ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 132

อานผิงอ๋อง อยากเห็นหน้าลูกของตัวเองใจจะขาด แต่เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชาของเฟิงฉิ้นหว่าน เขาก็พยายามบังคับตัวเองให้สงบลง

ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเฟิงฉิ้นหว่านเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเห้อเหลียนฉางเซิงได้ ดังนั้นแม้ว่าเฟิงฉิ้นหว่านจะตบหน้าเขา เขาก็ไม่อาจแสดงท่าทางไม่พอใจกับนางอยู่ดี

ยังดีที่เขาไม่ต้องรอนานมากนัก ประตูห้องก็ถูกเปิดออก

สีหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านเย็นชากว่าก่อนหน้า “ท่านอ๋องเข้ามาดูด้านในเถิดเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณแม่นางเฟิงมาก” อานผิงอ๋อง กล่าวขอบคุณออกมาด้วยความนับถืออย่างยิ่ง หลังจากกล่าวจบแล้ว เขาก็รีบเดินเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นเห้อเหลียนฉางเซิงนอนหายใจอย่างสม่ำเสมออยู่บนเตียง น้ำตาของเขาก็ไหลออกมาทันที

อานผิงอ๋อง ลุกขึ้นยืน แล้วหันมาก้มตัวเคารพเฟิงฉิ้นหว่านอีกครั้งจากใจจริง “แม่นางเฟิง บุญคุณใหญ่ไม่อาจกล่าวเพียงคำขอบคุณ วันนี้หากเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้น แม้ต้องตายข้าก็ยอม”

“อานผิงอ๋อง ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ข้าเองก็ไม่กล้าที่จะไม่ช่วยเหลือท่านเช่นกัน ข้าเพียงหวังว่าท่านจะไม่เป็นอย่างครั้งที่แล้วที่พูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่างอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของอานผิงอ๋อง จึงแดนก่ำ ความโกรธที่อยู่ในใจของเขายากที่จะใช้คำพูดระบายออกมาได้ “เป็นความผิดของข้าเอง ข้าหน้ามืดตามัวและทำผิดต่อแม่นางเฟิง”

“คนที่ท่านอ๋องควรขอโทษไม่ใช่ข้าแต่เป็นลูกชายของท่าน”

”ใช่ เป็นเพราะข้าเลอะเลือน ทำให้ฉางเซิงพลอยลำบากไปด้วย ข้าไม่ควรทำอย่างนั้นเลย

“ท่านอ๋องเข้าใจความหมายของข้าแล้วหรือยังเจ้าคะ” เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตาขึ้นมอง เรื่องบางอย่างจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนนี้

อานผิงอ๋อง ชะงักแล้วนึกถึงคำพูดของเฟิงฉิ้นหว่าน “แม่นางเฟิงหมายถึง ก่อนหน้านี้ที่เจ้าพูดว่าข้าตกหลุมพรางของหยุนเลี่ยว?”

“ใช่เจ้าค่ะ”

อานผิงอ๋อง ค่อยๆ ใจเย็นลง เมื่อเห็นว่าเห้อเหลียนฉางเซิงไม่เป็นไร เขาจึงค่อยๆ กลับมาใช้ความคิดทบทวนอีก แต่ก็ยังคิดไม่ออกในตอนนั้นจึงได้แต่มองไปยังเฟิงฉินหว่านอย่างขอความช่วยเหลือ

“แม่นางเฟิง……”

ความสิ้นหวังในแววตาของเฟิงฉิ้นหว่านยิ่งเข้มข้นขึ้น “ท่านอ๋อง หากวันนี้ไม่สามารถช่วยเห้อเหลียนฉางเซิงกลับมาได้ คนที่ท่านแค้นที่สุดจะเป็นใคร”

“แน่นอนว่าต้องเป็นตระกูลหยุน”

“หึ คนที่ท่านอ๋องจะแค้นใจมากที่สุดไม่ใช่คนที่เฝ้ามองอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้คนตายไปโดยไม่ช่วยหรอกหรือ” เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตาขึ้นมองเขา

ความไม่อยากจะเชื่อในสีหน้าของเขายิ่งปรากฏชัดขึ้นอีก “แม่นางเฟิง……”

“ท่านอ๋องอย่าอ้ำๆอึ้งๆ อยู่เลย พวกเราก็แค่ตั้งข้อสมมติฐานเท่านั้น”

