คำถามมากมายเกี่ยวกับฟู่ลั่วเฉินที่องค์ชายสามสงสัยมาหลายปีได้วนเวียนอยู่ในใจ ถึงแม้ในใจองค์ชายสามเกลียดชังหนักแน่นฟู่ลั่วเฉินอย่างมาก ก็ไม่ได้ตัดสินใจโผล่สีหน้าอันบุดเบี้ยวไปเถียงกัน
สีหน้าฟู่ลั่วเฉินยังคงยิ้มแฉ่ม แต่ว่าความหมายของการยิ้มแฉ่มนี้เย็นฉ่ำกว่าคราวก่อนมาก “ท่านแม่พระสนมไม่สนองค์ชายสอง ทำไมยื่นมือมายังฝั่งข้าละ? ข้าจะแต่งงานกับภรรยาเมื่อไหร่ จะแต่งกับคนแบบไหน ก็น่าจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับท่านแม่พระสนมเลย”
ฟังออกว่าเสียงฟู่ลั่วเฉินไม่ได้มีความสุข ในใจองค์ชายสามดีใจขึ้นมา
“ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ว่าแม่นางพระสนมบอกว่าจวนอ๋องของจวนยู่ชินอ๋องนานแล้วไม่ได้มีเจ้าบ้านหญิง การสมรสของเจ้าอาจจะต้องล่าช้าสักหน่อยแล้ว จึงให้ข้อเสมอแนะแก่ท่านพ่อ ให้ท่านรีบหาเนื้อคู่ที่ดีให้กับเจ้า”
“กราบขอบพระคุณที่ท่านมาเตือนก่อน แต่ว่าข้าตอนนี้นอกจากฉิ้นหว่าน ไม่ได้มีการตัดสินใจที่จะไปรับคนอื่นมาเป็นภรรยา คงจะทำให้ท่านแม่พระสนมผิดหวังแล้วละ”
“ลั่วเฉิน นอกจากแม่นางเฟิงแล้วเจ้าจะไม่รับใครมาเป็นภรรยาเลยหรือ? หากว่าเจ้ามั่นใจแล้ว ข้าก็สามารถช่วยได้” น้ำเสียงองค์ชายสามอุ่นๆ
ฟู่ลั่วเฉินขยับอย่างไร้ร่องรอย องค์ชายสามบอกว่าจะช่วย แน่นอนเลยว่าเคยแอบสืบสวนเรื่องของเขาและฉิ้นหว่านอย่างลับๆและอย่างละเอียดถ้าไม่อย่างนั้นจะมั่นใจขนาดนี้ได้อย่างไร?
ไม่รู้ว่าทำไม ฟู่ลั่วเฉินสักพักก็นึกถึงบนตัวเหลียงฮุยที่รีบมายังเจียงหนาน ในใจได้ผุดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
“หรือว่าท่านมีวิธีอะไร?”
“คนข้างนอกพูดว่าเจ้าและแม่นางเฟิงไม่เหมาะสมกัน ก็มีเพียงแต่แค่ว่าแม่นางเฟิงฐานะต่ำต้อย ชื่อเสียงก่อนหน้านี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ สำหรับชื่อเสียงแล้ว ก็เพียงแค่คำติของคนรอบข้าง ผ่านไปสักช่วง ค่อยๆปรับอย่างลับๆ แน่นอนว่าจะดีขึ้นมา ฉะนั้นปัญหาที่เหลือก็แค่ฐานะของนางข้อเดียวนี้แหละ”
“แต่ฐานะก็ถูกกำหนดไว้แล้ว จะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆยังไงละ?”
องค์ชายสามได้โผล่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมายอันลึก “ลั่วเฉิน ถ้าหากเป็นคนอื่นก็คงจะไม่สามารถทำได้ง่ายขนาดนี้ ในเมื่อมีดวงตาจับจ้องมองเยอะขนาดนี้ แต่แม่นางเฟิงโชคดี ที่จริงแล้ว เฟิงหลิงไม่ใช่บิดาผู้ให้กำเนิดของนาง”
สีหน้าฟู่ลั่วเฉินเต็มไปด้วยความตกใจ แต่ในใจเย็นฉ่ำไหลเวียน องค์ชายสามได้เตรียมพร้อมมาก่อนแล้วแน่ๆ!
“นี่เป็นไปได้อย่างไร ทั่วทั้งหลินผิงจะมีใครไม่รู้ว่าเฟิงหลิงรักเฟิงฉิ้นหว่านมากขนาดไหน?”
“เรื่องมันยาว แล้วหลายปีที่ผ่านมาตระกูลเหลียงพูดถึง……” องค์ชายสามตั้งใจสังเกตสีหน้าของฟู่ลั่วเฉิน ค่อยๆพูดเรื่องราวชีวิตจริงของเฟิงฉิ้นหว่านออกมา
ฟู่ลั่วเฉินค่อยๆขมวดคิ้ว “แสดงว่า เฟิงฉิ้นหว่านเป็นลูกสาวของนายท่านซูฮั่นจาง?”
“ถูกต้อง”
“ท่านรู้ได้อย่างไร?”
