หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วขึ้นมา
มีหนึ่งคนเปิดปากพูดอย่างอดไม่ได้ “แม่นางเฟิง สิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดล้วนไม่ผิด เงินก็เพียงพอ แต่มีบางจุดที่ข้าไม่เข้าใจ ต้องการทำการค้าเช่นนี้ ต้องการกำลังคนมากมาย อีกทั้งมุ่งในการลงทุนเงินมากมายขนาดนี้ พูดได้ว่าสุดท้ายก็ยังเป็นการค้าที่ขาดทุน เช่นนี้จะมีความหมายหรือ?”
“พวกเราไม่ได้หาเงินจากตัวคนจนเหล่านี้ หรือว่าจะไม่สามารถหาเงินพวกนี้จากตัวคนรวยเหล่านั้นได้เชียวหรือ?”
เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มลุ่มลึกมุมปาก
“บนตัวคนจนเหล่านี้ พวกเราได้รับเพียงแค่คำสรรเสริญ แม้กระทั่งต้องไปสนับสนุนเงิน แต่เมื่อพวกเราสะสมคำสรรเสริญเหล่านี้เพิ่มขึ้นแล้ว คนจนเหล่านั้นก็จะตายใจยอมรับพวกเรา ธัญญาพืชที่พวกเขาเพาะปลูกมาได้ สัตว์ที่พวกเขาเลี้ยง ไหมดิบทอผ้าที่ผลิตได้ ไม่ใช่ว่าล้วนสามารถรับเข้าคลังของพวกเราได้ทั้งหมดหรือ?”
สายตาเฟิงฉิ้นหว่านแน่วแน่จนทำให้คนเชื่อถือและศรัทธา
“ถึงเวลานั้น ก็อย่าได้สนใจอะไรราชวงศ์การค้าไม่ราชวงศ์การค้า ไม่มีไหมดิบก็ทอผ้าไหมออกมาไม่ได้ เกรงว่าแผงร้านค้าของท่านคงต้องใหญ่ขึ้นอีก ไม่มีรากฐาน ก็จะเปลี่ยนเป็นวิมานบนอากาศหนึ่งหลัง บนตัวของคนจนไม่อาจทำกำไรได้ แต่กลับช่วยให้พวกเราทำเงินได้มากมายจากคนรวย คราวนี้พ่ายแพ้คราวต่อไปค่อยทดแทน ผลสุดท้ายยังไงก็ได้กำไร”
สีหน้าของหวางจื้อหยวนค่อย ๆ แน่วแน่ “ท่านชายฉิน สิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูดไม่ผิด แต่ต้องการให้เป็นจริงนั้นกลับยากมากถึงที่สุด มากจนกระทั่งเวลาหลายปีต่อแต่นี้ไป พวกเราทั้งหลายล้วนต้องวิ่งเต้นเพื่อเรื่องนี้ นี่ยังเป็นตอนที่ตระกูลหยุนไม่ได้สังเกตเห็น บนพื้นฐานไม่อาจลงมือทำได้ ท่านชายฉินเคยครุ่นคิดถึงการลงทุนครั้งใหญ่นี้ว่าแท้จริงแล้วคุ้มค่าหรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบดวงตาขึ้นมา “กรมเรือชุ่นทงของนายท่านหวางมีความสนใจจะกลายเป็นเจ้าค้าราชวงศ์หรือไม่ ลองลิ้มรสทัศนียภาพของตระกูลหยุนดูสักหน่อย?”
หวางจื้อหยวนตกใจทันที่อยู่ที่เดิม ทันใดก็ปรากฏรอยยิ้มเจื่อน ๆ “ท่านชายฉิน นี่ไม่ใช่ตั้งใจพูดแกล้งให้ข้ามีความสุขหรือ?คนที่ทำการค้า มีใครบ้างไม่อยากเป็นเจ้าค้าราชวงศ์?”
“อย่างนั้นข้าก็สามารถบอกนายท่านหวางได้อย่างชัดเจน การค้าขาดทุนนี้หากทำสำเร็จ นายท่านหวางอีกทั้งทุกท่านที่นั่งอยู่จะต้องมีทัศนียภาพที่ดีกว่าเจ้าค้าราชวงศ์แน่นอน!”
หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ นิ่งขรึมลง
เจ้าค้าราชวงศ์ ชื่อเสียงนี้สามารถรักษาชื่อเสียงเกียรติยศได้ร้อยปี พวกเขาทั้งหลายหากสามารถได้รับ อย่างนั้นก็สามารถฝันแล้วยิ้มจนตื่นได้จริง ๆ
ท้ายที่สุด หวางจื้อหยวนก็ยิ้มไปพลาง ส่ายหน้าถอนหายใจไปพลาง
“ท่านชายฉิน ท่านนี่ช่าง……ท่านนี่ช่างรีบให้พวกเราปีนขึ้นภูเขาสูงที่สามารถตกลงมาตายได้ตลอดเวลาจริง ๆ
เฟิงฉิ้นหว่านอมยิ้มถาม “อย่างนั้นนายท่านหวางคิดได้แล้วหรือไม่?ต้องการที่จะปีนภูเขาสูงลูกนี้หรือไม่?”
