หลังจากที่ได้ฝากฝังให้จ้าวเทียนช่วยเหลือศิษย์พี่หญิงเรียบร้อยแล้ว หลินซินเยว่ก็ได้เตรียมตัวส่งจ้าวเทียนกลับไปยังโลกมนุษย์
“ สถานที่นี้คือมิติแห่งกาลเวลา ตอนนี้เวลาในโลกภายนอกเพิ่งจะผ่านไปเพียง 1 วินาทีเท่านั้น รายละเอียดอื่นๆ เธอก็ไปถามเอาจากศิษย์พี่หญิงแล้วกันนะ ”
“ อาจารย์ดีใจนะ…ที่ได้พบเธออีก ” หลินซินเยว่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอเดินมากอดจ้าวเทียนเอาไว้อย่างอ่อนโยน
แม้ว่าความจริงแล้ว ทั้งคู่เพิ่งจะเคยเจอกันเป็นครั้งแรก แต่ด้วยความทรงจำที่เธอได้มาจากอนาคต จ้าวเทียนนั้นเป็นศิษย์ที่เธอรักที่สุด
และเขาก็ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง สามารถฝึกฝนจนขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพได้ แม้ว่าเวลานั้นเธอจะดับสูญไปแล้วก็ตาม
“ ผมก็ดีใจครับ…ที่ได้เจออาจารย์อีกครั้ง ” จ้าวเทียนบอกความรู้สึกออกมาจากใจ หากไม่ได้พบกับอาจารย์ ตัวเขาก็คงตายไปนานแล้ว
น้ำตาหยดหนึ่งไหลซึมออกมาจากหางตาของจ้าวเทียน…
ติ๋ง!
ภาพทุกอย่างในสายตาของเขาเปลี่ยนเป็นพร่าเลือน…
ก่อนที่สติของเขาจะดับไป…
“ ไว้พบกัน…ที่แดนสวรรค์ ”
วูป!
แสงสว่างจ้า ทำให้ดวงตาของจ้าวเทียนค่อยๆลืมขึ้น
ภาพห้องทำงานที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง ตอนนี้ตัวเขาได้กลับมาแล้ว เขามองไปรอบๆห้องที่ว่างเปล่าปราศจากผู้คนด้วยความคิด
‘ อาจารย์บอกให้ฉันถามรายละเอียดอื่นๆจากศิษย์พี่หญิง…ว่าแต่เธออยู่ที่ไหนกันล่ะ’
ชิ้ง!
หืม
เขาสัมผัสได้ถึงใครบางคนที่กำลังจับจ้องมาที่เขา…
“ ศิษย์พี่หญิง…นั่นคุณเหรอ ” จ้าวเทียนร้องเรียกขึ้นเบาๆ
หมับ!
!!
มีคนดึงชายเสื้อด้านหลังเขา…
เมื่อจ้าวเทียนหันกลับไปมองด้านหลัง เขาก็พบกับเด็กสาวคนหนึ่งกำลังมองมาทางเขาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น
เธอมีอายุประมาณ 12 ปีเท่ากับโม่ปิงหยู ด้วยใบหน้ารูปไข่ ดวงตาที่กลมโต ทำให้เธอดูคล้ายตุ๊กตาที่น่ารัก
“ หนูชื่อ…หลินซิงเสวียน ” เธอพูดด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย
!!
