ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 161

หยุนฉิวล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ขาวซีด นำมือปิดบาดแผลตรงไหล่พร้อมกับความเจ็บปวดที่ส่งผลให้สีหน้ามีความดุร้าย “เป็นเรื่องเข้าใจผิด……ไม่เป็นไรหรอก”

ฟู่ลั่วเฉินโยนดาบที่อยู่บนมือลงด้วยเสียงดังกราว หันไปมองที่จ้าวยี่ “ใต้เท้าจ้าว หัวหน้าตระกูลหยุนยังยอมรับเลยว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้เจ้าจะไม่มาสืบสวนข้าและให้ข้าต้องมารับผิดชอบใช่ไหม?”

ความขมขื่นได้แวบเข้ามาในใจของจ้าวยี่ ตราบใดที่ท่านชายปลอดภัยดี ในขณะนี้ถ้าฟู่ลั่วเฉินนำมือข้างหนึ่งบิดหัวของหยุนฉิวหลุดลง เขาก็ไม่ได้มีใจที่จะสืบสวนไล่ตามต่อไป

“ข้าได้รับฟังแล้ว เป็นเพียงความเข้าใจผิด ไม่จำเป็นที่จะต้องสืบสวน”

ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้า “งั้นข้าจะกลับไปที่สวนเพื่อทำการพักฟื้นละ อ๋อใช่ ศพของหยุนฮั่นยังอยู่ตรงหอหญิงงามเมือง ใต้เท้าจ้าวพยายามดับไฟให้เร็วที่สุด นำศพออกมาเพื่อทำการตรวจสอบ ข้าเพียงแค่เหลือบมองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ช้ำไปทั้งหน้า เลือดออกทางปากและจมูก ตายเพราะโดนสารพิษอย่างชัดเจน”

“ทราบ”

เฟิงฉิ้นหว่านมองไปยังหอหญิงงามเมืองที่ลุกไหม้ไปด้วยไฟ “ท่านชาย ยังมีเหว้ยหลัน……”

“วางใจได้ ไม่เป็นไร ”

หยุนซวนเดินมาอย่างกะเผลก ได้เห็นเฟิงฉิ้นหว่านปลอดภัยดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยสีแห่งความสุข “แม่นางเฟิงไว้ใจได้ ตอนเจ้าช่วยท่านชายพันแผลอยู่ ก็มีคนได้ขึ้นไปช่วยแม่นางเหว้ยหลันลงมาแล้ว”

เฟิงฉิ้นหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีแล้ว……”

“ท่านชาย、แม่นางเฟิง รถม้าได้เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ณ ตอนนี้ก็กลับสวนไปพักผ่อนเถอะ”

“ได้”

เฟิงฉิ้นหว่านพยุงตัวฟู่ลั่วเฉินขึ้นรถม้าอย่างระมัดระวัง กำลังจะขึ้นไปนั่งตาม ก็เห็นเสิ่นเยว่วิ่งมาอย่างเร่งรีบ 

“ฉิ้นหว่าน!”

“ท่านแม่!”

เฟิงฉิ้นหว่านเพิ่งพูดเสร็จ วินาทีต่อมานางก็ถูกเสิ่นเยว่ดึงเข้าไปในอ้อมกอดโดยตรง 

“เจ้าเนี่ยเจ้าสาวโง่ ตัวเองจะไปผจญภัยแล้ว แต่ดันส่งท่านแม่ออกจากเมือง นี่เจ้าโง่ใช่ไหม?”

