สำนักงานใหญ่ซีลด์อเมริกา
ลึกลงไปใต้ดินประมาณสองร้อยเมตร ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ภายในสว่างไสวด้วยแสงจากดวงอาทิตย์จำลอง ทุกที่มีต้นไม้นานาพันธุ์เขียวชอุ่มอยู่ในกระถางที่วางตกแต่งไว้
กลิ่นหอมของดอกไม้ได้ล่อลวงให้มีผีเสื้อหลากสีบนบินร่ายรำอย่างเชื่องช้า แม้กระทั่งนกสวยงามตัวเล็กๆ บินไปมาตามต้นไม้เพื่อหาจับหนอนแมลงกิน
หากมีคนนอกเดินหลงเข้ามาคงคิดว่าตัวเองอยู่ในสวนสวรรค์ คงไม่มีใครคิดว่าที่ใต้ดินลึกสองร้อยเมตรจะมีสภาพแวดล้อมแบบนี้อยู่
นี่คือเทคโนโลยีการฉายภาพโฮโลแกรมที่สมจริงที่สุดในโลก สามารถจำลองได้แม้กระทั่งกลิ่นและเสียง ซึ่งเหมือนของจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
บนโต๊ะประชุมขนาดใหญ่มีเครื่องฉายภาพสามมิติ กำลังแสดงเหตุการณ์ตอนที่จ้าวเทียนทลายขอบเขตเซียนบนชั้นบรรยากาศเทอร์โมเฟียร์ ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินเกือบร้อยกิโลเมตร
ตามหลักแล้วมันไม่ควรจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้าช่วย แต่ชายที่อยู่ในภาพกลับสามารถทำได้
ภาพดวงอาทิตย์ขนาดเล็กที่เกิดขึ้น ได้ถูกวิเคราะห์จากการคำนวณของคอมพิวเตอร์ควอนตัม จนปรากฏเป็นข้อความที่มีตัวเลขแสดงค่าพลังต่างๆ
ผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ในห้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นข้อมูลเหล่านั้น เพราะหากสิ่งที่แสดงออกมาไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด ชายหนุ่มคนนี้ถือเป็นภัยพิบัติระดับ S เลยทีเดียว
“ แรงระเบิดที่เท่ากับหัวรบนิวเคลียร์สิบลูกงั้นเหรอ…ฉันไม่อยากคิดเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาเกิดควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ตอนที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ ” ดร.สตีฟพูดขึ้นด้วยความกังวล เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีนิวเคลียร์ ที่ถูกเชิญให้มาเข้าร่วมประชุมลับสุดยอดในครั้งนี้
“ นี่เป็นภาพที่ดาวเทียมสอดแนมของพวกเราถ่ายเอาไว้ได้…ก่อนที่จะขาดการติดต่อไป แม้ว่าภายหลังจะกู้คืนระบบกลับมาได้ แต่ก็ต้องส่งเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงอย่างเร่งด่วน เพราะมันได้อยู่ใกล้กับจุดที่เกิดแรงระเบิดมากเกินไป ” ริคจอห์นสัน ผบ.หน่วยซีลด์อธิบายออกมาด้วยแววตาเคร่งเครียด
“ จากข้อมูลที่เห็น…ผมสามารถบอกได้ว่าค่าพลังงานที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายเกิดจากพลังงานรังสีจากภายนอก ที่ชายคนนี้ได้ดึงดูดเข้ามา ” ดร.สตีฟวิเคราะห์ออกมา
เขาได้ย้อนภาพถอยหลังไปที่การก่อตัวของพายุพลังงานขนาดใหญ่ จากนั้นก็หยุดภาพเอาไว้ หลังจากอ่านข้อมูลที่เกิดขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไม่หยุด
“ คุณหมายถึง…พลังงานที่เราตรวจจับได้ในครั้งหลัง มันไม่ใช่พลังงานจากตัวเขาเองใช่ไหม ” ริคจอห์นสัน ถามขึ้นด้วยแววตาเฉียบคม
ถ้าชายคนนั้นมีพลังเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์เพียงลูกเดียวก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะในทีมของเขาก็มีหลายคนที่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
“ คือ…ในตอนแรกมันก็คงจะเป็นแบบนั้น ชายคนนี้เพียงต้องการแค่อาศัยพายุพลังงานรังสีเพื่อยกระดับพลังของตัวเอง แต่หลังจากอ่านข้อมูลที่เกิดขึ้นในตอนจบ ”
“ ผมเกรงว่าตอนนี้…ตัวของเขาได้กลายเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีชีวิตแล้ว ” ดร.สตีฟพูดขึ้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ คุณหมายความว่ายังไง ” ริคจอห์นสันถามขึ้นอย่างจริงจัง
“ ผมไม่แน่ใจว่าเขาสามารถทำมันได้อย่างไร…แต่ในตอนนี้พลังงานทั้งหมดจากพายุรังสีได้ถูกบีบอัดอยู่ในร่างกายของเขาแล้ว ”
“ หากจะให้ผมอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้ง่ายๆ…ในร่างเขาตอนนี้มันมีลูกแก้วเล็กๆที่ถูกบีบอัดด้วยพลังงานอันมหาศาลเทียบเท่านิวเคลียร์สิบลูก ”
“ ลูกแก้วลูกนี้เปรียบได้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่ผลิตพลังงานให้เขาใช้ได้เรื่อยๆ และถ้าให้ผมคาดเดาจากข้อมูล เกี่ยวกับระบบฝึกตนของประเทศจีนที่พวกคุณให้มา ”
“ พลังงานที่เราตรวจจับได้เมื่อวาน อาจจะยังไม่ใช่ขีดจำกัดสูงสุดของตัวเขา ลูกแก้วที่อยู่ในร่างของเขามันยังสามารถวิวัฒนาการได้อีก ”
“ และหากเป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ไว้…ครั้งต่อไปที่เขาเลื่อนระดับ ”
“ พลังงานที่เราตรวจจับได้อาจจะมากกว่า…”
“ ระเบิดนิวเคลียร์ร้อยลูก! ”
!!