หวางจื้อหยวนและอีกสามคนต่างมองตากัน พยักศีรษะอย่างหนักแน่น “ปีน!”
ใครให้เฟิงฉิ้นหว่านอยู่บนยอดเขาสูงลูกนี้เล่า ปล่อยให้พวกเขาฝันถึงสิ่งที่อยากได้หรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น แค่ต้องละเอียดสักหน่อย ก็ไม่แน่นอนว่าจะตกลงมาจากบนภูเขาลูกนี้ ทำการค้ามาหลายปี ใครยังไม่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและการทุ่มกำลัง?
หากตัวพวกเขาเพียงแค่คิดจะผ่านไปเงียบ ๆ วัน ๆ ไม่ช้าก็จะนำเงินที่ได้มาไปหาสถานที่ที่อิสระแล้ว แล้วทำไมยังจะลอยอยู่บนโลกการค้าต่อไป?
เฟิงฉิ้นหว่านยกแก้วสุราขึ้น “ทุกท่านช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวจริง ๆ ฉิ้นหว่านอดนับถือไม่ได้ ขอคาราวะให้ทุกท่าน”
หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆ ยกแก้วสราดื่มรวดเดียวจนหมด ในใจล้วนรู้สึกถึงการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น พวกเขาล้วนแยกไม่ชัดเจน ว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกถึงการต่อสู้ที่สูงขนาดนี้
เฟิงฉิ้นหว่านเทสุราใส่แก้วเหล้าให้หวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆจนเต็มอีกครั้ง “ในใจทุกท่านน่าจะชัดเจน เรื่องนี้จำเป็นต้องทำอย่างเงียบ ๆ เมื่อถูกทางตระกูลหยุนสังเกตเห็น ก็เป็นไปมากว่าแผนการจะล้มเหลวก่อนที่จะดำเนินการ ดังนั้นขอให้ทุกท่านรักษาความลับให้ดี ไม่ใช่ญาติสนิทชิดเชื้อก็ไม่อาจฝากฝังให้ผู้อื่นดูแลได้ง่าย ๆ
ทุกคนยกแก้วกันอีกครั้ง สีหน้าเอาจริงเอาจังมากกว่าครั้งก่อนก่อนหลายเท่า
ส่งหวางจื้อหยวนและคนอื่น ๆกลับไป ในหอหญิงงามเมืองก็ไม่มีแขกคนอื่น เฟิงฉิ้นหว่านก็สั่งให้คนปิดประตู
ในใจฉินฮั๋วเหนียนกังวลอย่างช่วยไม่ได้ “คุณหนู ต้องนำเงินเหล่านี้โปรยออกไปทั้งหมดจริง ๆ หรือ?”
“ท่านอาฉิน เงินอยู่ในมือหากไม่ใช้จ่ายก็เป็นเพียงของตาย เพียงแค่จ่ายออกไปถึงจะสามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ขึ้นมาได้”
“แม้จะพูดเช่นนี้ แต่เงินมากมายขนาดนั้น ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกสับสนอย่างช่วยไม่ได้ ยังเป็นคุณหนูที่จิตใจมั่นคง”
ฉินฮั๋วเหนียนอดไม่ได้ที่จะเคารพเลื่อมใสต่อเฟิงฉิ้นหว่านจริง ๆ คนทั่วไปอย่าว่าแต่จ่ายเลย แค่เห็นเงินเยอะขนาดนี้ก็ล้วนรู้สึกขาอ่อนแรงแล้ว
ดวงตาของเฟิงฉิ้นหว่านห้อยลง ยิ้มเบาเบา “ท่านอาฉิน การสู้รบครั้งนี้หากแพ้แล้ว เงินเหล่านั้นเกรงว่าหากยังอยู่ในมือข้าท้ายที่สุดก็รักษาไว้ไม่ได้ นำไปทำการค้าขาดทุนนี้ อย่างน้อยได้รับชื่อเสียงบ้าง ก็ทำให้คนจนเหล่านั้นได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริงบ้าง เปรียบไม่ได้กับเก็บไว้ไม่ได้ใช้จ่ายหรือไม่?”
“คุณหนู สภาพทางเศรษฐกิจในเวลานี้ ไม่สามารถขอความช่วยเหลือท่านชายฟู่ได้สักหน่อยจริงหรือ?”
รอยยิ้มมุมปากของเฟิงฉิ้นหว่านเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ตอนนี้ในเวลานี้ คนน่าจะถึงเมืองหลวงแล้ว น้ำที่ห่างไกลแก้ไขไฟอันใกล้ไม่ได้ พูดอีกก็คือ……ข้าไม่คุ้นชินที่จะเอาชีวิตฝากไว้ในมือผู้อื่น”
ได้ยินคำพูดนี้ ในใจฉินฮั๋วเหนียนก็ปวด “คุณหนูไม่ได้ตัวคนเดียว ข้าจะยืนอยู่เคียงข้างคุณหนู คอยสนับสนุนท่านไปตลอด”
“ขอบคุณท่านอาฉินมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