ตอนช่วงเช้า เสิ่นเหย่ออกจากเมืองไปยังหมู่บ้านกับสาวๆของหอหญิงงามเมือง ตกลงกันแล้วว่าถ้าได้จัดการทำให้คนเหล่านั้นคุ้นชินหรือสงบลงก็จะกลับมา แต่ว่าตอนที่นางจะเดินทางกลับไปนั้น แม่นมโจวดันพูดว่าเฟิ่งฉิ้นหว่านได้สั่งการไว้แล้ว ให้พวกเขาพักอยู่ตรงหมู่บ้านนี้สักสองคืน

เสิ่นเยว่รู้สึกได้ทันทีเลยว่ามันผิดปกติ จึงได้กลับไปสู่เมืองอย่างเร่งรีบ ได้เห็นสภาพหอหญิงงามเมืองที่ถูกไฟลุกโชนท่วมท้น นางรู้สึกเพียงเสียงหึ่งในหัวสมองนาง แทบจะทนไม่ไหวที่จะหมดสติตายไป ยังดีที่เฟิงฉิ้นหว่านไม่เป็นอะไรไป 

ฟู่ลั่วเฉินเปิดม่านรถแล้วเดินลงมา ใบหน้าที่หล่อเหลากับสีหน้าที่ซีด ครึ่งของแขนเสื้อเต็มไปด้วยคราบเลือด ไอด้วยเสียงเบาเล็กน้อย แทบทนไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความกังวล ดูเหมือนว่าวินาทีต่อมาร่างกายจะอ่อนเพลียและล้มลงกับพื้น 

“ฮูหยิน มีบาดแผลบนร่างกาย จึงไม่สามารถที่จะทำความเคารพฮูหยินได้ ได้โปรดฮูหยินอย่าถือโทษเลย”

“ตรงไหนกัน เราต่างหากที่ต้องขอบเจ้าท่านชายฟู่ ถ้าไม่ใช่ท่าน วันนี้ฉิ้นหว่านต้องซวยมากแน่ๆ ขอเชิญท่านชายรับคำขอบเจ้าของเราด้วยเถอะ!”

เสิ่นเหย่กล่าวเสร็จพร้อมกับกำลังจะคำนับเพื่อขอบเจ้า

ฟู่ลั่วเฉินไออย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้ายิ่งขาวซีดมากขึ้น “ฮูหยิน แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด แบบนี้ไม่ใช่เป็นการทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่รับไม่ได้หรือ?” 

เฟิงฉิ้นหว่านรีบไปด้านหน้า ระมัดระวังอย่างมากที่จะพยุงตัวครึ่งบนของฟู่ลั่วเฉินขึ้น จากนั้นตัวเองก็นั่งตรงด้านหลังของเขา ให้เขาได้พิงอยู่ในอ้อมแขนของนาง

“แม้ว่าซี่โครงของท่านชายไม่ได้กระทบถึงอวัยวะหัวใจ แต่การบาดเจ็บตามกล้ามเนื้อและกระดูกต้องใช้เวลาเป็นหนึ่งร้อยวัน ความเจ็บปวดจะรุนแรงเป็นพิเศษ ขอท่านชายทนอีกนิด ถ้ากลับถึงสวนแล้ว ข้าจะจัดหายาให้ทันที หลังจากที่ท่านชายได้ทานหรือใช้ไปแล้ว ก็จะไม่ต้องรู้สึกเจ็บแบบนี้อีก” 

ฟู่ลั่วเฉินหลับตาลงเบาๆ สีหน้าเริ่มแสดงออกถึงความอ่อนแอมากยิ่งขึ้น “ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหน่อยแล้ว……” รถม้าได้มาถึงในสวน เฟิงฉิ้นหว่านระมัดระวังอย่างมากที่พยุงตัวของฟู่ลั่วเฉินไปยังบนเตียงนอน 

“ท่านชาย เจ้านอนรออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าไปเตรียมน้ำอุ่นและผงยาสักพัก และช่วยท่านชายพันแผลใหม่ตรงบริเวณแผลบนแขน ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้าด้วยความฝืน “งั้นเจ้าเร็วหน่อยนะ ไม่อย่างนั้น ข้าจะเจ็บตายแล้ว”

