การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฟู่ลั่วเฉิน ทำเอาฉียุ่นเซิงยืนนิ่งอยู่กับที่ จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างไม่พอใจว่า“ท่านชาย ข้าได้ให้สามเณรรูปอื่นๆขวางท่านเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือ ? ทำไมท่านยังมาที่นี่อีก?”
เขายังคงคิดที่อยากจะล้วงความลับจากเฟิงฉิ้นหว่านอยู่!
“ข้าเกรงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น”สายตาฟู่ลั่วเฉินกวาดมองไปยังเฟิงฉิ้นหว่าน สำรวจมองสีหน้าที่มีความเย็นเยือกของนาง แอบถอนหายใจ เพิ่งจะเกลี้ยกล่อมคนได้สำเร็จ หากลุงฉีพูดอะไรเหลวไหลจนทำเอาคนแตกตื่นแล้วหนีหายไป มันจะยิ่งเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย
ฉียุ่นเซิงเค้นเสียงหึ ยกมือแล้วดึงผ้าสไบออก“ท่านชายยังไม่รู้จักคนอย่างเหล่าฉีอีกหรือ ? ข้าจะทำร้ายแม่นางเฟิงได้อย่างนั้นหรือ ? จะมีอันตรายได้ยังไงกัน?”
“ที่ข้ากลัวใช่เรื่องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับนาง”
“ถ้าเช่นนั้นท่านชายยิ่งไม่ต้องกังวลใจไป ข้าไม่มีทางทำอะไรฮูหยินเป็นแน่ ”
ฟู่ลั่วเฉินละล่ำละลัก ต่อหน้าเฟิงฉิ้นหว่านกับเสิ่นเยว่ ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดว่าที่เขากังวลนั้นคือ——ฉียุ่นเซิง
ใบหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านเผยรอยยิ้มไร้ที่ติ มุมปากยกหยักโค้งขึ้นอย่างพอดี แต่แววตากลับมีความเย็นเยือก“ท่านชายสมควรจะแนะนำหน่อยหรือไม่?”
“ฮูหยิน ฉิ้นหว่าน บุคคลนี้คือสหายของท่านพ่อ แซ่ฉี คนในจวนต่างเรียกขานเขาว่าลุงฉี นิสัยของลุงฉีนั้นรักอิสระ โดยทั่วไปก็ชอบทำเรื่องสนุกอะไรเช่นนี้ ครั้งนี้ก็เป็นเพียงการหยอกล้อ ขอฮูหยินได้โปรดอภัย”
สองมือฉียุ่นเซิงยกประสานคารวะไปยังทางเสิ่นเยว่ “ทำฮูหยินตื่นตระหนก ต้องขออภัยฮูหยินด้วย ”
เสิ่นเยว่ส่ายศีรษะ “ข้ามิเป็นไร”
ฉียุ่นเซิงก็หันมองไปยังเฟิงฉิ้นหว่าน“ได้ยินท่านอ๋องกล่าวถึงแม่นางเฟิงมานาน ไม่คิดว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แม่นางช่างงดงามนัก ดูไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป คงมิได้ถือสาการหยอกล้อของข้าเมื่อครู่ใช่หรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านหันมองไปยังฟู่ลั่วเฉิน จากนั้นก็หันมองไปยังฉียุ่นเซิงที่กำลังยิ้มแย้ม ยกยิ้มบางเบา “จะถือสาได้อย่างไรกัน ? ข้าก็เหมือนเช่นลุงฉี ชอบความสนุกสนานรื่นเริง หยอกล้อ หากข้าหยอกล้อลุงฉีเล่นบ้าง ท่านคงไม่ถือสาเช่นกันใช่หรือไม่?”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น”
เฟิงฉิ้นหว่านที่อยู่ตรงหน้าใบหน้างดงาม นัยน์ตาสุกใส ในตอนที่ยิ้มดวงตาก็เป็นประกาย สง่างาม ช่างเป็นหญิงสาวที่หาได้ยากเสียจริง
เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มกว้างมากขึ้น หยิบเอาขวดลายครามใบหนึ่งออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าของฉียุ่นเซิง“อย่างนั้นก็เชิญลุงฉีกินยาถอนพิษเม็ดหนึ่ง”
ในใจของฟู่ลั่วเฉินไหววูบเล็กน้อย เมื่อครู่ที่เดินดุ่มเข้ามานั้นถือว่าทำถูกต้องแล้ว หากช้าอีกนิด ไม่แน่ว่าอาจไม่ทันการ
ฉียุ่นเซิงกลับตะลึงงัน “ยาถอนพิษ?มันอะไร……”
คำถามที่เอ่ยถามยังไม่ทันได้ถามจบ เขากลับรู้สึกแน่นไปที่หน้าอก จากนั้นก็ล้มหงายลงไปกับพื้น
สีหน้าเฟิงฉิ้นหว่านรีบแสดงความรู้สึกผิดขึ้นในทันที“ลุงฉีอย่าเพิ่งสนใจเรื่องอันใด ใช้ยาถอนพิษก่อนสำคัญกว่า ”
หากยังชักช้าพิษจะกำเริบขึ้น
หยุนซวนที่อยู่ด้านข้างรีบเดินเข้ามา หยิบเอาเม็ดยาที่อยู่ในขวดยัดลงไปในปากของฉียุ่นเซิง จากนั้นก็หันมองไปยังพระภิกษุของตำหนักไฟแห่งแสงที่ล้มอยู่ที่พื้น“แม่นางเฟิง บุคคลผู้นี้ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
“พระผู้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างไม่ได้เป็นอะไร วางแค่ยาสลบเขาไปเท่านั้น พาออกไปยังด้านนอกสถานที่ที่ปลอดโปร่ง นอนพักสักหนึ่งชั่วยามก็จะดีขึ้น ”
ฉียุ่นเซิงถูกหยุนซวนประคองจนค่อยๆลุกยืนขึ้นได้ สายตาที่มองไปยังเฟิงฉิ้นหว่านก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“การหยอกล้อของแม่นางเฟิงนี้ช่างดียิ่งนัก ล้ำเลิศกว่าข้ามาก ไม่ทราบว่าแม่นางวางยาข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
“ระหว่างทางที่เดินมาสักการะไฟแห่งแสงเจ้าค่ะ ”
“เหตุใดข้าถึงไม่รู้สึกอันใดเลย?”
