เฟิงฉิ้นหว่านรีบประคองเสิ่นเยว่ขึ้นมา นางมีหลายเรื่องอยากพูด แต่ตอนนี้การโค่นล้มตระกูลเกาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด “ท่านแม่ ท่านรีบกลับไปที่เรือนก่อนนะเจ้าคะ ข้าจะแก้แค้นแทนท่านเอง”
เมื่อกล่าวจบก็รีบเดินตามจ้าวยี่และพวกออกไป นางกระโดดขึ้นมาแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังหอเซียวเซียงจุ๋น
เสิ่นเยว่ยังตั้งสติไม่ได้ จึงได้แต่เหม่อมองเฟิงฉิ้นหว่านเดินห่างออกไป ผ่านไปครู่ใหญ่ นางจึงก้มหน้าลงมองแขนเสื้อที่มีรอยเลือดเปื้อนอยู่ เป็นลอยเลือดจากเฟิงฉิ้นหว่านตอนที่นางประคองตนขึ้นมา......
ในใจของเฟิงฉิ้นหว่านอัดอั้นไปด้วยความแค้น บาดแผลที่ฝ่ามือของนางถูกเชือกบังเหียนม้าถูจนเนื้อแทบปริออกมาแล้ว แต่นางกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด
ในใจของนางเสิ่นเยว่ได้กลายเป็นแม่ของนางไปแล้ว วันนี้หากนางออกมาช้ากว่านี้ไปเพียงก้าวเดียว นางคงกลายเป็นลูกกำพร้าแม่ไปแล้วใช่หรือไม่
ไปตายซะ เกาหนาน
ตระกูลเกา สมควรตาย!
หอเซียวเซียงจุ๋น
เมื่อจ้าวยี่ไปถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงสั่งคนให้ไปปิดประตูทั้งหน้าหลังเอาไว้ จากนั้นค่อยพาคนบุกเข้าไปด้านใน
เจ้าหอเซียวเซียงจุ๋นรีบวิ่งออกมา พอเห็นว่ามีองครักษ์อยู่ในสวนและความวุ่นวายที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาก็ขาวซีดลงทันที “ใต้เท้าจ้าว เหตุการณ์ปกติแท้ๆ ท่านเข้ามาทำอะไรหรือ”
“มีคนมาร้องเรียนว่า หอเซียวเซียงจุ๋นแอบลักลอบสร้างหอนางโลมใต้ดิน เพื่อเอาไว้ทรมานผู้หญิง วันนี้ข้าจะมาเพื่อสืบคดีนี้”
“ใต้เท้า ต่อให้ท่านอยากทำคดีนี้ แต่ก็ควรจะมีหลักฐาน หากไม่มีหลักฐาน เหตุใดถึงกล้าบุกรุกเข้ามาเช่นนี้”
จ้าวยี่กระทืบเท้าก้าวเข้ามาข้างหน้าอีก “เจ้าไม่ยอมก็รอให้ข้าทำคดีเสร็จก่อน แล้วเจ้าค่อยมาสะสางกับข้าทีหลัง!”
