แล้วฟู่ลั่วเฉินสนทนากับจวนยู่ชินอ๋องเพียงอีกไม่กี่คำ องค์ชายสามพาคนมาหาถึงที่
ริมฝีปากของจวนยู่ชินอ๋องโผล่ออกมาด้วยความหัวเราะเยาะ “ดูแล้วองค์ชายสามก็ทราบแล้วว่าเรื่องบางเรื่องมันปิดบังไม่ได้ ลั่วเฉิน เจ้าจะไปพบกับเขาหรือไม่? ถ้าหากไม่อยากพบ ท่านพ่อจะไปพบเขาด้วยตัวท่านพ่อเองและช่วยเจ้าดันเขาไปให้พ้น ก็บอกว่าบนตัวเจ้ายังมีบาดแผลจนถึงวันนี้ก็ยังรักษาไม่หายขาด ไม่สะดวกที่จะพบกับแขก”
“ได้ รบกวนท่านพ่อแล้ว” ฟู่ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่ได้รู้สึกดีสักนิดกับองค์ชายสาม จึงขี้เกียจตอบสนองกลับ
จวนยู่ชินอ๋องออกไปเผชิญเพื่อขัดขวางองค์ชายสาม ฟู่ลั่วเฉินอยากกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน กำลังเดินถึงประตูนอกรั้ว การก้าวเท้าหยุดอย่างไม่ตั้งใจ
เห็นเพียงผนังรั้วนอกบ้านของเขาถูกรื้อใหม่หมด มุมของกำแพงได้ปลูกกุหลาบเป็นทุ่งเป็นทุ่ง ตอนนี้ดอกได้บานเป็นสีชมพู มองดูแล้วดูชื่นบานดี
หยุนซวนอยู่ด้านข้างเอ่ยด้วยเสียงที่ทำให้ท่านชายสะดุ้ง “ท่านชาย ดูแล้วเหมือนว่าท่านอ๋องและพ่อบ้านฝูได้พยายามอย่างมาก ลองคิดดูสินี่ก็แค่เพียงไม่กี่วัน ลานนอกบ้านของท่านชายก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อก่อนซ่อมแซมที่หลังคาทะลุบนห้องหนังสือยังไม่เร็วขนาดนี้เลย”
ฟู่ลั่วเฉินก้าวเท้าไปยังลานนอกบ้าน ทันใดก็ได้ตะลึงขึ้นมาทันที
เห็นเพียงแต่ตรงลานบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้ ระหว่างทุ่งดอกไม้ได้ปูทางที่ทำจากก้อนกรวด ตั้งใจเรียงหินอย่างเป็นลวดลาย ยังมีศาลาเพิ่มมาอีกที่หนึ่ง เสาทองสังกะสีเหลือง มุมของหลังคางอขึ้นบน ตรงมุมสี่เหลี่ยมได้ห้อยระฆัง ลมพัดมาก็จะมีเสียงสะท้อนออกมา ประดับได้อย่างละเอียดปราณีตเป็นพิเศษ
หยุนซวนอ้าปากกว้าง เพียงแต่รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อ “ท่านชาย ไม่แปลกที่ท่านไม่พาแม่นางเฟิงกลับมา ท่านอ๋องจึงผิดหวังขนาดนี้ นี่ก็ไม่รู้ว่าต้องพยายามไปเท่าไหร่ ถ้าไม่อยากนั้นคราวหน้าท่านพยายามอีกเยอะๆ หลายปีที่ผ่านมานี้เพื่อที่ท่านอ๋องจะเร่งท่านรีบแต่งงาน ก็ไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ”
ฟู่ลั่วเฉินเดินตามทางที่ปูด้วยหินกรวดมายังศาลา สายตาหยุดอยู่ที่ระฆังที่ได้ส่งเสียงอันคมชัด “เฟิงฉิ้นหว่านน่าจะชอบ”
“แสดงว่าท่านยอมรับความคิดเห็นของข้าน้อย คราวหน้าจะพาแม่นางเฟิงกลับมา?”
“ข้าจะพยายาม”
ฟู่ลั่วเฉินทิ้งสามคำนี้ไว้ ก็ได้หันหลังเดินกลับไปยังห้องของตัวเอง
หยุนซวนอดกลั้นเสียงอันมีไช อยู่หลังท่านชายโดดขึ้นสองที “แม่นางเฟิงได้เห็นการจัดแต่งของจวนอ๋องต้องชอบแน่ๆ ถึงจะไม่ชอบ เพียงแค่นางสั่งคำเดียว จวนอ๋องก็ต้องกลายเป็นลักษณะตามที่นางชอบแน่นอน”
เห้อ เพื่อเรื่องใหญ่ของชีวิตของท่านชาย ทุกคนในจวน ตั้งแต่เจ้านายยันลูกน้องในจวนอ๋องพยายามสุดความสามารถเลยจริงๆ!