เฟิงฉิ้นหว่านรีบพยักหน้า “ข้าจะรีบเตรียมให้เร็วที่สุด” หน้าประตูมีองครักษ์ได้ยินคำสั่งแล้ว จึงรีบไปนำน้ำร้อนรวมถึงผงยามา เฟิงฉิ้นหว่านได้ถือไปยังห้องนอนด้วยตัวของนางเอง ก้าวเท้าที่รีบเดินได้หยุดลง บนที่นอน ตาของฟู่ลั่วเฉินทั้งสองข้างได้ปิดสนิท ได้หลับลึกไปแล้ว 

เฟิงฉิ้นหว่านได้ปรับท่าทางเป็นช้าๆและค่อยๆ นั่งตรงขอบเตียง จ้องมองไปยังฟู่ลั่วเฉินผู้ที่หลับสนิทอยู่บนเตียง เพิ่งจะสังเกตถึงรายละเอียดที่ที่ผ่านมาไม่เคยได้เห็นชัด ใต้คางของเขามีหนวดสีฟ้าเข้ม เหมือนกับว่าไม่ได้จัดการดูแลมาหลายวัน ทั้งตัวก็ทรุดผอมลง โดยเฉพาะใต้ตา ติดไปด้วยฟ้าดำเป็นแผ่นๆ แค่มองไปดูก็รู้เลยว่าไม่ได้พักผ่อนมาเป็นเวลานานเลย เฟิงฉิ้นหว่านล้างมืออย่างสะอาด ตัดเสื้อบนตัวของฟู่ลั่วเฉินออกอย่างระมัดระวัง แล้วอึ้งอยู่กับที่ ก่อนที่ฟู่ลั่วเฉินจะไปจากหลินผิงไปนั้นได้ถูกลอบสังหาร แขนได้รับบาดเจ็บ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านไปนี้ ไม่เพียงแต่แผลไม่หายดี กลับกลายเป็นแย่ลงเรื่อยๆ บริเวณแผลได้เกิดหนอง แดงและบวมอย่างมาก ตรงขอบแผลได้ม้วนขึ้นเล็กน้อย เลือดที่แข็งตัวแล้วได้ติดหนืบไว้กับเสื้อผ้า มองดูแล้วเลอะเทอะไปหมด 

เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆลอกเสื้อเหล่านั้นออก จากนั้นช่วยทำการล้างแผลให้เขาอย่างรอบคอบสะอาดถี่ถ้วน ตรงปากแผลที่มีหนองออกจำเป็นที่จะต้องตัดเนื้อที่เน่าเสียออก ถ้าไม่อย่างนั้น ปากแผลจะแย่ลงเรื่อยๆ

ไม่ว่าเฟิงฉิ้นหว่านจะระมัดระวังมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดได้ แต่ว่ากระบวนการทำแผลรวมถึงการพันแผลใหม่นั้น จะมีเพียงแค่ตอนที่ฟู่ลั่วเฉินรู้สึกเจ็บมากๆ จะขมวดคิ้วและส่งเสียงออกมาโดยไม่อ้าปาก ไม่ตื่นขึ้นมาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ 

ปลายนิ้วของเฟิงฉิ้นหว่านสั่นเล็กน้อย ความเปรี้ยวฝาดได้ผุดขึ้นมาในใจ นางค่อยๆเอื้อมมือออกไป ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆระหว่างคิ้วที่มีรอยย่นของฟู่ลั่วเฉิน 

เจ็บปวดรุนแรงขนาดนี้ แต่กลับไม่ตื่นขึ้นมา ต้องเหนื่อยถึงระดับไหนกันแน่? 

ฟู่ลั่วเฉินดูเหมือนจะหลับลึกไปในความฝัน ขนคิ้วย่นขึ้นเรื่อยๆ มุมปากขยับเล็กน้อย ได้กระซิบเสียงแผ่วออกมา “เฟิงฉิ้นหว่าน……”

เฟิงฉิ้นหว่านตกตะลึงครู่หนึ่ง นางกุมมือของฟู่ลั่วเฉินอย่างลังเล “ท่านชาย ข้าอยู่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