ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 174

ดวงตาของฟู่ลั่วเฉินเต็มไปด้วยความโกรธที่ไหลเวียนอยู่ “ตรวจสอบได้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใดที่รับซื้อยาจกทั้งสอง ทำให้ทั้งสองนั้นมีใจทรยศ?”

“ร่องรอยถูกตัดขาดอย่างไร้ร่องรอย สืบหาไม่พบ”

ฟู่ลั่วเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “คิดไปคิดมา ไม่ได้มีแค่เพียงพวกเขาเหล่านั้นแหละ ยังหาไม่ได้ว่าใครคือผู้เป็นรูปธรรม ถ้าอย่างนั้นความผิดบาปนี้ก็ให้พวกเขาทั้งหมดเท่าเทียมกัน”

“ท่านชาย……” เฟิงฉิ้นหว่านสายตาสั่นเล็กน้อย “หยุนชีฝั่งนู้น ข้าอยากไปพบเขาด้วยตัวข้าเอง ฟังดูว่าเขาจะพูดอย่างไร”

“ได้” ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้า “ข้าให้คนไปเตรียมรถม้า เจ้ารีบไปรีบกลับ”

“ขณะนี้อาการบาดแผลของท่านชายไม่มีปัญหาอะไรมาก แค่ต้องรับประทานยาตามเวลาในทุกวัน ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ข้าจะไปอาศัยในบ้านตัวเอง?”

บรรยากาศรอบตัวฟู่ลั่วเฉินในขณะนั้นเริ่มลึกลงไปอย่างมาก “แล้วแต่เจ้า”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าข้าค่อยมา” เฟิงฉิ้นหว่านพูดเสร็จ จีงให้เหว้ยหลันเตรียมของนิดหน่อยอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็ออกไปจากสวน 

ฟู่ลั่วเฉินนั่งบนตรงเก้าอี้ ความเย็นรอบตัวไม่หยุดยั้งที่จะแพร่ออกนอกไป

หยุนซวนอยู่ด้านข้างก็ได้กล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านชาย ท่านพูดอย่างอ้อมนี่ไม่ได้นะ ท่านไม่อยากให้แม่นางเฟิงไป อย่างน้อยก็ต้องพูดออกมาสิ ท่านไม่พูดออกมา ใครจะไปรู้ว่าท่านคิดอย่างไร”

ฟู่ลั่วเฉินหยิบถ้วยชาข้างๆท่านแล้วจิบ “ไปช่วยข้าทำสมุนไพรแก้ร้อนในหนึ่งชาม”

“ท่านชาย ท่านโกรธหรือ? จะให้ไปหาแพทย์มาดูให้ไหม?”

“กินขนมก้อนน้ำตาลขาวมากไป ปวดฟันเล็กน้อย”

หยุนซวนตกใจไปทีหนึ่ง รีบเอามือปิดปากตัวเอง ไม่ให้ตัวเองหลุดขำออกมา “ท่านชาย ท่านทำไปเพื่ออะไร?”

ก็ว่าแล้ว เมื่อก่อนท่านชายไม่เคยชอบกินของหวาน ทำไมป่วยทีหนึ่งก็ชอบกินขนมก้อนน้ำตาลขาวไปเลยละ ที่จริงแล้วก็เพื่อเอาใจแม่นางเฟิงนั่นเอง

ฟู่ลั่วเฉินนำสายตาอันเย็นชากวาดไปยังตัวหยุนซวนรอบวงทีหนึ่ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “เจ้าไม่เข้าใจ”

ท่าทางที่แอบหัวเราะของหยุนซวนได้แข็งตัวไว้ สักพักค่อยๆเดินออกไป “ปวดฟัน ข้าน้อยมีประสบการณ์ ไปเป็นดอกไม้สีขาวที่บานช่วงฤดูใบไม้ผลิ!”

กินของหวานมากไป ก็กินขมเข้าไปให้มันเท่าเสมอๆกัน ก็จะดีขึ้นแล้ว

ข้าน้อยก็อารมณ์เสียเป็น เชอะ!

ประตูบ้านตระกูลหยุน เฟิงฉิ้นหว่านได้หยุดรถม้า มองเห็นนั่งยองๆลงที่มุมประตูใหญ่ หยุนซีผู้นั่งโหดตัวรอคอยอยู่

ก็ไม่รู้ว่าเขารออยู่ตรงหน้าประตูมาแล้วกี่วันกี่คืน ขณะนั้นสีหน้าขาวซีด ผมบนหัวยุ่งเหยิง ริมฝีปากได้แห้งจนมีรอยแตก มองเห็นเฟิงฉิ้นหว่านสายตาอันว่างเปล่ากลับกลายเป็นสีสันขึ้นมาทันที ลุกขึ้นมาก็ขาพลิกนิดหนึ่ง รีบคุกเข่าลงต่อหน้าเฟิงฉิ้นหว่าน 

“บ่าวขอพบคุณหนู”

เฟิงฉิ้นหว่านยับยั้งขนตาอันแสนหนาของนางเล็กน้อย ค่อยๆเอ่ยเสียง “ทำไมรออยู่หน้าประตูละ?”

