ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 164

หยุนซวนได้ออกจากที่นั่น ฟู่ลั่วเฉินพิงอยู่ขอบข้างเตียง แสงประกายในดวงตาค่อนข้างที่จะคาดเดายาก 

เฟิงฉิ้นหว่านได้ทำข้าวต้มมังสวิรัติ ยังได้เตรียมอาหารอีกสองจานที่ปรุงแต่งเพื่อให้ท่านชายได้มีความอยากอาหาร นางได้ถือมายังห้องของฟู่ลั่วเฉิน 

“ท่านชาย อาหารเช้าได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เฟิงฉิ้นหว่านได้แสดงสีหน้ายิ้มแย้มด้วยความอบอุ่น “ท่านชายจะรับประทานบนเตียง หรือจะลงมารับประทานบนโต๊ะ?”

ฟู่ลั่วเฉินนึกถึงประโยคที่หยุนซวนได้กล่าวไว้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา หนังหน้าต้องหนา? ถ้าหากว่าไร้ประโยชน์ ควรใช้ก้อนแห่งสมบัติน้ำลมนั้นแล้วจริงๆ

“แค๊กๆ หน้าอกของข้าเจ็บปวดมากเกินไป ตอนนี้ขยับตัวไม่ได้”

ขยับไม่ได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าสามารถที่จะให้เฟิงฉิ้นหว่านป้อน?

“ข้าคิดออกแล้ว เมื่อกี้ที่ผ่านมาตอนข้าออกไปทำกับข้าว ได้ถามท่านพี่องครักษ์ทั้งสองท่านตรงหน้าประตู ให้พวกเขาช่วยหาโต๊ะเล็กๆอันหนึ่งวางบนเตียงพอดีกับการที่ท่านชายใช้รับประทานอาหาร” 

องครักษ์ตรงประตูได้ยินคำสั่ง พวกเขารีบไปนำโต๊ะเล็กๆที่ได้เช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนั้นมาวางลงบนเตียง ความสูง ความกว้าง กำลังพอดี 

สายตาฟู่ลั่วเฉินได้เพ่งมองไปยังโต๊ะเล็กๆ ทันใดนั้นรู้สึกว่าองครักษ์เหล่านั้นไม่ใส่ใจเหมือนกับหยุนซวนเลยจริงๆ 

เฟิงฉิ้นหว่านนำอาหารวางบนโต๊ะเล็กของฟู่ลั่วเฉิน ได้จัดวางช้อนและตะเกียบ และสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มได้กล่าวว่า “ท่านชายรีบรับประทานเถอะ”

“แล้วเจ้าละ?”

“ห้องครัวยังเหลือไว้หน่อยหนึ่ง รอท่านชายรับประทานเสร็จ ข้าค่อยไปรับประทานสักหน่อย”

สายตาของฟู่ลั่วเฉินได้จมลง “เจ้าไม่รู้หรือไงว่าถ้าเรื่องแบบนี้ได้ถูกแพร่ออกไป คนอื่นอาจพูดว่าข้านั้นได้ปฏิบัติต่อข้าน้อยอย่างเข้มงวด?” 

เฟิงฉิ้นหว่านซึมไปสักครู่หนึ่ง โดยปกติแล้วเจ้านายกับข้าน้อยก็คือต้องแบ่งแยกความอยู่สูงต่ำกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือที่ไม่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน? เหตุใดถึงกล่าวถึงการกระทำความเข้มงวดไม่เข้มงวดละ?

“ท่านชาย……”

“เจ้าไปเอาของเจ้ามาตรงนี้ มารับประทานร่วมกับข้า”

เฟิงฉิ้นหว่านเห็นว่าฟู่ลั่วเฉินได้พูดอย่างแน่วแน่ จึงไม่พูดอะไรมากอีก กล่าวคำขอบคุณอย่างดีอกดีใจ “ขอบคุณท่านชาย”

ทั้งสองคนรับประทานอย่างเงียบๆบนโต๊ะที่วางอยู่บนเตียง บางทีก็สบตากัน ถึงแม้จะไม่พูดกันสักคำ แต่ได้เผยให้เห็นถึงความอบอุ่นอันจางๆ 

จนถึงตอนที่ได้เก็บถ้วนจานบนโต๊ะ เฟิงฉิ้นหว่านอดไม่ได้ที่จะตะลึงสักพัก เหมือนไม่ได้รับประทานอาหารที่สถานการณ์เงียบสงบแบบนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว 

ตั้งแต่เกิดใหม่ยันปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินการขยับตัวก็ไม่กล้าที่จะรู้สึกผ่อนคลาย ตอนที่เดินนั่งยืนนอน ความคิดในหัวก็มักจะชอบนึกวางแผนถึงวันในอนาคตข้างหน้า แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อกี้ขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ ดันไม่นึกถึงอะไรเลย 

ฟู่ลั่วเฉินให้องครักษ์มาเก็บโต๊ะเล็กลงไป จ้องไปยังเฟิงฉิ้นหว่าน “ก่อนที่เจ้าจะไปทำกับข้าว ได้บอกว่ามีเรื่องจะบอกข้า ตอนนี้บอกได้แล้ว” 

เฟิงฉิ้นหว่านปรับเปลี่ยนสีหน้าที่แสดงออกอย่างรวดเร็ว แม้แต่รอยยิ้มบนในหน้าของนางก็จางลงเล็กน้อย 

ได้เห็นเขาในท่าทางลักษณะนี้ ฟู่ลั่วเฉินรู้สึกประหม่าใจขึ้นมา อยู่ๆก็จริงจังขึ้นมา หรือว่าคิดวิธีอะไรออกมาแล้วเพื่อเป็นการรับผิดชอบตัวข้า? 