บรรยากาศหนักอึ้ง ได้กดทับทุกคนที่อยู่ในห้องเอาไว้ ริคจอห์นสันหลับตาครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง
ผ่านไป 5 นาที
เขาก็ลืมตาขึ้นด้วยแววตาสงบนิ่ง ปราศจากความกังวลที่เกิดขึ้นในตอนแรก
“ ดร.สตีฟ…คุณออกไปได้ ”
หลังจากที่มองดูอีกฝ่ายออกจากห้องประชุมไปแล้ว เขาก็ได้หันไปหาชายคนอีกคนที่นั่งเงียบมาโดยตลอด
“ธันเดอร์…ชายคนนั้นมาจากสถานที่แบบเดียวกับนายหรือเปล่า”
สิ้นเสียงของริคจอห์นสัน ประกายสายฟ้าก็ได้ระเบิดออกมาจากดวงตาของบุรุษผู้นั้น เขามีผมสีทองยาว ใบหน้าหล่อเหล่าแฝงด้วยความดุดันของนักรบ
เมื่อรวมกับกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ทำให้ตัวเขาเปรียบเสมือนอวตารของเทพสงครามไม่มีผิด
“ ต้องรอให้ได้พบตัวจริง…ฉันถึงจะแน่ใจ ” ธันเดอร์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยชา เขาไม่ได้รู้สึกกังวลกับพลังของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ในโลกที่เขาจากมาผู้ที่มีพลังระดับนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไป
“ งั้นฉันคงต้องฝากนายจัดการ…หากมีโอกาสก็ชวนเขามาอยู่ข้างเรา แต่ถ้าหากอีกฝ่ายแสดงท่าทีเป็นศัตรู ”
“ ก็กำจัดซะ! ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นมุมปากของธันเดอร์ก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา สายตาอันดุดันของเขามองไปที่ภาพของจ้าวเทียนด้วยความคาดหวัง
‘ เด็กคนนี้อาจจะเป็นผู้สืบทอดของต้วนมู่เฉียน…ถ้ามีโอกาสฉันจะทำลายมันซะ! ’
ก็อกๆ
“ หัวหน้าครับ…มีแขกคนสำคัญมาขอเข้าพบ ”
!!
“ เขาเป็นใคร.. ” ริคจอห์นสันถามด้วยความสงสัย ลูกน้องเขาน่าจะรู้ดีว่าตอนนี้เป็นการประชุมลับ หากอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่พิเศษจริงๆคงจะไม่มาขัดจังหวะเขา
“ ฉันเอง ! ”
ด้วยหินวิญญาณระดับเทพสิบก้อนที่จ้าวเทียนใช้ไป ทำให้สถานที่แห่งนี้มีพลังวิญญาณหนาแน่นเทียบเท่าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนสวรรค์
ทำให้ฝึกตนได้ก้าวหน้ารวดเร็วกว่าโลกภายนอกเป็นร้อยเท่า มันมากกว่าโลกใบเล็กของสำนักโบราณมากนัก
เหยียนซืออู่ได้สูดเอาพลังอันบริสุทธิ์ที่อยู่รอบๆเข้าไป เขารู้สึกว่าพลังในร่างเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที
เพราะปราณฟ้าดินในโลกใบเล็กนั้น มันจะส่งผลเต็มสิบส่วนต่อขอบเขตที่ต่ำกว่าเซียนเท่านั้น ส่วนผู้ที่อยู่ในขอบเขตเซียนมันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนให้เพียงหนึ่งส่วน
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจกับบรรยากาศรอบๆตัวที่เป็นเปลี่ยนไป
ร่างแปลงเทพธิดาบนท้องฟ้าก็จางหายไปในอากาศ เพราะได้ใช้พลังไปจนหมดแล้ว ทำให้ตัวของลี่เหยาเหยาร่วงหล่นลงมา
‘ นี่ฉันกำลังจะตกลงไปเหรอ ’
สายตาของเธอมองไปยังพื้นดินที่ใกล้เข้ามาอย่างกังวล มันเกิดขึ้นเร็วมาก ในขณะที่ทุกคนกำลังถูกดึงดูดด้วยเขตอาคม และพลังจิตวิญญาณที่เปลี่ยนไป
ร่างของเธอลดระดับลงมาเรื่อยๆ
‘ ด้วยความสูงขนาดนี้ ฉันคงบาดเจ็บสาหัส ’
ลี่เหยาเหยาหลับตาไว้ด้วยความกลัว ภาพที่เธอเห็นตอนนี้มันน่าหวาดเสียวเกินไป ทันใดนั้นภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจเธอ
‘ นาย…จะช่วยฉันใช่ไหม ’
….
หมับ!
มืออบอุ่นข้างหนึ่งได้คว้าเอวของเธอเอาไว้ จากนั้นเธอก็ตกไปอยู่ในอ้อมกอดที่แข็งแกร่งของชายคนหนึ่ง
ร่างของลี่เหยาเหยาสั่นสะท้านเล็กน้อยด้วยความตกใจ และหัวใจที่สั่นรัวของเธอก็ค่อยๆสงบลงในไม่ช้า เมื่อได้ยินเสียงของเขา
“ เธอไม่เป็นไรนะ ”
เปลือกตาเธอเปิดออกอย่างช้าๆ…
ภาพใบหน้าที่คุ้นเคยของชายคนนั้น ทำให้มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่งดงาม
‘ ช้าจังนะ…ตาบื้อ ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...