“บ่าวรอคุณหนูกลับมา”

แม่นมโจวผู้ออกมาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงรีบเดินออกมา “คุณหนูกลับมาแล้ว หยุนชีนี้อยู่รอที่หน้าประตูมาสามวันแล้ว ให้เข้ามาก็ไม่ยอมเข้ามา ให้ของก็ไม่กิน ไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น”

เฟิงฉิ้นหว่านหันมองไปยังหยุนชี “เข้ามาตามข้าเถอะ”

“ทราบ”

“แม่นมโจว ท่านบอกท่านแม่คำหนึ่งก่อน ก็บอกว่าข้าและหยุนชีมีเรื่องจะคุยกัน พูดเสร็จแล้วก็จะไปทักทายท่าน”

“ได้”

เฟิงฉิ้นหว่านพาหยุนชีกลับไปที่ลานนอกบ้านของนาง 

สามวันที่ไม่ได้กลับมา ลานนอกบ้านเก็บกวาดได้อย่างสอาดสะอ้าน แม้กระทั่งเก้าอี้โยกใต้ต้นกุ้ยฮัวก็เช็ดได้อย่างสะอาดไร้ฝุ่น 

เฟิงฉิ้นหว่านนั่งบนตรงเก้าอี้โยก สายตาอันเงียบกริบมองไปยังหยุนชี “เจ้ามีอะไรจะบอกข้า?”

เจ้าชายใหญ่ของตระกูลหยุน?”

“ใช่ ท่านชายใหญ่ของตระกูลหยุนวางยาเพื่อให้พวกเขาพูดความจริง บอกว่าประวัติตระกูลหยุนคือมักจะต้องให้คนพี่ที่เกิดก่อนมาเป็นนายท่านหากว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงต่อคนที่เกิดก่อน  ก็ต้องเลือกลูกคนโตของฝั่งญาติ หอหญิงงามเมืองได้เกิดเรื่อง หยุนเลี่ยวและหยุนฮั่นแน่นอนว่าจะไม่รอดสักคน อีกอย่างท่านชายใหญ่ของตระกูลหยุนก็สุขภาพไม่แข็งแรง จะมีชีวิตอยู่เพียงแค่อีกไม่กี่ปี ฉะนั้นข้าผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นลูกคนโตฝ่ายตระกูลหยุน ถึงเวลานั้น ตำแหน่งนายท่านตระกูลหยุนไม่มีให้เลือก เขาต้องนำตระกูลหยุนมาฝากไว้ที่มือข้าแน่นอน”

เฟิงฉิ้นหว่านหัวเราะอย่างเย็นชา สายตามีความเยาะเย้ยอันหนักแน่นแวบเข้ามา “อย่างนี้นี่เอง สืบทอดตระกูลหยุนทั้งหมด ก็จะมีอนาคตที่ดีกว่าการอยู่กับข้า ยิ่งเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นท่านชายฟู่ไม่อยู่ อ๋องผิงหวางออกจากตระกูลเฝิงโดนทุบตีจนหายใจแทบไม่ออก มองดูแล้วเหมือนใจจะขาดและแตกสลาย พี่น้องที่ดีของเจ้าพวกนั้นก็จำเป็นต้องจัดวางแผนที่ดีกว่าเพื่ออนาคตของเจ้า”

ฆ่านางเสีย สำหรับตระกูลหยุนแล้ว เป็นเกียรติบัตรเสนอชื่อที่ดีที่สุดมิใช่หรือ?

ไม่แปลกเลยที่เป็นพี่น้องที่ดีกัน คิดได้อย่างรอบคอบจริงๆ!

หยุนชีกัดฟันอย่างแน่น แก้วตาที่แสนแดงมีหยดน้ำตาไหลลงมา “คุณหนู บ่าวเองที่ทำไม่ดีต่อคุณหนู บ่าวยอมตายเพื่อแลกยกโทษบาป”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก พวกสองคนนั้นที่หักหลังข้าละ?”

“ถูกองครักษ์หยุนซวนจับไปแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปเถอะ”

ทันใดนั้นหยุนชีเงยหน้าขึ้น ในสายตามีความหมดหวังและความหวาดกลัวทำให้กลืนเขาทั้งเป็น “คุณหนู ข้าไม่ไป……”

“ท่านชายใหญ่ของตระกูลหยุนสามารถมาหาถึงหัวเจ้าได้ แสดงว่ากำลังเตรียมเปิดเผยเรื่องนี้แล้ว แค่ข้าผู้ที่ทะเลาะกับตระกูลหยุนสภาพนี้จนถึงปัจจุบัน เจ้าคิดว่า ข้าจะยังอาศัยอยู่กับคนตระกูลหยุนอีกหรือ?”

“คุณหนู ข้าไม่อยากเป็นคนตระกูลหยุน ข้าอยากอยู่ข้างๆคุณหนู เป็นบ่าวให้ท่าน” น้ำเสียงหยุนชีเต็มไปด้วยความขอร้อง 

แต่สายตาเฟิงฉิ้นหว่านกลับเฉยชา “หยุนชี ข้าไม่ได้เป็นคนดีอะไร และไม่ได้มีใจเมตตาใดๆ ก่อนหน้านี้ที่ข้าเชื่อใจเจ้า นำความปลอดภัยและชีวิตข้าฝากไว้กับเจ้า ให้คนของเจ้ามาจัดการทั้งหมดตรงหอหญิงงามเมือง แต่ท้ายสุด กลับส่งผลให้ข้าเกือบตายที่หอหญิงงามเมือง คนแบบข้าไม่มาใส่อารมณ์กับเจ้า ก็ถูกยับยั้งเป็นอย่างมากแล้ว”

“ขอร้องคุณหนูให้โอกาสข้าอีกรอบ ข้าจะไม่หักหลังคุณหนูอีกตลอดไป” นี่เป็นผู้ที่ถึงแม้จะทุ่มด้วยชีวิตก็ต้องตอบแทนบุญคุณ จะเต็มใจทรยศได้อย่างไร?

“หยุนชี หักหลังรอบเดียว จะไม่ใช้ร้อยรอบ ข้าเป็นคนแบบนี้แหละ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