เฟิงฉิ้นหว่านแยกแยะความคิดอย่างละเอียด เพิ่งจะกล่าวออกจากปาก “ท่านชาย ตลอดเวลาที่ท่านได้ออกไปจากที่นี่  ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะพวกผู้ค้าขายที่ได้ลงนามโฉนดการค้ากับข้า ส่วนใหญ่เลือกที่จะเปลี่ยนใจอย่างกระทันหัน ทำตามความป้องปรามของตระกูลหยุน อย่างไรก็ตามยังมีหวางจื้อหยวนและคนอื่นๆแน่วแน่ที่จะยืนข้างข้า” 

ทันใดนั้นหลังอันแข็งเล็กน้อยของฟู่ลั่วเฉินก็ได้ผ่อนคลายลง ดวงตาของท่านได้กวาดไปที่มุมริมฝีปากอันเป็นสีชมพูอ่อนของเฟิงฉิ้นหว่าน 

ปากนางดูดีจริงๆ  เหมือนกลีบดอกไม้บานสะพรั่ง เงางามชมพูอ่อน แต่นางก็ไม่ได้พูดสิ่งที่ท่านชายอยากจะฟัง!

“แล้วยังไงต่อ”

“จากนั้นข้าก็ได้ร่วมมือกับพวกเขาในการลงทุนค้าขาย……” เฟิงฉิ้นหว่านบอกเรื่องที่ได้ปรึกษากับหวางจื้อหยวนและคนอื่นๆเกี่ยวกับกลยุทธ์ทั้งหมดให้กับฟู่ลั่วเฉินได้รับรู้ “ท่านชาย ท่านพ่อเคยกล่าวกับข้าไว้ อย่าดูถูกผู้ที่ยากจนเด็ดขาด บางคนในพวกเขาอาจไม่มีความสามารถมากนัก แต่ถ้าหากว่าผู้คนยากคนในโลกนี้มาร่วมมือกัน มีพลังล้นเหลือที่จะเอาชนะทุกอย่างได้” 

“มีอีกเรื่องหนึ่ง ตระกูลหยุนทางนั้น……”

ฟู่ลั่วเฉินจับตรงหน้าอกพร้อมกับไอสองครั้ง หน้าตาที่หล่อเหลานั้นได้ขาวซีดอย่างอ่อนๆ “แคกๆ……”

เฟิงฉิ้นหว่านหยุดพูดทันที “ท่านชาย เป็นยังไงบ้าง?”

เปลือกตาของฟู่ลั่วเฉินดิ่งลงเล็กน้อย เส้นผมสีดำด้านหลังร่วงหล่น ทำให้ท่านชายหน้าซีดมากขึ้นและอ่อนเพลีย “ไม่ค่อยดี”

“ผิดที่ข้า ท่านชายเพิ่งฟื้น ก็ชวนคุยเรื่องพวกนี้ ท่านชายพักผ่อนเถอะ ข้าไปเฝ้าดูผู้ที่ต้มยา” 

เฟิงฉิ้นหว่านพูดเสร็จ ลุกขึ้นก็จะเดินจากไป 

“แคกๆ……” ฟู่ลั่วเฉินยิ่งไอหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว

เฟิงฉิ้นหว่านรีบหยุดเดิน นั่งตรงขอบเตียงแล้วตรวจชีพจรให้กับท่านชายอีกครั้ง “ท่านชายไม่เป็นไรใช่หรือ?”

ซี่โครงที่หักมาก่อน ไม่ได้สะเทือนถึงหัวใจแน่นอน ทำไมอยู่ๆถึงไอได้แรงขนาดนี้? 

“แผลตรงอกข้าเจ็บปวดมาก ถ้าอย่างนั้นอยู่คุยเป็นเพื่อนข้าเถอะ คุยกันเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความสนใจที่ได้จดจ่อไปยังความเจ็บปวด อาจไม่เจ็บปวดขนาดนั้นแล้วก็ได้?”

เฟิงฉิ้นหว่านทำสีหน้าแปลกใจ “แต่แผลของท่านชายคือตรงซี่โครง บริเวณอกจะสั่นสะเทือนขณะเมื่อพูด น่าจะยิ่งปวดเข้าไปใหญ่……หรือว่าเป็นเพราะทักษะทางการแพทย์ของข้าไม่มาตรฐาน ไม่ได้วินิจฉัยครบถ้วนถึงอาการอื่นๆอีกของท่านชาย?”

ดวงตาฟู่ลั่วเฉินกระพริบเล็กน้อย “งั้นเจ้าก็ยิ่งไปจากที่นี่ไม่ได้แล้ว จะทำอย่างไรถ้าหากเจ้าไปและอาการข้ากำเริบ? การช่วยเจ้าครั้งนี้ ข้าเจ็บปวดสาหัสมากๆเลย……”

ดังนั้นควรรับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบ การหลบหนีไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหา!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