‘ ถ้าฉันจำไม่ผิด…ผู้นำตระกูลหลินก็มีชื่อว่า หลินซิงเสวียน ’
หรือว่า…อาจารย์อาจจะเข้าใจผิด
จริงๆแล้วดวงวิญญาณศิษย์พี่หญิงได้มาเกิดใหม่ ในร่างของเด็กสาวคนนี้
“ คุณคือ…ศิษย์พี่หญิงเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ไม่ใช่…เธอเป็นแค่เด็กสาวธรรมดา ”
เสียงของหญิงสาวดังขึ้น
จ้าวเทียนอึ้งไปเล็กน้อย เขามองเด็กสาวตรงหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเธอก็หัวเราะออกมาแบบเขินๆ แล้วชี้ไปที่ด้านหลังของจ้าวเทียน
ตรงโต๊ะทำงานตัวนั้น…
แท้จริงแล้วบนเก้าอี้ที่เขาคิดว่าว่างเปล่า มีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลนั่งอยู่…
แต่เพราะขนาดตัวที่เล็กเกินไป เลยโดนโต๊ะบังจนหมด…
ซึ่งตอนนี้จ้าวเทียนก็ได้เห็นตุ๊กตาหมีตัวนั้นแล้ว เขาจึงเดินไปหยิบมันขึ้นมาถือไว้ในระดับสายตา
สายตาของจ้าวเทียน กำลังจ้องมองไปที่ลูกตาสีดำแวววาว ของตุ๊กตาหมีตัวนั้นอย่างสับสน
“ เอ่อ…ศิษย์พี่หญิงใช่ไหม ” เขาถามขึ้นอีกครั้งด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเขาคิดไปเองรึเปล่า ที่รู้สึกว่าตุ๊กตาหมีตัวนั้นก็ส่งรอยยิ้มแบบอับจนปัญญากลับมาให้เขา
“ ฉันชื่อ…หลินซูซิน ”
“ คารวะ…ศิษย์พี่หญิง ผมชื่อจ้าวเทียน ” จ้าวเทียนทักทายตามมารยาท
“ อืม…ช่วยวางฉันลงก่อนได้ไหม ”
นี่คงเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างศิษย์พี่หญิงกับศิษย์น้องเล็ก ที่แปลกประหลาดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา…
บนเรือสปีทโบ๊ท
จ้าวเทียนกับผู้จัดการไป๋ได้จัดการเกี่ยวกับรายละเอียดการซื้อขายเรียบร้อยแล้วและกำลังกลับไปหาคนอื่นๆที่รออยู่
จากที่เขาได้พูดคุยกับศิษย์พี่หญิง ทำให้เข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน เหตุการณ์ที่แกนนำตระกูลหลินและปรมาจารย์ทั้ง 6 เสียชีวิต
มันเกิดจากความผิดพลาดในการทลายขอบเขตเซียนนภาของศิษย์พี่หญิงเอง ทำให้ผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้นถูกทัณฑ์สายฟ้าสังหารจนหมด
ดวงวิญญาณของศิษย์พี่หญิงที่รอดมาได้ พยายามจะใช้เคล็ดวิชาลับของสำนักดาราสวรรค์เพื่อสร้างร่างกายของตัวเองขึ้นมาใหม่
แต่เพราะดวงวิญญาณของเธอเสียหายมากเกินไปทำให้มันล้มเหลว…
ในตอนที่ดวงจิตของเธอกำลังจะสลายไป ก็ได้มีพลังงานปริศนาบางอย่างดึงดูดเธอเข้ามาสิงอยู่ในตุ๊กตาหมีของหลินซิงเสวียน ที่เป็นลูกสาวคนเล็กของหัวหน้าตระกูลหลินในขณะนั้น
รายละเอียดทั้งหมดของเหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นความลับสุดยอด คนที่รู้ความจริงมีเพียงระดับบุคคลสำคัญของประเทศ
เพื่อปกป้องตระกูลหลินจากศัตรูทั้งหลาย ผู้นำประเทศจึงปล่อยข่าวลือแบบนั้นออกมา และให้ตระกูลหลินลดบทบาทลง จากนั้นก็ดันตระกูลหลี่ขึ้นมาเป็น 1 ใน 4 เสาหลักแทน
เมื่อจ้าวเทียนถามถึงสาเหตุที่ทำไมถึงให้เด็กสาวคนนั้นเป็นหัวหน้าตระกูล ศิษย์พี่หญิงก็ตอบเขาว่า ตอนนี้ตัวเธอไม่สามารถอยู่ห่างจากหลินซิงเสวียนได้ ไม่อย่างนั้นวิญญาณของเธอจะสลายไป
ตอนนี้เธอเป็นคนบริหารจัดการตระกูลหลินทั้งหมดผ่านทางหลินซิงเสวียน…
“ เปล่าครับ…ไม่มีอะไร ” เขารีบตอบออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้เขาคิดว่าไม่ได้ตาฝาด
ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตรงหน้าแสยะยิ้มเย็นชาให้เขา…
“ สหายเซียนต้วนมู่นายก็ออกมาได้แล้ว…หรือต้องให้ฉันเชิญ! ”
วูป!
ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังท่านผู้นำอย่างเงียบเชียบ
“ สหายเซียนหลิน…ไม่เจอกันนาน ” ต้วนมู่เฉียนทักทายขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตัวเขาเองก็รู้จักกับหลินซูซินมาได้ 300 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ประเทศจีนยังไม่ได้เปลี่ยนระบบการปกครอง
ในตอนนั้นเขากับหลินซูซินเป็นผู้ที่มีพลังฝีมือสูงที่สุดในประเทศและได้เข้าต่อสู้กับพวกสำนักโบราณที่ต้องการครอบงำประเทศ
ในการต่อสู้อันดุเดือดครั้งนั้น ได้มีขอบเขตเซียนดับสิ้นไปมากกว่า 10 คน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนสุดท้ายเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็สูญเสียเกินกว่าที่จะรับได้
ทางผู้นำสำนักโบราณทั้งหมดจึงได้ส่งตัวแทนมาทำกฎข้อบังคับขึ้น ทำให้ประเทศจีนอยู่อย่างสงบสุขมาจนถึง 300กว่าปี
“ เอาล่ะ…ที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อจะขออำนาจทั้งหมดของตระกูลหลินคืน ”
!!
“ นั่นมัน…ไม่ได้หรอก ถ้าทำแบบนั้นตระกูลหลินในตอนนี้อาจจะถูกโจมตีจนล่มสลายได้เลยนะ เพราะกองกำลังชั้นยอดของตระกูลหลินเสียชีวิตไปหมดแล้วตั้งแต่ 12 ปีก่อน ” ท่านผู้นำพูดขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ ใช่แล้ว…สหายเซียนหลินทบทวนดูใหม่อีกทีเถอะ ” ต้วนมู่เฉียนเองก็ทักท้วงขึ้นอีกคน
เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน ตระกูลหลินรับปากจะส่งมอบอำนาจทั้งหมดคืนให้ประเทศ ทำให้พวกเหล่าตระกูลที่เป็นศัตรู ยอมปล่อยตระกูลหลินไป
“ ฉันคิดดีแล้ว…และตอนนี้ฉันเองก็ฟื้นคืนพลังมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ”
“ ถ้าพวกมันอยากรนหาที่ตายก็ให้มันมา! ”
เฮ้อออ
“ งั้นก็ได้…ฉันจะรีบจัดการให้ แต่ฉันหวังว่าผู้อาวุโสจะไม่เข่นฆ่าจนมากเกินไปนะ เพราะอีกสองเดือนประตูมิติของสำนักโบราณจะเปิดแล้ว ” ท่านผู้นำรับปากอย่างจำใจ
“ อีกเรื่องหนึ่ง…หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลจ้าวด้วยฝีมือของชายหนุ่มที่ชื่อว่าจ้าวเทียน ”
“ ฉันขอให้พวกนายอย่าสอดมือเข้าไปยุ่ง! ”
เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของต้วนมู่เฉียนก็เปลี่ยนไปทันที เพราะเขาก็ได้รับรายงานลับเกี่ยวกับเรื่องของชายที่ชื่อว่าจ้าวเทียนมาเช่นกัน
ปรมาจารย์หนุ่มยอดฝีมือที่มีอายุเพียงแค่ 20 ปี
“ ฉันขอถามเหตุผลหน่อยได้ไหม…ทำไมสหายเซียนหลินถึงช่วยเหลือชายหนุ่มผู้นี้ ” ต้วนมู่เฉียนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ เพราะ…เขาเป็นศิษย์น้องของฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...