ตอนที่เขาออกจากหลินผิง เฟิงฉิ้นหว่านและเหลียงฮุยก็ไม่ได้พบกันเลย เขาเร่งรีบขี่ม้ากลับมา เวลาเร่งด่วนมาก ถึงแม้ว่าฝั่งเจียงหนานจะมีข่าวคราวอะไร ก็ไม่สามารถส่งสารมายังมือขององค์ชายสามได้
แต่วันนี้ องค์ชายสามกล่าวอย่างมั่นใจเกี่ยวกับชีวิตจริงของเฟิงฉิ้นหว่าน เหมือนกับว่าได้เคยสืบหลักฐานมาก่อนแล้ว เขารู้ได้อย่างไรกันแน่ และรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ฟู่ลั่วเฉินยิ่งคิดมากขึ้น ในใจเตรียมพร้อมรับมือกับองค์ชายสามยิ่งมาขึ้นเรื่อยๆ
เฟิงหลิงเดินทางในเจียงหนานมานานหลายปีนี้ ยังก่อตั้งเส้นทางการค้าเจียงหนาน เขายังกล้านั่งหัวแถว เขากล้าที่จะอวดอ้างตนเอง ก็แสดงว่าเขามั่นใจว่าไม่มีใครสืบข้อมูลที่แท้จริงของตัวเขา
แต่วันนี้องค์ชายสามได้กระทำการตอนที่ทุกคนที่ยังไม่ทันตั้งตัว บอกให้เขารู้เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตจริงของเฟิงฉิ้นหว่าน ถ้าอย่างนั้นก็บ่งบอกถึงองค์ชายสามรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว?
รู้เช่นนี้ ก่อนหน้านี้เฟิงหลิงเคยพึ่งพาองค์ชายสาม หากว่าองค์ชายสามรู้เรื่องราวชีวิตจริงของเฟิงฉิ้นหว่านมาตั้งนานแล้ว แสดงว่า การพึ่งพาตอนนั้นใช่หรือไม่ว่าองค์ชายสามตั้งใจที่จะแนะนำ?
องค์ชายสามหัวเราะเบาๆ “ข้ารู้มาจากคนตระกูลเหลียง แต่ว่าคนตระกูลเหลียงรู้มาจากไหน อันนี้ถ้าไม่ทราบ”
รอยยิ้มบนหน้าของฟู่ลั่วเฉินหายไป มีความคิดอันเย็นฉ่ำมาแทนที่
“ความคิดของท่านธรรมดาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” อะไรชื่อเสียง อะไรฐานะ นั่นไม่ใช่ให้ผู้ชายดูหรอกหรือ? หากว่าผู้ชายไม่ได้อคติ หญิงสาวอยากใช้ชีวิตอย่างไรก็แล้วแต่นาง ทำไมต้องเอาชื่อเสียงหรือฐานะมาเป็นข้อจำกัด?”
องค์ชายสามไม่คิดเลยว่าอุส่าพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ฟู่ลั่วเฉินยังฟังไม่เข้าหู
“ทีแรกข้าคิดว่าในใจเจ้าแม่นางเฟิงสำคัญมาก ตอนนี้ดูแล้วก็ไม่เท่าไหร่ คือเจ้าจะไม่ยอมจำนนต่อนางเลยหรือ?”
เขาอยากหลอกใช้ความจริงของชีวิตเฟิงฉิ้นหว่านมาทำเป็นบทความ บังคับฟู่ลั่วเฉินกดเรื่องเรือนไป๋เซียงลง แต่เสียดายไม่เป็นดั่งใจ
“ท่านพูดอะไร? ทำไมข้าไม่เข้าใจ?”
“เจ้าไม่ยอมเข้าใจหรือ?” สายตาองค์ชายสามมีความโกรธกริ้วหน่อยๆ
ฟู่ลั่วเฉินตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา “อาจเป็นเพราะช่วงนี้ไปๆมาๆรีบจนเบลอแล้ว สมองใช้การไม่ได้ ไม่เข้าใจความหมายของท่านจริงๆ หรือว่าท่านกลับไปก่อน ให้ข้าพักผ่อนดีๆหน่อย เข้าใจเมื่อไหร่แล้ว จะไปเยี่ยมเยียนท่านแน่นอน”
องค์ชายสามลุกขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ ก้าวเดินด้วยก้าวเท้าอันใหญ่
ฟู่ลั่วเฉินมองเขาผู้เดินจากไป สายตาอันลึกซึ้งเต็มไปด้วยความหนาวเย็น
จวนยู่ชินอ๋องเดินออกมาจากหลังกระดานบังลม สีหน้าเข้มงวด “ลั่วเฉิน คำพูดเมื่อกี้ท่านพ่อได้ยินหมดแล้ว อาจเป็นเพราะพวกข้าประเมินค่าองค์ชายสามไปต่ำไป องค์ชายสามจะเอาเรื่องจริงขีวิตของแม่นางเฟิงมาทำเป็นบทความ พวกข้าคงจะโดนผลกระทบอย่างหนักด้วย เจ้าคงคิดดีแล้วใช่ไหมว่าควรจะทำอย่างไร?”
ฟู่ลั่วเฉินหลับตาลงเบาๆ แสงใต้ตาตื้นตัน “ท่านพ่อ ท่านสั่งสอนข้า ต้องปกป้องหญิงสาวที่ตัวเองชอบให้มากที่สุด ข้ากล้าที่จะให้เฟิงฉิ้นหว่านเป็นผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ต่อหน้าคนทั้งปวง และเชื่อว่าสามารถปกป้องนางให้ปลอดภัยจากทุกอย่าง ไม่สนอะไรองค์ชายสาม หรือว่าจวนเฉิงเสี้ยน อยากยื่นมือไปยังนางฝั่งนู้น ก็ต้องผ่านด่านข้าทางนี้ก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