซึ้ง จนไม่ขออยู่ร่วมโลกเดียวกันก็ไม่ปาน ทั้งที่เขายังไม่เคยลงมือสังหารพวกพ้องฝ่ายตรงข้ามแม้แต่คนเดียว
ทันใดนั้น
เฮือกกก!
ร่างทิพย์ของราชันเทพโอดินได้สั่นสะท้านอย่างรุนแรง อานุภาพคมกระบี่อันน่าสะพรึงกลัว แทรกซึมผ่านเหตุผลต้นกรรมของร่างอวตาร ไล่ลามมายังร่างต้นที่ดวงวิญญาณหลักสถิตอยู่
ตูมมมม!
เจตจำนงของเทพโอดินถูกทำลาย ดวงวิญญาณแหลกสลาย กายทิพย์เก้าตะวันถูกเผาไหม้เป็นขี้เถ้าลอยหายไป หลงเหลือเพียงซากศพของชายชราผมขาวขนาดเท่ามนุษย์ปกติที่สูญเสียเปลวไฟแห่งชีวิตไปสิ้นเชิง
ในเวลาเดียวกัน พร้อมกับที่เสี้ยววิญญาณสุดท้ายของราชันเทพโอดินดับสูญไป พระราชวังแอสการ์ดอันงดงามก็พังทลายลง รวมไปถึงมหาวิหารใหญ่และรูปปั้นแสงตัวตนก็ถูกทำลายไปเช่นกัน
นี่เป็นหลักฐานว่า…จอมเทพโอดินผู้ยิ่งใหญ่ ราชันแห่งอาณาจักรเทวะตำนานได้สิ้นชีพลงแล้วอย่างแท้จริง
ชายผู้มีความหวังจะได้เป็นมหาเทพแห่งยุคสมัยต่อไปมากที่สุด กลับต้องมาถูกสังหารด้วยฝีมือของมนุษย์โลกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ระดับล่างในจักรวาลที่เหล่าเทพเจ้านึกดูถูกเหยียดหยามมาโดยตลอด
เรื่องนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแดนสวรรค์สูงสุด และแพร่กระจายต่อไปยังโลกทิพย์เก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดินอย่างรวดเร็วดั่งไฟลามทุ่ง
“ ไม่นะ ราชันเทพโอดินของพวกเราสิ้นแล้ว เป็นฝีมือของใครกัน ”
“ เป็นไปไม่ได้ อย่างราชันเทพโอดินนะรึ จะถูกมนุษย์โลกสังหาร ”
“ ว่ายังไงนะ มหาเทพและห้าผู้ยิ่งใหญ่พ่ายแพ้ ราชันเทพโอดินถูกมนุษย์สังหาร เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ ”
ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังแตกตื่นกับการตายของราชันเทพ รวมไปถึงอานุภาพกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวของจ้าวเทียน แมลงสีเงินตัวเล็กก็ลอบเร้นเข้ามาใกล้ซากศพของเทพโอดินอย่างไร้ร่องรอย
แวบ!
ร่างของเด็กหญิงปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เธอมีใบหน้างดงามอายุประมาณสิบเอ็ดปี สวมมงกุฎโบราณสีทอง ใส่เครื่องแต่งกายเป็นชุดผ้าไหมสีแดงปักลายหงส์เงินทั้งหรูหราและดูมีอำนาจ
“ น่าอร่อยจัง ”
งับ! กรุบ!ๆ
พูดจบ ปากของเสี่ยวมี่เฟิงก็อ้ากว้าง กลืนกินซากศพที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองเข้าไปในคำเดียว แล้วเคี้ยวตุ้ยๆอย่างมีความสุข ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน
“ นี่มัน ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม ” เทพีอามาเทราสุใบหน้าแข็งค้างด้วยความตกใจ เด็กหญิงที่ไร้พื้นฐานฝึกตนเพิ่งจะกินศพเทพโอดินไปงั้นเหรอ
ปกติแล้วตัวตนระดับผู้ยิ่งใหญ่ต่อให้สิ้นชีพไป ร่างกายของพวกเขาก็ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งเหมือนตอนยังมีชีวิต ทั้งเลือดเนื้อและกระดูกเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันมหาศาล แม้ผ่านกาลเวลาไปหลายหมื่นปีก็ไม่บุบสลาย