“ใช่ หากวันนี้ไม่สามารถช่วยฉางเซิงได้ คนที่ข้าแค้นใจมากที่สุดก็คงจะเป็นแม่นาง ไม่แน่ข้าอาจจะยกมีดขึ้นจ่อเพื่อขู่เอาชีวิตแม่นางด้วยซ้ำ” อานผิงอ๋อง ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับตระกูลหยุนทำสำเร็จตามเป้าหมาย ก่อนหน้านี้หยุนเลี่ยวใช้หอชมจันทราเพื่อเอาชนะหอหญิงงามเมือง หลังจากที่ทำไม่สำเร็จจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ข้าแทน คราวนี้ที่เขาพาหมอเทวดาคนนั้นมา ไม่ได้ทำเพื่อรักษาคุณชายน้อย แต่เป็นการวางกับดักข้าต่างหาก”

เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มเย้ย

“หยนุเลี่ยวก็แค่หวังดีแนะนำหมอให้ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีก หากท่านอ๋องต้องการให้เขาได้รับการชดใช้ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนหมอเทวดาผู้นั้น เกรงว่าตอนนี้คงเปลี่ยนชื่อแซ่ไปแล้ว ป่านนี้ก็คงหนีไม่รู้ไปถึงไหนต่อไหน”

ตอนนี้ท่าทางของอานผิงอ๋อง ไม่ต่างอะไรกับสิงโตที่กำลังเดือดพล่าน เขาเดินวนไปวนมาในห้องนั้น ก่อนจะเริ่มใจเย็นลง “ขอบคุณแม่นางเฟิงมากๆ ที่เตือนข้าเรื่องนี้”

“ท่านอ๋องไม่ต้องขอบคุณข้าหลายๆ รอบหรอก ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ได้อยากรับ หากข้าไม่เห็นแก่คุณชายน้อยที่มีจิตใจดีและใสซื่อ วันนี้ข้าคงไม่ช่วย……”

แผนการของหยุนเลี่ยวเกือบจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่มีสิ่งเดียวที่เขาพลาดไปนั่นคือประเมินความสามารถทางการแพทย์ของนางต่ำเกินไป จึงไม่คิดว่านางจะสามารถช่วยเห้อเหลียนฉางเซิงกลับมาจากประตูนรกได้ หากไม่เป็นเช่นนี้เรื่องนี้คงจบไม่ง่ายนัก

เมื่อนึกถึงตรงนี้ แววตาของเฟิงฉิ้นหว่านก็ยิ่งแข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ “แม้ว่าที่นี่จะเป็นอาราม แต่มีคนผ่านไปผ่านมาตลอดจะไม่ค่อยปลอดภัยนัก รีบพาตัวคุณชายกลับไปดูแลต่อเถิด จะได้ป้องกันผู้ประสงค์ร้ายด้วย”

อานผิงอ๋อง เกือบเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปแล้ว ตอนนี้เขาจึงยังคงรู้สึกหวาดระแวงอยู่ “แม่นางเฟิง สภาพร่างกายของฉางเซิงตอนนี้ ข้าไม่สามารถวางใจได้จริงๆ แถมยังไม่สามารถเชื่อใจคนใกล้ตัวได้อีกด้วย ข้าจึงอยากเชิญแม่นางเฟิงลงเขาไปกับข้า ข้ามีเรือนหลังหนึ่งที่สามารถให้แม่นางไปพักได้ชั่วคราว”

“ท่านอ๋อง ข้าอยู่กับท่านแม่คงไม่สะดวกเท่าไหร่นัก”

“ข้ารู้ดีว่าข้าทำให้ท่านลำบากใจ แต่ว่าตอนนี้……แม่นางเฟิง ได้โปรดช่วยข้าเถิด ถ้าหากฮูหยินไม่ยินดี ข้าจะไปขอร้องด้วยตัวเอง……”

เฟิงฉิ้นหว่านขมวดคิ้ว : กว่านางจะช่วยชีวิตเห้อเหลียนฉางเซิงกลับมาได้นั้นไม่ง่ายเลย หากนางละเลยจนทำให้เขาเสียชีวิต เช่นนั้นแล้วจะเท่ากับว่าความพยายามทั้งหมดของนางสูญเปล่า

“เช่นนั้นก็รีบไปเก็บของเถิด”

อานผิงอ๋อง ยินดีอย่างยิ่ง “ได้ๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