อารมณ์ในใจฟู่ลั่วเฉินขึ้นๆลงๆ อดไม่ได้ที่จะหยิบจดหมายที่เขียนโดยเฟิงฉิ้นหว่านที่เขาได้รับระหว่างทางออกมา
ทุกๆสามวันต้องเขียนหนึ่งฉบับ ไม่ได้มีเรื่องเยอะแยะที่จะต้องรายงาน เฟิงฉิ้นหว่านก็ไม่อยากให้ฟู่ลั่วเฉินคิดว่านางรับมือกับเรื่องปัญหาต่างๆดังนั้นจึงทำได้เพียงเขียนเรื่องที่ได้ทำในแต่ละวันอย่างละเอียด แล้วพยายามเขียนให้ดูมีความเพลินไปด้วย
ฟู่ลั่วเฉินดูลายมืออันสวยงามของเฟิงฉิ้นหว่าน ตรงความคิดในหัวค่อยๆผสมผสานกลายเป็นร่องรอยในการกระทำวันนี้ของนาง ก็เหมือนกับว่าตัวเองยังคอยอยู่เคียงข้างนาง
ในขณะนี้ หยุนซวนรีบเดินเข้ามายังประตู “ท่านชาย เมื่อกี้อาฝูส่งสารมา บอกว่าท่านอ๋องเชิญท่านไปยังหน้าห้องโถงพบกับท่านองค์ชายสามหน่อย”
ฟู่ลั่วเฉินเก็บจดหมายอย่างละเอียดค่อยๆ คิ้วค่อยๆขยับ “ท่านพ่อไม่ได้กำจัดองค์ชายสามไปหรือ?”
“ถ้าพูดอย่างมีเหตุผล ไม่ควรจะมีเหตุการณ์แบบนี้ หรือว่าฝั่งองค์ชายสามพูดอะไรไป?” หยุนซวนก็รู้สึกแปลกใจ
ฟู่ลั่วเฉินยืนขึ้นจากตรงไปยังหน้าห้องโถง
ในหน้าห้องโถง ชายหนุ่มในชุดสีม่วงเข้มกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ หน้าเขาเหมือนกวานหยก ยิ้มตรงมุมปาก ทุกการกระทำแสดงออกถึงการมีมารยาทเป็นพิเศษ แน่นอนคือองค์ชายสายฟู่ถางเซิง
“พบท่านชายสาม”
“ลั่วเฉินไม่ต้องเคารพมาก ได้ข่าวว่าเจ้ากลับมาจากหลินผิงแล้ว จึงตั้งใจมาเยี่ยมเยียน ไม่ได้รบกวนเวลาพักผ่อนเจ้าใช่หรือ?”
แสงเย็นเฉียบแวบเข้ามาในใจฟู่ลั่วเฉิน องค์ชายสามอยากสื่อถึงอะไร?
“ทีแรกข้ากังวล ฉิ้นหว่านเป็นหญิงสาวที่พิเศษ ข้าไม่อยากทำให้นางผิดหวังและทรมานนาง ดีที่ว่าท่านพ่อรักที่สุดคือข้า จึงเลือกประนีประนอม”
องค์ชายสามหัวเราะเบาๆ “ลั่วเฉิน ท่านอาชอบและรักเจ้าสุด ไม่ว่าเจ้าอยากจะทำอะไร ไม่มีสักครั้งที่ไม่สนับสนุนเจ้า แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจท่าน แม่นางเฟิงจะดีมากแค่ไหน แต่ฐานะต่ำไป อีกอย่างเคยเข้าออกหอนางโลม หญิงสาวแบบนี้ไม่สามารถเข้าจวนอ๋องได้หรอก”
“สิ่งนี้ท่านก็ไม่ต้องไปคิดมากหรอก”
“ช่วงนี้จะมีการประกวดแล้ว ท่านแม่พระสนมกล่าวถึงเรื่องแต่งงานของเจ้า บอกว่าอายุของเจ้าก็มากพอแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้แต่งตั้งภรรยายากที่จะหลีกเลี่ยงให้คนรอบข้างรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ท่านพ่อได้ยินแล้วอึ้งกับที่ คิดว่าจะเลือกหญิงที่ประกอบด้วยความสามารถและซื่อสัตย์ที่ประกวดรุ่นนี้ ให้กลายเป็นภรรยาของเจ้า”
สายตาองค์ชายสามกลายเป็นว่าลึกลงไปหน่อย
ทีแรกเพียงคิดว่าฟู่ลั่วเฉินเป็นลูกคนรวย แต่ใครจะคิดได้ว่า ที่ผ่านมานี้ทุกอย่างเป็นการอำพราง!
ฟู่ลั่วเฉินไม่ใช่ผู้ที่ไม่เข้าใจหรือไม่รู้เกี่ยวกับการเป็นลูกคนรวย แต่เป็นหมาป่าที่สามารถกัดกระดูกคนหักได้ในหนึ่งคำ!
แต่องค์ชายสามก็รู้อยู่แล้วว่าฟู่ลั่วเฉินแกล้งทำเป็น ก็ไม่มีวิธีการที่จะจัดการเขาได้
ใครให้ท่านพ่อเชื่อใจจวนยู่ชินอ๋องละ ยิ่งรักฟู่ลั่วเฉินมากขึ้นเลย?
บางทีก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ท่านพ่อกระทำต่อพวกองค์ชายด้วยความเข้มงวดอย่างมาก แต่ดันรักและตามใจฟู่ลั่วเฉินเป็นอย่างมาก ตามใจให้เขาก่อปัญหาที่เมืองหลวง กฏระเบียบมารยาทอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น
ถ้าหากฟู่ลั่วเฉินเป็นลูกคนรวยก็ช่างแล้ว แต่ว่าสิ่งต่างๆเป็นการแกล้งทำทั้งนั้น วันนี้เขาก็ได้ลุกพรึบทำสีหน้าอันไม่พอใจขึ้น อยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร? ลับหลังนี้มีท่านพ่อมาร่วมมือด้วยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