โดยเฉพาะตัวตนที่มีขอบเขตครึ่งก้าวจักรพรรดิเทพอย่างราชันเทพโอดิน ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด หากไม่ใช้อาวุธระดับพระเจ้าก็อย่าหวังเลยว่าจะสร้างความเสียหายได้
ทันใดนั้น
เสี่ยวมี่เฟิงคว้าจับชายกระโปรงของจักรพรรดินีหลินซินเยว่แน่น ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมราวกับเพิ่งไปวิ่งฝ่าดงระเบิดมา ดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
ถ้าให้พูดกันตามตรง เสี่ยวมี่เฟิงนั้นมีนิสัยไม่ต่างไปจากเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรวัยเยาว์นัก แม้เธอจะสืบทอดความทรงจำมาจากบรรพบุรุษ แต่ในความเป็นจริงเธอเพิ่งจะมีอายุได้ปีกว่า ยังคงขาดการยับยั้งชั่งใจ
ทำให้ขณะที่กำลังเดินทางกลับมาหาจ้าวเทียนที่โลกมนุษย์ ก็ได้ถูกดึงดูดด้วยอาหารอันโอชะอย่างซากศพเทพโอดิน จนไปก่อเรื่องใหญ่หลวงเข้า ซึ่งถ้าจักรพรรดินีหลินซินเยว่ไม่ยืนมือเข้าช่วยเหลือ ก็คงถูกพวกราชาเทพซูสรุมสังหารทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว
“ มอบสิ่งของเหล่านั้น คืนให้พวกเขาไป ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ก่อนที่เธอจะเผชิญหน้ากับมหาเทพอวี่หวงในศึกตัดสินเป็นตาย สำนักดาราสวรรค์ก็ยังไม่พร้อมจะทำสงครามเต็มรูปแบบกับสามขุมกำลังชั้นยอดแน่นอน เพราะมันมีแต่จะสูญเสียกันทั้งสองฝ่ายโดยไร้ซึ่งประโยชน์
วูป!
ยุทธภัณฑ์ระดับพระเจ้าทั้งสามชิ้น ได้ลอยไปอยู่ในมือเทพีอามาเทราสุกับเทพโอซีริสเรียบร้อย
“ จักรพรรดินีเทพ เรื่องศพของโอดินและการกระทำอันชั่วร้ายของเด็กหญิงนางนั้น ท่านจะจัดการอย่างไร ” ราชาเทพซูสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพยายามยุยงให้พวกเทพีอามาเทราสุเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้ามเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายตน
ตามข้อตกลงความร่วมมือของพันธมิตรทั้งสองฝ่าย อีกหนึ่งหมื่นปีข้างหน้ามหาเทพอวี่หวงจะยอมสละตำแหน่งให้เทพโอดิน แต่ในเมื่อตอนนี้เทพโอดินได้สิ้นชีพไปแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็อาจจะกลายเป็นศัตรูเหมือนเดิม เพราะไม่มีข้อผูกมัดกันอีก
“ ขอบคุณองค์จักรพรรดินีที่ยอมคืนสิ่งของให้ ส่วนเรื่องศพของโอดินพวกข้าจะจัดการแก้ปัญหาเอง ” พูดจบ เทพีอามาเทราสุกับเทพโอซีริสก็จากไปทันที แม้จะรู้สึกแค้นเคืองในจุดจบของเทพโอดินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากถูกใช้ประโยชน์โดยบุคคลอื่น
“ เหอะ ช่างขี้ขลาดเสียจริง ” ราชาเทพซูสหันไปสบถใส่พวกเทพีอามาเทราสุด้วยน้ำเสียงดูถูก
“ ในสายตาข้า พวกเขายังดีกว่าเจ้ามากนัก หากต้องการแก้แค้นให้เทพีอาเธน่าก็ลงมือด้วยตนเอง อย่าคิดยืมมือผู้อื่น ”
จักรพรรดินีหลินซินเยว่พูดขึ้นอย่างเย็นชา พร้อมกับเก็บค่ายกลยี่สิบแปดดาราและนำตัวเสี่ยวมี่เฟิงฉีกมิติกลับไปที่สำนักดาราสวรรค์ ปล่อยให้ราชาเทพซูสต้องยืนกัดฟันด้วยความคับแค้นใจตามลำพัง
“ หลินซินเยว่ ตอนนี้เจ้าจงหยิ่งผยองซะให้พอเถอะ เพราะอีกไม่นานหรอก ที่เจ้าจะต้องมาคุกเข่าลงแทบเท้าข้า ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...