“คิดอยากจะหยอกล้อ ก็ย่อมต้องไม่ให้ท่านรู้ตัว มิเช่นนั้นการหยอกล้อยังจะเรียกว่าหยอกล้อได้อีกอย่างไรกัน ?”
เฟิงฉิ้นหว่านถามอย่างร้อนรน“ลุงฉีหมายความว่าราชบัลลังก์ของตงเหว้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นหรือ ?”
“อืม”
“อ๋องผิงหวางเพียงคนเดียวมีความสามารถถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
“ตั้งแต่ที่พระชายาของอ๋องผิงหวางได้สิ้นไป ใจของเขาก็จดจ่ออยู่กับลูกชายที่เจ็บป่วยออดแอด สายตาคนนอกคงเห็นเพียงความลังเลไม่เด็ดขาด ไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ในความเป็นจริง ลูกสาวของเขาต่างก็ออกเรือนกันไปหมดแล้ว สามีของแต่ละคนก็มากความสามารถ หากร่วมมือกันก็เพียงพอที่จะทำให้ประเทศตงเหว้ยสั่นคลอนได้ อีกทั้งอ๋องผิงหวางก็ยังครอบครองทรัพย์สมบัติไว้มากมาย ทำการค้าขายไปทั่วทุกสารทิศมานานหลายปี ก็มีสหายอยู่ไม่น้อย หากเขาคิดกระทำการ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอันใด ”
หัวใจเฟิงฉิ้นหว่านเต้นระรัว สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชาติที่แล้ว หากอ๋องผิงหวางทำสำเร็จจนส่งผลให้ราชบัลลังก์ของตงเหว้ยเกิดการเปลี่ยนแปลง สำหรับนางแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น
ฟู่ลั่วเฉินบีบพัดในมือแน่น “ลุงฉีกลับมาก็ดี ที่เมืองหลวงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ข้าเกรงท่านพ่อจะจัดการลำพังไม่ได้ ”
“ข้ามิได้บอกจะไปเมืองหลวงเสียหน่อย เมืองหลวงนั้นมองดูเจริญรุ่งเรือง แต่จริงๆแล้วเปรียบดั่งแอ่งน้ำนิ่ง ทุกอย่างล้วนเป็นไปในวิธีการเดิมๆ หลินผิงดีที่สุดแล้ว หากอนาคตที่ตงเหว้ยมีความวุ่นวายเกิดขึ้นจริง ข้าก็อยากอยู่รอดูความโกลาหลนั้น สร้างรายได้ด้วย ไม่มีทางไปถูกขังอยู่ในเมืองหลวงที่เป็นกรอบสี่เหลี่ยมนั้นแน่ ”
“ลุงฉีไม่มาช่วยข้าหรอกหรือ ?”ฟู่ลั่วเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“หากช่วยข้าคงจะช่วยแม่นางเฟิง เจ้าเป็นบุรุษ ต้องหัดเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง” ฉียุ่นเซิงพูดจบ ดวงตามีประกายไหววูบ“ระหว่างทางที่ข้ามาได้ยินว่า แม่นางเฟิงกำลังทำการค้าที่ขาดทุน ข้าคิดว่าข้าพอจะช่วยเจ้าได้ ”
ฟู่ลั่วเฉินยิ้มอย่างจนใจ “เช่นนี้ก็ดี ข้ากำลังคิดว่าจะให้ใครมาเข้าร่วมการซื้อขายนี้ มีลุงฉีออกหน้า คนเดียวแทนสิบคน”
“แม่นางเฟิงคิดว่าอย่างไร?” ฉียุ่นเซิงถามความเห็นของเฟิงฉิ้นหว่าน
“ย่อมไม่มีปัญหา”เฟิงฉิ้นหว่านใบหน้ายกยิ้ม“ ต่อไปต้องรบกวนลุงฉีคอยดูแลแล้ว ”
มีมิตรภาพของฉียุ่นเซิงกับอ๋องผิงหวาง บวกกับบุณคุณที่เธอให้ยาถอนพิษกับเห้อเหลียนฉางเซิงกับอ๋องผิงหวางไป โดยให้หลินผิงเป็นหัวเมืองการค้าของตงเหว้ย ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