เฟิงฉิ้นหว่านยืนมองอยู่ด้านข้าง นางค่อยๆ ยิ้ม เป็นไปตามที่นางคิดไว้ นางเลือกคนไม่ผิดจริงๆ จ้าวยี่คือคนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้
พลตระเวนบุกค้นไปจนทั่ว ในชั่วพริบตาสวนทั้งสวนจึงตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง
หัวหน้าหอของหอเซียวเซียงจุ๋นโดนเตะกระเด็น แต่ก็รีบลุกกลับขึ้นมา และคอยตระโกนห้ามอยู่อีกด้าน
ยิ่งเขาทำแบบนี้ สีหน้าของจ้าวยี่ก็ยิ่งดูไม่ได้
เฟิงฉิ้นหว่านหรี่ตาลง ตอนนั้นนางคิดบางอย่างออกจึงเอ่ยปากออกมาว่า “ใต้เท้า ท่านลองไปดูที่ภูเขาปลอมลูกนั้น ดูแล้วนูนขึ้นมามากกว่าปกติ ไม่ค่อยเข้ากับพื้นที่รอบๆ เท่าไหร่นัก”
จ้าวยี่รีบเดินเข้าไปดู “ภูเขาปลอมลูกนี้......ดูคล้ายเป็นประตูลับ”
“ใต้เท้าตาถึงนัก หากมีประตูลับ แสดงว่าอาจจะมีทางใต้ดิน ใต้เท้ารีบไปดูกันเถิด”
นางจำได้ว่าตอนที่เกิดเรื่องขึ้นที่หอเซียวเซียงจุ๋นเมื่อชาติก่อน นางก็เคยมาที่นี่ และหอนางโลมใต้ดินก็ลึกลับมาก หาอยู่นานกว่าจะหาทางเข้าใต้ดินเจอ
หากอยู่ใต้ดิน การมีประตูลับถือเป็นสิ่งที่เข้าท่าที่สุดแล้ว
จ้าวยี่สั่งให้คนไปล้อมเอาไว้ ไม่นานนักก็เจอที่ใส่กลอนได้และทำลายประตูลับนั้น
เขาเป็นคนนำเข้าไปก่อน เดินเข้าไปได้สิบกว่าก้าว ทางเดินก็สว่างขึ้นในทันที
มีป้ายหินติดอยู่ด้านข้างทางเดิน โดยเขียนเอาไว้ว่า สวนเริงรมย์วังใต้ดิน
ฝีเท้าของจ้าวยี่หยุดชะงัก จากนั้นความโกรธจึงแล่นพล่านไปทั่วร่าง ดวงตาของเขาแดงก่ำ
เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตาขึ้นมองเขา ไม่รู้ว่าหยุนซวนกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆ ถึงรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาแล้วหลบสายตาไปทันที
เป็นอะไรไป?
“ใต้เท้าจ้าว ต่อจากนี้ข้าคงช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วล่ะ ข้าเป็นห่วงท่านแม่ ข้าขอตัวกลับไปดูนางก่อน ไม่ทราบว่าใต้เท้าจะว่าอะไรหรือไม่”
ไฟโกรธที่ลุกโชนอยู่ในดวงตาของใต้เท้าจ้าวยังคงไม่หมดไป เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงฉิ้นหว่านก็พยักหน้าเล็กน้อย “เจ้ากลับไปเถิด ทว่าคดีนี้ยังมีจุดน่าสงสัยอยู่บ้าง หากข้ามีคำถามต้องถาม เจ้าต้องมาให้ความร่วมมือด้วย”
“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ ข้ายังมีเรื่องที่ท้าพนันอยู่ ใต้เท้าเองก็รู้”
จ้าวยี่พยักหน้า เฟิงฉิ้นหว่านหันตัวแล้วเดินออกไปด้านนอก
ระหว่างทาง มีคนวิ่งอย่างรีบร้อนปรากฏอยู่ให้เห็นตลอดทาง
สีหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านยังคงเรียบเฉย เมื่อมีลมที่พัดผ่านป่าไผ่มา กลิ่นใบไผ่ทำให้นางรู้สึกสดชื่นขึ้น
นางหยุดฝีเท้า แล้วมองไปยังท้องฟ้าที่มืดสลัวแล้วในตอนนี้
ลมพัดเอื่อย จันทร์กระจ่าง เมฆาบาง ดาวกระจ่างฟ้า
นางค่อยๆ ยกมือขึ้นไป นิ้วมือทั้งสิบเรียวยาวท่ามกลางความมืดสลัว ขาวสะอาดราวหยก ไม่มีแผลเป็นเก่าๆ ที่ซ้อนทับครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่มีแผลเหวอะวะที่ทำให้เจ็บถึงขั้วหัวใจ
ในที่สุดนางก็รู้สึกถึงความรู้สึกของการได้กลับมามีชีวิตใหม่อย่างแท้จริง
นางยังมีชีวิตอยู่ ดียิ่งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